Skip to main content
sharethis

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เปิดชื่อคนร้ายบุกยิงชาวมุสลิมในมัสยิดอัลฟุรกอน เผยอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมมาดำเนินคดี และเตรียมออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 ราย ยันหลักฐานชัดเจน คนร้ายไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ

โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรารายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2009 ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมร่วมกับนายตำรวจระดับสูง เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะคดีกลุ่มคนร้ายบุกยิงชาวมุสลิมในมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอปาแย ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส รวมทั้งคดียิงครูเสียชีวิตอีกหลายรายว่า คดีคนร้ายยิงถล่มมัสยิดที่บ้านไอปาแย ล่าสุดจากที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว 1 ราย คือ นายสุทธิรักษ์ คงสุวรรณ อายุ 34 ปี อยู่ที่ตำบลบางปอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมมาดำเนินคดี และเตรียมออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 รายในเร็ววันนี้ จึงขอยืนยันว่าจากการรวบรวมหลักฐานชัดเจนว่ากลุ่มคนร้ายไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐอย่างแน่นอน
 
ทั้งนี้ ในที่ประชุมดังกล่าว มีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ว่า นายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหาหลบหนีคดีปล้นปืนจากค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 และแกนนำคนสำคัญของกลุ่มก่อความไม่สงบ ได้แฝงตัวเดินทางเข้ามาประชุมสมาชิกแนวร่วมระดับสั่งการและปฏิบัติการที่เคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่ อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ และอำเภอใกล้เคียง เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในช่วงคาบเกี่ยวเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 20 ส.ค.นี้ นายสุเทพ จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่เร่งวางมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยร่วมมือกับฝ่ายทหารและฝ่ายปกครองอย่างใกล้ชิดเพื่ออุดช่องโหว่ทั้งหมด ไม่ให้กลุ่มคนร้ายเคลื่อนไหวก่อเหตุได้
 
จากนั้น นายสุเทพ พร้อมคณะ ยังเดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาและกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจตำรวจ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่
 
นายสุเทพ กล่าวอีกครั้งหนึ่งว่า เท่าที่ได้ติดตามรับฟัง พบว่าตำรวจในพื้นที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีขวัญและกำลังใจ สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายพลเรือนและทหารได้ดี สังเกตได้จากคดีสำคัญๆ ต่างๆ สามารถคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว และออกหมายจับผู้ต้องหาได้ อย่างเช่น คดีคาร์บอมบ์ที่ อำเภอยะหา จังหัดยะลา ก็สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้หลังเกิดเหตุ และล่าสุดก็สามารถออกหมายจับได้แล้ว ทั้งนี้รัฐบาลจะเร่งสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการทำงาน โดยเฉพาะเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ให้เพียงพอสำหรับทุกท้องที่ต่อไป
 
 
 
……………………………………..
ที่มา : โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net