Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม หนึ่งวันก่อนหน้าฟุบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง ฮอลแลนด์ และ สเปน จะเริ่มขึ้น ดิฉันได้รับอีเมลจาก ลูน กังเก (Loon Gangte) ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ อินเดีย และ คาจาล บราดวัจ (Kajal Bhardwaj) ทนาย ความด้านสิทธิมนุษยชนและการเข้าถึงยา ชั้นแนวหน้าของอินเดีย ถามว่า “Who’s play football with your access to medicine”
 
ทุกคนคงกำลังตั้งตารอชมการแข่งฟุตบอล โลกนัดชิงชนะเลิศระหว่าง ฮอลแลนด์ และ สเปน อยู่ใช่ไหม

สเปน: เพิ่งลงจากตำแหน่งประธานสหภาพยุโรปเมื่อไม่กี่วันก่อน

* สหภาพยุโรปกำลังเจรจาการค้าเสรีระดับทวิภาคี (FTA) กับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก (อเมริกาใต้, เอเชีย* และแอฟริกา) โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมยาด้วยการทำลายอุตสาหกรรมยาในประเทศเหล่านั้น ซึ่งความน่าวิตกขณะนี้ คือ การที่สหภาพยุโรปกำลังเจรจากับอินเดีย ประเทศที่เป็นแหล่งยาชื่อสามัญสำคัญของประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะยาต้านไวรัสเอชไอวีเอดส์ สหภาพยุโรปกำลังผลักดันให้ขยายอายุสิทธิบัตร, สร้างรูปแบบการผูกขาดการขายยาด้วยการผูกขาดข้อมูลทางยา (data exclusivity), เพิ่มการใช้มาตรการตรวจจับชายแดน เช่นที่ยอมให้เนเธอร์แลนด์ยึดยาชื่อสามัญจากอินเดีย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง) และบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่เกินเลยจนละเมิดสิทธิพลเมือง, สิทธิทางการเมือง และคุกคามการผลิตและส่งออกยาชื่อสามัญ

* สหภาพยุโรปกำลังผลักดันให้ขยายการคุ้มครองและปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาใน หลายเวที (ก.) สนธิสัญญาลับๆ เกี่ยวกับการต่อต้านสินค้าปลอมแปลง (ข.) ผ่านการเจรจาการค้าทวิภาคี (FTA) และ (ค.) มีรายงานว่า สหภาพยุโรปเข้าไปสนับสนุนการแก้กฎหมายภายในประเทศต่างๆ เกี่ยวกับสินค้า ปลอมแปลง คำว่าสินค้าปลอมแปลง (counterfeit) ถูกนำมาสร้างความสับสนระหว่างยาปลอมกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้ความตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญา (TRIPS) ขององค์การการค้าโลก คำๆ นี้ถูกใช้ในกรณีการละเมิดเครื่องหมายการค้า แต่จากประสบการณ์ของอินเดียที่ต้องเผชิญกับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่เกินเลย ชี้ให้เห็นว่า สิทธิบัตรจำนวนมากได้มาอย่างไม่สมเหตสมผลกำลังสร้างผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการเข้าถึงยาชื่อสามัญของประชาชน

* สหภาพยุโรปภายใต้การทำหน้าที่ประธานของสเปนได้บ่อนทำลายการเข้าถึงยาของประชาชนในประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่เมื่อสเปนต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการเงินในประเทศยังต้องเลือกใช้วิธีการบังคับปรับลดราคายา     

เนเธอร์แลนด์: สมาชิกสหภาพยุโรป

* เนเธอร์แลนด์ยึดยาชื่อสามัญที่ถูกกฎหมายซึ่งถูกส่งจากอินเดียเพื่อไปยังผู้ป่วยที่รอในอเมริกาใต้และแอฟริกา ดังนี้ การยึดยาต้านไวรัสสูตรสำรอง ‘อบาคาเวีย’ ที่ สนามบินซีฟอล ในเนเธอร์แลนด์ เมื่อพฤศจิกายน 2551 โดยอ้างว่ายาดังกล่าวละเมิดสิทธิบัตรของบริษัทแกล็กโซในเนเธอร์แลนด์ ยาดังกล่าว เป็นยาที่ ยูนิเทด (UNITAID) องค์กรการกุศลภายใต้องค์การอนามัยโลกจัดซื้อจากอินเดียเพื่อส่งไปยังไนจีเรีย ยานี้ไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรทั้งในอินเดียและประเทศปลายทางแค่อยู่ในคาร์โก้ของเนเธอร์แลนด์ระหว่างรอส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทางเท่านั้น ซึ่งสหภาพยุโรปแก้กฎหมายของตัวเอง (และกำลังไปผลักดันการแก้กฎหมายในประเทศอื่นๆ ผ่านช่องทางต่างๆ) เพื่อยึดยารอส่งเหล่านี้

* เนเธอร์แลนด์ยังเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปที่กำลังเจรจาการค้าระดับทวิภาคีกับอินเดียและอีกหลายประเทศกำลังพัฒนา โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้สูงไปกว่าเดิมซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงยาของประชาชนในประเทศนั้นๆ โดยตรง

คุณจะเลือกเชียร์ชาติใด

ลุกขึ้นร่วมต่อต้านการยึดยาชื่อสามัญ
ลุกขึ้นร่วมต่อต้าน FTA กับสหภาพยุโรป
แจกใบแดงแก่สหภาพยุโรปซะ

ด้วยความสมานฉันท์

ลูน และ คาจาล
 

 

หมายเหตุ:

* สหภาพยุโรปกำลังขอเจรจาทวิภาคีกับประเทศไทย หลังจากไม่สามารถผลักดันการเจรจากับอาเซียนให้ลุล่วงไปได้ - ผู้เรียบเรียง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net