Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคใต้- 9 ก.ย. 47 เมื่อวานนี้(8 ก.ย.) กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ คดีเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 41 วิสามัญฆาตกรรมนายอัสมิน นูรุลอาดิล อายุ 20 ปี เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นคนร้ายที่ก่อความไม่สงบในภาคใต้ เหตุเกิดที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 6 กันยายน2547 ที่ผ่านมาลงนามโดย พ.ท.อาคม พงศ์พรหม รองผู้ให้ข่าวกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า แจกจ่ายสื่อมวลชน

ทั้งนี้เหตุเกิดจากนายมูฮำมัดรอมลี เจ๊ะและ อายุ 40 ปี และนายอัสมิน ที่มีศักดิ์เป็นอา-หลาน เข้าเคลียร์ปัญหากับนายอับดุลอาซิส หะยีดอเลาะ อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคยะลา แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ และนายอับดุลอาซิสได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ แต่กระสุนพลาดไปถูกนายดอรอเฮง มาฮะ ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นนายอับดุลอาซิสและนายอัสมินได้วิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้าใจว่าทั้งสองเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายดอรอเฮง เพราะถืออาวุธปืนขนาด .22 วิ่งหลบหนี

โดยแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 41 ได้ตะโกนให้ทั้งสองหยุดและวางอาวุธปืน แต่บุคคลทั้งสองไม่ได้ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 2-3 นัด แต่บุคคลทั้งสองไม่ยอมหยุดวิ่งและทิ้งอาวุธปืน ประกอบกับมีประชาชนบริเวณนั้นร้องตะโกนให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าทั้งสองเป็นคนร้าย ชุดปฏิบัติการจึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงไป 1 นัด ทำให้บุคคลที่ถืออาวุธปืนเสียชีวิต และจับกุมได้ 1 คน

แถลงการณ์ระบุว่า สอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายอัสมิน เจ๊ะและ หรืออัสมิน นูรุลอาดิล และนายมูฮำมัดรอมลี สาเหตุมาจากบุคคลทั้งสองมาพบอาจารย์คนหนึ่งเพื่อเจรจาปัญหาส่วนตัว โดยทั้งสองฝ่ายพกพาอาวุธปืนไปด้วย แต่การเจรจาตกลงกันไม่ได้ อาจารย์จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ บุคคลทั้งสองจึงวิ่งหนีออกมาประสบเหตุดังกล่าว ทางกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ได้ตรวจสอบแล้วพบว่านายอัสมินและนายมูฮำมัดรอมลี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด

ด้านนายอุสมาน นูรุลอาดิล บิดาของนายอัสมิน ได้ออกแถลงการณ์ ขอยืนยันข้อเท็จจริงที่ได้จากพยานบุคคลในที่เกิดเหตุว่า ขณะเกิดเหตุนายอัสมินและนายมูฮำมัดรอมลี ไม่ได้มีพฤติกรรมก่อเหตุร้ายในฐานะผู้ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด ไม่ปรากฏพฤติการณ์ใดว่าจะใช้อาวุธประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ และนายอัสมินถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิงขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐกดหัวแนบกับพื้นในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนและต่อสู้เจ้าหน้าที่รัฐได้เลย ประกอบกับข่าวที่ระบุว่านายอัสมินเป็นผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ เป็นการสร้างตราบาปให้กับนายอัสมินและครอบครัว ทั้งที่นายอัสมินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองยะลา ได้แยกคดีที่เกิดขึ้นเป็น 3 คดีคือ คดีแรก ดำเนินคดีนายอับดุลอาซิส ในข้อหาพยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายอับดุลอาซิสได้เข้ามอบตัวสู้คดีและประกันตัวไปแล้ว คดีที่ 2 ตั้งข้อหานายมูฮำมัดรอมลี ในข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และคดีที่ 3 ตั้งข้อหาทหารพรานที่ยิงนายอัสมินเสียชีวิตในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์วิสามัญดังกล่าวต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายและเสียชีวิตไปแล้วหลายร้อยคน ความหวาดกลัวและปัญหายังคงมีอยู่ ซึ่งเราต้องสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้านนายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การวิสามัญฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ต้องรอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเจ้าหน้าที่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อน ดังนั้น สามารถทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้

รายงานโดย : ศูนย์ข่าวภาคใต้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net