นายตานติน พ่อค้าอัญมณีในมัณฑะเลย์เปิดเผยว่า สาเหตุที่รัฐบาลต้องการย้ายศูนย์กลางการค้าขายอัญมณีมาอยู่ในย่างกุ้งเพราะจะได้ควบคุมดูแลง่ายขึ้น อีกทั้งสามารถส่งออกปริมาณอัญมณีในจำนวนที่มากอย่างถูกกฎหมาย

ทั้งนี้ หลังจากข่าวการย้ายศูนย์กลางค้าขายหยกไปยังย่างกุ้งแพร่ออกไป การค้าขายอัญมณีในมัณฑะเลย์ก็ชะลอตัวลงโดยเฉพาะการค้าขายหยก

อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางการค้าขายอัญมณีในมัณฑะเลย์รับซื้ออัญมณี อาทิ หยก ทับทิบ และแซพไฟร์ มาจาก 6 พื้นที่ ได้แก่ จากเมืองโมก๊อก ในมัณฑะเลย์ เมืองสู้ในรัฐฉาน เมืองคำตี จากภาคสะกาย  เมืองโมญิน เมืองผากั้นและเมืองนำยาจากรัฐคะฉิ่น

ก่อนหน้านี้ ศูนย์การค้าขายอัญมณีมัณฑะเลย์ที่เก่าได้เปิดใช้มาเป็นเวลาหลายสิบปี ต่อมาในปี 2540 คณะกรรมการพัฒนาเมืองมัณฑะเลย์ได้ย้ายศูนย์อัญมณีมาอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีร้านค้ามากกว่า 2,000 แห่ง  

อุตสาหกรรมอัญมณีในมัณฑะเลย์เป็นแหล่งอาชีพขนาดใหญ่ให้กับคนในพื้นที่ ซึ่งนักธุรกิจค้าหยกแกะสลักคนหนึ่งกล่าวว่า การย้ายศูนย์กลางอัญมณีไปอยู่ในย่างกุ้งจะทำให้ประชาชนนับแสนคนได้รับความเดือดร้อน เพราะการค้าขายหยกในมัณฑะเลย์ที่ได้รับความนิยมเป็นเวลาหลายปีเป็นแหล่งงานที่ใหญ่ที่สุดของคนในท้องถิ่น

นายตานตินกล่าวเพิ่มเติมว่า หยก ทับทิม แซพไฟร์และอัญมณีชนิดอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในตลาดอัญมณีในมัณฑะเลย์จะมีพ่อค้าเครื่องประดับในท้องถิ่นมารับซื้อ ขณะที่อัญมณีบางชนิดถูกพ่อค้าชาวจีนซื้อไปอย่างผิดกฎหมายและส่งไปขายยังฮ่องกงและเกาะมาเก๊า นายตานตินกล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกคนรู้สึกเสียใจ เพราะไม่อยากให้มีการย้ายเกิดขึ้น

หนังสือพิมพ์เดอะนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ สื่อท้องถิ่นของรัฐบาลพม่ารายงานว่า รัฐบาลพม่าได้ประมูลขายอัญมณีและหยกจำนวน 600 ล๊อต หลังจากมีการประมูลขายทอดตลาดระหว่างวันที่ 15 - 19 มกราคมที่ผ่านมา ที่จัดขึ้นโดยบริษัทที่มีกองทัพพม่าเป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่สหรัฐและสหภาพยุโรปได้เพิ่มมาตรการ คว่ำบาตรสินค้าอัญมณีจากพม่าทุกชนิดเมื่อเร็ว ๆ นี้

-------------------------------------

CHUEM NEWS โดย ศูนย์ข่าวสาละวิน