Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

เว็บบล็อก Bangkok in Development นำเสนอบทความชื่อ 'สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมไทย' (A small lesson in Thai culture) โดย fredmarmann ซึ่งเป็นบันทึกกึ่งแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเสวนาเรื่อง "ประเทศไทยในสายตาของคนอื่น" (Thailand in the Eyes of Others) ที่จัดขึ้นที่ FCCT เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา

3 มิ.ย. 2553 - เว็บบล็อก Bangkok in Development นำเสนอบทความชื่อ 'สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมไทย' (A small lesson in Thai culture) โดย fredmarmann ซึ่งเป็นบันทึกกึ่งแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเสวนาเรื่อง "ประเทศไทยในสายตาของคนอื่น" (Thailand in the Eyes of Others) ที่จัดขึ้นที่ FCCT เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา

หมายเหตุผู้แปล - ผู้แปลเห็นว่าบทความชิ้นนี้มีการเขียนแบบประชดเสียดสีในหลาย ๆ จุด ซึ่งผู้แปลจะแปลตรงตัวตามประโยคนั้นและพยายามรักษาน้ำเสียงประชดประชันไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

000

เย็นวานนี้มีการจัดเสวนาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทย (FCCT) ในหัวข้อ "ประเทศไทยในสายตาของคนอื่น" ที่พูดถึงเรื่องวิธีการที่สื่อต่างประเทศมองไทย

มีวิทยากรผู้ร่วมเสวนาคือ :

สุเมธ ชุมสาย - สถาปนิก, ศิลปิน และนักวิจารณ์สังคม
ไกรศักดิ์ ชุณหวัณ - รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, อดีตส.ว. และผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศ
พนา จันทรวิโรจน์ - กรรมการ บ.มจ. เดอะ เนชั่น
สมเถา สุจริตกุล - นักประพันธ์เพลง, นักเขียน และนักวิจารณ์สังคม

การเสวนาเริ่มจากสมเถาผู้ที่ดูเป็นกลางมากที่สุดใน 4 คน เขาขึ้นต้นด้วยการแสดงความโกรธต่อการรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศที่ไม่เป็นกลางและบอกว่าเหตุใดคนไทยถึงรู้สึกว่าขุ่นเคือง จากนั้นเขาจึงให้เหตุผล 3 เหตุผลว่าทำไมถึงคิดว่าข้อเขียนของสื่อต่างประเทศนั้นมีอคติหรือนำเสนอผิด ๆ ดังนี้:

- บุคลิกของผู้สื่อข่าว (โง่, ถูกจ้าง, ...)
- อคติทางวัฒนธรรม (พวกเขาเข้าไม่ถึงแก่นของความขัดแย้ง)
- "สงครามปฏิรูป" (เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชือจากทักษิณ)

เรื่องฮา ๆ คือ : เสียงของเขา (สมเถา) ฟังดูเหมือนตัวการ์ตูนชื่อ Stewie จากเรื่อง Family Guy หยุดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้เลยเชียว

คนพูดคนถัดมาคือสุเมธ เขาเป็นศิลปินผู้ "โชกโชน" และเป็นสถาปนิกที่ได้รับการยอมรับในไทย สำหรับผมแล้วคงต้องบอกว่าผมไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่เพราะเขาชอบพูดล่วงเกินและถากถางคนอื่น ทำให้ทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นตัวตลกไปหมด การอภิปรายของเขาในตอนตันส่วนใญ่เป็นเรื่องล้อเลียนนักข่าวต่างประเทศ ที่เขาคิดว่าเป็นแค่คนโง่ที่พบเจอได้ตาม 'ซอยคาวบอย' (ย่านอโคจร) จากนั้นเขาจึงพูดถึงเสื้อแดง และพฤติกรรมของพวกเขาที่สร้างความรุนแรงและเอาเด็กมาเป็นโล่กำบัง (น่าจะหมายถึงเรื่องที่มีชายคนหนึ่งอุ้มลูกของเขาไว้ที่แนวกั้นโดยมีทหารอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วฉากนี้ก็ถูกสื่อนำมาใช้ประโยชน์อย่างมาก อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นแค่ตัวอย่างเดียวของคุณพ่อที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนหนึ่ง) ความเห็นที่เด็ดที่สุดของเขาคือ แม้แต่พวกนาซียังไม่ทำแบบนี้เลย (มีเสียงตอบรับเกรียวกราว) โลกนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหากไม่มีพวกนาซี? ก็ไม่มีใครไว้ให้เปรียบเทียบไงเล่า ... ในตอนท้ายเขาบอกว่าเขาเกลียดพวกนักวิชาการที่ทำให้การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงดู 'โรแมนติก' โดยละเลยความเป็นม็อบรุนแรง

ไกรศักดิ์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ พรรคที่เป็นรัฐบาลอยู่ตอนนี้เป็นคนพูดคนถัดมา ผมขอสาธยายการอภิปรายของเขาออกมาเป็นข้อ ๆ เพราะไม่มีอะไรให้วิเคราะห์มากนัก เขาดูเป็นพวกชอบถากถางเท่านั้นเอง...

- เขายกตัวอย่างว่ามีนักข่าวต่างประเทศโทรหาเขาในตอนกลางคืนบ่อยมาก เพื่อถามเขาว่าทำไมรัฐบาลถึงถูกควบคุมโดยกองทัพ แล้วก็แสดงความโกรธต่อพวกนักข่าวที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร เพราะแน่นอนว่ารัฐบาลไม่ได้มาจากการแต่งตั้งของกองทัพ

- เขาเปลี่ยนเรื่องมาสู่เรื่องการสังหารหมู่โดยทหารในภาคใต้ในสมัยรัฐบาลทักษิณ

- เขาปฏิเสธเข้าร่วมการเชิญจาก FCCT ในคราวก่อนหน้านี้เรื่องจากมีเสื้อแดงชุมนุมกันอยู่โดยรอบ และเขาเชื่อว่าพวกนี้ต้องมารุมทำร้ายเขาแน่

- ทักษิณเป็นผู้ที่นำรถบรรทุกน้ำมันสองคันมาแถวดินแดงเพื่อระเบิดแถวนั้น

- ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่รัฐบาลสั่งระงับการทำธุรกรรมของทักษิณ

- พวกเสื้อแดงคิดว่า นี่เป็นการปฏิวัติอย่างโรแมนติก

- ล้อพวกนักข่าวที่พูดไทยไม่ได้และบอกว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าใจการปราศรัยบนเวที ที่เป็นเรื่องการยุยงความรุนแรงทั้งนั้น

- บ่นเกี่ยวกับเรื่องโร้ดแม็ปของอภิสิทธิ์ เพราะคิดว่าการเจรจากับเสื้อแดงจะทำให้เกิดความรุนแรง และเขาจะไม่รณรงค์หาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือเนื่องจากกลัวว่าเขาจะ "ถูก M79 ยิงใส่"

- เกี่ยวกับ เสธ.แดง เขาเป็นพวกนักเลง (gangster) จึงไม่ถือว่าเป็นการสูญเสียเพราะมีนายพลมากพอแล้ว และไมมีใครเลยยอมรับว่าเขาเป็นเสื้อแดง

- ไม่ใช่คนที่ชื่นชอบอภิสิทธิ์ด้วย เนื่องจากเขาไม่สามารถจัดการกับปัญหาความขัดแย้งอย่างปัญหาภาคใต้ และสงครามยาเสพติดได้

สำหรับ พนา ซีอีโอของหนังสือพิมพ์อนุรักษ์นิยมที่ชื่อเนชั่น ผมเห็นว่าเขาน่าเบื่อเล็กน้อย และผมยอมรับว่าเขาทำเอาผมจับความไม่ได้หลายครั้ง เขาพูดถึงเกี่ยวกับสื่อตะวันตกที่ไม่เห็นใจประชาชนไทยและมองเห็นแค่คุณค่าของประชาธิปไตยเท่านั้น ความขัดแย้งทั้งหมดนี้เป็นสงครามผ่านตัวแทน (Proxy war) โดยทักษิณ และคนไทยที่มีการศึกษานั้นไม่ได้โง่แล้วก็มองเห็นว่าอะไรเป็นสาเหตุของความไม่เท่าเทียม ประเทศไทยเป็นรัฐล้มเหลว (failed state) เนื่องจากตำรวจไม่ทำงาน และสิ่งเดียวที่ทหารทำเป็นคือยิงปืน

จากนั้นก็มาถึงช่วง ถาม/ตอบ ตามมาด้วยการถกเถียงที่นำไปสู่ความว้าวุ่นบ้า ๆ บอ ๆ เล็กน้อย แต่ก็อีกเช่นเคยที่คำถามนั้นสำคัญกว่าคำตอบ

คำถาม : นักข่าวต่างประเทศมีอคติจริงหรือ? พวกเขาไปอยู่ในแนวหน้าของการชุมนุมขณะที่นักข่าวไทยกำลัง "เล่นละครน้ำเน่า"

วิทยากรหลีกเลี่ยงการตอบคำถามนี้ ซึ่งจริงอยู่ว่ามีนักข่าวไทยเข้ามารายงานจากพื้นที่ ในตอนจบ

คำถาม (จากทูตสวีเดน) : ในปี 1766 สวีเดนมีกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพสื่อ (Freedom of Speech) ซึ่งสิทธิ์นี้ไม่ได้มีเพื่อปกป้องแค่ความเห็นจากรัฐบาลหรือความเห็นทางการเมืองที่ถูกต้องตามหลักการเท่านั้น มีข้อเสนออะไรไหม?

คำตอบคราวนี้เป็นสิ่งที่ฮาที่สุดและในสายตาของผม มันเป็นคำตอบที่มีประโยชน์สุด ๆ ไปเลยในตลอดค่ำวันนี้

สุเมธ : "คุณก็มีเสรีภาพทางเพศ (free sex) ใน 'สแกนดิเนเวีย'  ด้วยนี่นา" (ทำไมเขาถึงกล่าวล่วงเกินได้ขนาดนี้?) จากนั้นเขาก็เปรียบเทียบเรื่องเสรีภาพสื่อกับการที่จิตรกรฉี่ใส่รูปของพระเยซู และมีเพียงชาวมุสลิมที่บ่นเรื่องนี้เนื่องจากพระเยซูก็เป็นหนึ่งในศาสดาของพวกเขาด้วย

(มีความเห็นใน Twitter โดย _bm ถึงเรื่องนีว่า "คุณอาจจะโกรธในเรื่องที่เขาพูดถึงเสรีภาพทางเพศ แต่นั่นมาจากการมองว่าประเทศตะวันตกนั้นมีแต่พวกนักท่องเที่ยวสะพายเป้ที่มาเริงสำราญทางเพศเพียงอย่างเดียว" โดยมี Hashtag ด้วยว่า #nosurprise หรือ 'ไม่แปลกใจเลย')

ขณะที่สมเถาตอบอย่างจริงใจว่าจริง ๆ แล้วประเทศนี้สมควรมีการฟังความเห็นจากทุกฝ่าย พลเมืองทุกคนสามารถเสนอความเห็นของตนได้

คำถาม : ชนชั้นนำไทยจะมีการตั้งแง่ไว้ก่อนแล้วว่าไม่มีฝรั่ง (ชาวต่างชาติ) คนไหนจะสามารถเข้าใจวัฒนธรรมไทย มีข้อเสนอไหม?

สมเถา : เขาเป็นเหยื่อของการตั้งแง่นั้นอยู่แล้ว เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วพวกเขาอาศัยอยู่ต่างประเทศ (ผมคิดว่าถ้ามองอย่างนี้ อภิสิทธิ์ก็เป็นชาวตะวันตกเอามากเหมือนกัน แล้วเขาจะเข้าใจมันไหม?)

คำถาม : CNN และสื่อต่างประเทศอื่น ๆ ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานจริง ๆ หรือ? ถ้าหากใช่ ทำไมพวกเขายังคงได้รับอนุญาตให้ทำงานในไทย

วิทยากรไม่ได้ให้คำตอบที่เกี่ยวข้องกับคำถามนี้เลย

คำถาม : ถ้าหากประเทศไทยนั้นมีลักษณะเฉพาะจนสื่อต่างประเทศไม่สามรถแตกต้องได้ แล้วไทยจะไปรู้เรื่องของประเทศอื่นได้อย่างไร?

สมเถา : เรื่องนี้ใครเป็นคนบอก?

จากนั้นก็มีคนเข้ามาเสริมเวที เริ่มพูดถึงประสบการณ์ของเขาจากการที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีเสื้อแดงชุมนุม และเขาก็บอกว่าไม่เห็นใครยิงปืนเลย (แต่ผมกลัวว่ารูปภาพและวิดิโอบ่งบอกถึงสิ่งที่ต่างจากนี้น่ะสิ)

คำถาม : มีคนอังกฤษคนหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางเสื้อแดง แล้วเขาก็ได้ยืนแต่การล้างสมองใน "แบบฮิตเลอร์" (hitleroesque) บนเวที แล้วก็มีปืนกับอาวุธอื่น ๆ จำนวนมากในที่ชุมนุมเสื้อแดง แล้วทำไมถึงไม่มีผู้สื่อข่าวคนไหนเห็นสิ่งเหล่านี้เลย (แล้วทำไมถึงแทนไม่มีรูปที่แสดงให้เห็นเลย?)

คำถาม : บ่นเกี่ยวกับการทำงานของสื่อไทย ว่าผู้สื่อข่าวไทยแอบเข้าไปเป็นสายลับรายงานเรื่องเสื้อแดงให้กับทหาร (ซึ่งนี่เรื่องที่ควรจะถามเกี่ยวกับจรรยาบรรณด้วย)

คำถาม : มีคนไทยหลายคนรู้สึกว่าโดยดูถูกและถูกข่มขืนโดยสื่อต่างชาติ ทำไมรัฐบาลไทยถึงไม่เคยพูดถึงภาพลักษณ์ไทยในสายตาต่างชาติเลย

คำถาม : ทักษิณมีเงินอยู่เท่าไหร่กัน

ผมคิดว่าคำถามเหล่านี้น่าสนใจ แตวิทยากรบนเวทีก็ตอบอะไรไม่ประติดประต่อ และทำให้ผมจับประเด็นไม่ได้ ความเห็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะจากสุเมธและไกรศักดิ์ จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังและท่าทีเย้ยหยันเสื้อแดงและสื่อต่างประเทศ

นี่เป็น 'สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมไทย' ที่แสดงให้เห็นว่าความคิดของทั้ง 2 ฝ่ายหยิ่งทะนงเพียงใด (แม้ว่าจะไม่มีวิทยากรที่เป็นเสื้อแดงบนเวทีเลย) ความขัดแย้งฝังลึกเข้าไปอีก และผม ฝรั่งคนหนึ่งที่เรียนรู้เรื่องประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ไม่นาน ยังคงต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้อีกมาก

แปลจาก

A small lesson in Thai culture…, fredmarmann, Bangkok in Development

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net