Skip to main content
sharethis

22.00 น. ขอรายงานให้ทราบเหตุการณ์ตลอดทั้งวัน 2-3 วันที่ผ่านมา หลังศอฉ.มีมาตรการกระชับวงล้อมพื้นที่ชุมนุม ได้เกิดปฏิกริยาจากกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ก่อการร้าย เกิดเหตุการณ์วางเพลิง ปิดเส้นทางการจราจรหลายจุด ดังนั้น เป้าหมายของรัฐบาลให้เหตุการณ์ต่างๆ ยุติลงโดยเร็ว จึงตัดสินใจกระชับวงล้อมในช่วงเช้าตรู่ เจ้าหน้าที่ยังยึดหลักปฏิบัติสากล ต่อมาช่วงบ่าย แกนนำตัดสินใจยุติการชุมน เข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่เดินหน้าอำนวยความสะดวกให้ประชาชนกลับภูมิลำเนา ตรวจพื้นที่ต่างๆ พบอาวุธจำนวนมาก

การยุติการชุมนุมทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้ชุมนุมบ้าง ที่สำคัญ กลุ่มใช้อาวุธก่อการร้ายได้เดินหน้าสร้างความวุ่นวายความปั่นป่วน โดยเฉพาะการวางเพลิง เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขสถานการณ์ หลายจุดยังมีผู้มีอาวุธใช้อาวุธต่อผู้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งการดับเพลิง ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกส่วนไม่ลดละความพยายามระงับเหตุ บางพื้นที่ที่ยังไม่เรียบร้อยก็พยายามคุ้มกันคนเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ขอถือโอกาสนี้เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหน่วยดับเพลิงที่ต้องใช้ความกล้าหาญในหลายโอกาส และเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สะดวกมากขึ้นเราจึงจำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิวที่อาจกระทบกับประชาชนในการเดินทางบ้าง มาตรการนี้มีความจำเป็น ขอความร่วมมือกับประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ปรารถนาจะเห็นความสงบสุขของบ้านเมือง
ศอฉ.กำลังดูแลผลกระทบต่างๆ และการเฝ้าระวังในคืนนี้ ได้กำชับตำรวจทุกพื้นที่ เฝ้าระวังสถานที่ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย ขณะเดียวกันพื้นที่ราชประสงค์ยังมีผู้ชุมนุมตกค้างจำนวนหนึ่ง มีการจัดทำแผนต่างๆ ในการส่งคนเหล่านี้สู่ภูมิลำเนาในวันพรุ่งนี้ ทั้งหมดเป้าหมายเดียวคือ นำความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านเมือง บุคคลที่วางเพลิงจะมีโทษหนักและเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายด้วย ขณะเดียวกันขอความร่วมมือกับประชาชนคือ ให้ความร่วมมือกับมาตรการที่ศอฉ.ประกาศ, หนทางในการระงับเหตุคือการประชาชนเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ขอให้เฝ้าระวังตลอดทั้งคืนเท่าที่จะทำได้ ขอให้สบายใจว่ารัฐบาลมีความมั่นใจและแน่วแน่ว่าจะฝ่าฝันปัญหาต่างๆ ไปได้ นำบ้านเมืองสู่ความสงบ และฟื้นฟูบ้านเมืองต่อไปได้
ต่อมานายธาริต เพ็งดิษ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลหนึ่งก่อเหตุวางเพลิง ซ้ำเติมความรุนแรงให้มากยิ่งขึ้น ดีเอสไอขอเรียนให้ผู้กระทำความผิดได้ทราบว่า ความผิดที่ทำไปแล้วหรือกำลังจะทำ ไม่ว่าฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ หรือการก่อการร้ายก็ตาม ทั้งสองความผิดนี้มีโทษรุนแรงมากถึงประหารชีวิต และสองฐานความผิดมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ขอเตือนผู้กำลังคิดทำสิ่งไม่ดีให้หยุดยั้งการกระทำ ที่สำคัญ ทหาร ตำรวจ ที่กำลังคลี่คลายสถานการณ์ หากพบคนร้ายวางเพลิงเผาทรัพย์ ปล้นสะดมภ์ จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนสกัดกั้น ป้องกัน ขอให้ท่านได้เตือนญาติพี่น้อง แม้จะไปร่วมชุมนุมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด แล้วร่วมวางเพลิงเผาทรัพย์สถานที่ราชการ ก็ถือเป็นการร่วมกันทำความผิด ต้องรับโทษหนักด้วย
พ.ต.อ.ทรงพล วัฒนชัย รองโฆษก บชน.กล่าวว่า นายกฯ ได้กำชับ สตช. ระดมกำลังตั้งด่านตรวจป้องกันการก่อเหตุร้าย โดยใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด อีกเรื่องหนึ่งได้รับมอบหมายให้ สตช.นำมวลชนที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับบ้าน สตช.จะเตรียมรถไว้บริการที่สตช. ขณะนี้กำลังวางแผนอำนวยความสะดวก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net