Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ผมได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนบ้านและกลุ่มช่วยเหลือตัวเองบ้านบัวทอง การเดินทางใช้ระยะยาวนานและยากลำบาก แต่กลุ่มนี้ได้ปิดตัวเองเนื่องจากไม่สามารถซื้ออาหารสดมาทำอาหารได้ บรรยากาศทั่วไปประชาชนย่านบางใหญ่และบางบัวทองมีความพยายามพึ่งตัวเองและไม่สนใจถุงยังชีพ การเดินครั้งเป็นความพยายามครั้งที่สอง ในการเดินไปให้ถึง หลังจากก่อนหน้าสามวันสามารถไปถึงแค่สี่แยกบางพูน เนื่องจากไม่มีรถบรรทุกเข้าไป ประกอบเป็นช่วงบ่าย จึงเกรงว่าเข้าแล้วจะกลับออกมาไม่ได้ วันนี้ไปถึงสี่แยกบางพูนตั้งแต่เวลา 10.00 น. เมื่อลงรถเมล์สาย 18 ที่สี่แยกบางพลู มีความอบอุ่นเหมือนเมื่อวันก่อน ที่มีประชาชนหลายร้อยคนนั่งคอยรถบรรทุกเพื่อเดินทางเข้าไป เมื่อสอบถาม พวกเขาบอก รถทหารมาบ้าง ไม่มาบ้าง ไม่มีความแน่นอน คนหนึ่งที่อยู่แถวถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย บอกว่าเขาเดินทางออกมาเมื่อวันก่อนอาศัยรถการไฟฟ้านครหลวงที่ไปจัดการเรื่องไฟฟ้า ผมรอสักพักจึงตัดสินใจเดินด้วยเท้าเพราะสี่แยกบางพลูห่างจากบ้านบัวทอง 5 - 6 กม. เพราะคะเนว่า ต้องใช้รถบรรทุกทหารประมาณ 4 – 5 คันเป็นอย่างน้อย ระหว่างเดินทางมีขบวนรถทหาร 6 คัน เป็นรถบรรทุกถุงยังชีพ 2 คัน ที่เหลือบรรทุกคนใส่เสื้อทีเชิร์ตสีฟ้า เข้าใจว่าน่าจะรวมขบวนแจกถุงยังชีพ ผมกับผู้ร่วมเดินทางอีก 2 คนจึงไม่โบก เมื่อเดินไปใกล้ทางยกระดับเข้าสู่ถนนกาญจนภิเษกเข้าออก น้ำท่วมสูงประมาณ 30 ซม. และมักจะเปียกถึงเอวจากรถกระบะที่วิ่งผ่าน แต่รถบรรทุกที่วิ่งผ่านกลับไม่ค่อยมีปัญหา เพราะใช้ความเร็วต่ำกว่า เมื่อมาเชิงสะพานเห็นรถการไฟฟ้านครหลวงวิ่ง พวกเราจึงโบก เพราะอีกสองคนมีเป้าหมายการเดินทางไปถึงบ้านกล้วย เมื่อผ่านตลาดบางใหญ่ มีประชาชนหลายสิบคนหิ้วถุงบิ๊กซี บางส่วนกำลังรอรถโดยมีอาสาสมัครคอยเรียกรถให้ บางคนกำลังขึ้นเรือรับจ้าง เมื่อผ่านถึงหน้าบิ๊กคิงส์ ก็พบประชาชนอีกกลุ่มที่ซื้ออาหารแห้งและน้ำประมาณ 8 แพ็คที่บิ๊กซี มาเรียกรถโดยจะไปลงที่วัดลาดปลาดุก ผมลงพร้อมกับชาวบ้านบัวทองที่สะพานข้ามคลองก่อนถึงหน้าหมู่บ้าน เพราะมีคนขอขึ้นรถ เราจึงลงเพื่อให้มีที่ว่าง เนื่องจากพื้นที่เต็มแล้ว หลังจากนั้น เราสนทนาถึงกลุ่มทีมงานคุณบัวทิพย์ สจ. ที่ตั้งกลุ่มช่วยเหลือตัวเองบ้านบัวทอง เพื่อนบ้านเล่าว่าทำโรงอาหารได้อยู่ 4 – 5 วัน แล้วเลิกไป ผมจึงบอกว่า คุณบัวทิพย์ เล่าถึงปัญหาว่า หลังน้ำท่วมบางใหญ่ ทำให้หาซื้ออาหารจำนวนมากไม่ได้ ต้องไปไกลถึงตลาดแค มีวันหนึ่งออกเดินทางตั้งแต่ตีห้ากลับมาถึงบ่ายสอง เพราะต้องโบกรถไปและรถของเธอไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากรถหนีน้ำคันอื่นจอดปิด แล้วเล่าต่อว่า เรื่องการซื้ออาหารสดผมได้แจ้ง ศปภ. แต่ไม่น่าจะเวิร์ก ชาวบ้านบัวทองกลุ่มนั้น เล่าต่อว่า พวกเขาไม่เคยได้รับถุงยังชีพและไม่สนใจ พวกเขาพยายามช่วยตัวเอง อย่างอาหารก็มาซื้อที่ตลาดบางใหญ่ซึ่งมีบ้าง แต่มีน้อยและแพงมาก และเห็นด้วยว่าน่ามีอาหารสดมากขึ้นและถูกลงที่ตลาดบางใหญ่ แล้วพวกเขาถามว่าจะเข้าไปไหม ผมตอบว่าคงไม่จำเป็น เพราะตั้งใจมาหาทีมงานคุณบัวทิพย์ แต่เมื่อไม่พบและไม่สามารถพบโดยสะดวก ค่อยติดต่อทางโทรศัพท์ ขากลับผมได้รถหกล้อเล็กกลับไปทางตลิ่งชัน เมื่อรถเมล์ที่ขนส่งสายใต้ รถวิ่งขึ้นถนนลอยฟ้า เห็นน้ำเต็มตลิ่งบางกอกน้อย น้ำท่วมถนนหน้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า จึงคิดว่า บางแค คงกำลังเผชิญปัญหาในใกล้ๆนี้ การเดินทางอันยากลำบากครั้งนี้ ผมมีข้อสังเกตบางประเด็น 1. สวนดุสิตโพลล์ ที่บอกว่า ร้อยละ 84.88 มั่นใจว่า ทหารสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ดีที่สุด น่าจะไม่มีการสำรวจคนที่ยืนหยัดในพื้นที่ประสบภัย เพราะประชาชนหลายสิบคนที่สนทนาด้วยเฉยมากๆกับทหาร และการบริการของทหารก็ไม่ได้มีความแน่นอนจนชาวบ้านแถบนี้อาศัยได้ ผมเชื่อว่า รถบรรทุกของทหารจะให้บริการโดยเก็บค่าบริการก็ได้ เพียงแต่ให้มีความแน่นอน ไม่ใช่ทำตามความต้องการอนุเคราะห์ 2. ประชาชนที่เหลืออยู่ น่าจะประมาณ 12 – 15 % มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะพึ่งตัวเอง เห็นได้จากการกระเสือกกระสนมาซื้ออาหารสด อาหารแห้งและน้ำจากบิ๊กซี บางใหญ่ ทั้งที่ต้องเดินทางไปกลับอย่างลำบากหลายชั่วโมงต่อเที่ยว น่ายืนยันคำพูดของชาวบ้านบัวทองบางส่วนที่บอกว่า พวกเขาไม่สนใจถุงยังชีพมากนัก และคิดว่านี่เป็นทางรอดเดียวของพวกเขา 3. ถ้า ศปภ. เปลี่ยนแปลงความคิดในการแจกถุงยังชีพไปประสานการอำนวยความสะดวกด้านอื่น เช่น การทำให้ตลาดสดใกล้ตัวชาวบ้านมากขึ้น ก็ขอให้มีเพียงรถบรรทุกทหารพาพ่อค้าแม่ค้าไปซื้อผักและอาหารจากราชบุรีวันละเที่ยว เพื่อเสริมให้ตลาดที่มีอยู่ เช่น ตลาดหมู่บ้านพระปิ่น 3 ตลาดปากซอยกันตนา ให้บริการดีขึ้น ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาชนนนทบุรี ได้เลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัด จนทำให้ ส.ส.อาวุโสคือ อุดมเดช รัตนเสถียร และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ได้เป็นตัวเลือกรัฐมนตรี ถึงแม้จะสรุปได้ว่ามีเพียง อุดมเดช เป็นประธานวิปรัฐบาล แต่ในช่วงน้ำท่วม ส.ส. เพื่อไทยกลับทะเลาะกันแค่เรื่องถุงยังชีพเท่านั้น หากไม่มีความพยายามอื่นในการประสานงานเพื่อทำให้ชีวิตชาวบ้านมีความสะดวกสบายขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่นนทบุรีฝั่งตะวันตก มี ส.ส. 5 คน ยกเว้น เขต 2 ที่มีเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกเท่านั้น แต่กลับปล่อยให้ชีวิตประชาชนเป็นตามยถากรรม ทั้งที่ชาวบ้านมีความพร้อมในการพึ่งตัวเองระดับในระดับหนึ่ง เพียงแต่ทำให้ชีวิตพวกเขาง่ายขึ้น อย่าพยายามทำตัวพรรคถุงยังชีพ มิฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าอย่าคิดว่าจะยกจังหวัด เพราะหลายเขตชนะกันไม่มากแค่หลักพัน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net