Skip to main content
sharethis

เสื้อแดงลำปางแจ้งจับ  'อานนท์ แสนน่าน' เลขานุการสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ฉ้อโกง 1 ล้านบาท ระบุลงทุนทำโครงการ SML ด้าน สจ.มหาสารคามร้อง ปชป. อ้างขบวนการเสื้อแดงโกงงบ SML

 
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 55 ที่ผ่านมา เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงานว่านายศักดิ์ชาย ฟูแสง อยู่บ้านเลขที่ 106 ม. 3 ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.วิจารณ์ คำอ่อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อให้ติดตาม และดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงกับ นายอานนท์ แสนน่าน ชาว จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง โดยปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นเลขานุการสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย และเป็นแกนนำคนเสื้อแดงใน จ.อุดรธานี 
 
นายศักดิ์ชาย กล่าวว่า ได้รู้จักกับนายอานนท์ เมื่อครั้งเคลื่อนไหวในการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา เนื่องจาก นายศักดิ์ชาย เป็นสมาชิกคนเสื้อแดงในภาคเหนือ จากนั้น  นายอานนท์ ได้กล่าวอ้างว่า เป็นคนสนิทของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต สส.ชื่อดังใน จ.เชียงราย พร้อมยังอ้างว่างสนิทสนมกับรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีหลายท่าน โดยเฉพาะ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง จึงได้ชักชวนให้ นายศักดิ์ชาย ซึ่งเป็นผู้รับเหมา ได้ลงทุนทำโครงการ SML ใน จ.ลำปาง แต่ขอนำเงิน 3 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุน เป็นค่าดำเนินการเบื้องต้น
 
อย่างไรก็ตามไม่มีเงินมากพอ และหลงเชื่อในคำชักชวน จึงได้นำเงินส่วนตัวที่มี และเงินที่ไปกู้หนี้ยืมสิ้นมาได้ 1 ล้านบาท โอนเงินจากธนาคารใน จ.ลำปาง ไปให้บัญชีธนาคารของ นายอานนท์ เมื่อเดือนพ.ย. 2554 ปรากฏว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววที่จะมีการเริ่มโครงการดังกล่าว และที่ผ่านมา ได้พยายามติดต่อกับ นายอานนท์ หลายครั้ง แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ว่า จะมีการทำโครงการ SML ใน จ.ลำปาง อย่างแน่นอน กระทั่งปัจจุบันนี้ ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย นายศักดิ์ชาย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมแนบเอกสารการโอนเงิน 1 ล้านบาท ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
 
ด้านร.ต.ท.วิจารณ์  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง  กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้รับเรื่องไว้ แต่จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ก่อน โดยเฉพาะการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ถูกกล่าวหา หากเป็นไปตาม ที่ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ในครั้งนี้ ก็จะเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฉ้อโกงผู้อื่นต่อไป
 
สจ.มหาสารคามร้อง ปชป. อ้างขบวนการเสื้อแดงโกงงบ SML
 
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 55 เว็บไซต์เนชั่นทันข่าวรายงานว่านายธนา ปักกาโร สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) นาดูร จ.มหาสารคาม ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตโครงการเอ็สเอ็มแอล ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธานส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายธนา กล่าวว่า มีกระบวนการเสื้อแดงแอบอ้างว่า งบประมาณในโครงการเอสเอ็มแอล เป็นเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่เป็นงบประมาณจากภาครัฐ และและมีการนำเสนอเงินให้กับกรรรมการหมู่บ้านที่มีสิทธิเบิกจ่ายเงิน 3 คน จำนวน 5,000-10,000 บาทแลกกับการไปเบิกเงิน แต่สิ่งของที่ได้กลับมาจะไม่ตรงกับที่ชาวบ้านต้องการ เช่นกรณีนี้ชาวบ้านต้องการถนนแต่กลับมีการนำปุ๋ยชีวภาพและเครื่องเสียงไปแจกแทน และยังมีการถ่ายเอกสารการทำประชาคมปลอมลายเซ็นเบิกจ่ายด้วย ซึ่งมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 11 หมู่บ้าน เกิดความเสียหายแล้ว 3.3 ล้านบาท ซึ่งตนได้ร้องเรียนตั้งแต่ระดับอำเภอไปจนถึงจังหวัดและ ส.ส.ในพื้นที่ คือ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรฯ แต่เรื่องก็เงียบ ทั้งที่สำนักงานกองกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง จึงมีการสั่งระงับแจกจ่ายเงินที่เหลือทั้งหมด 200 กว่าล้านบาท เรื่องนี้ทำเป็นขบวนการมีลูกชายของนักการเมืองใหญ่อดีตส.ส.อุดรธานี เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ยังมีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์ ขณะดำรงตำแหน่งรมต.ประจำสำนักนายกฯ เปลี่ยนแปลงระเบียบการเบิกจ่ายเปิดช่องให้คนเหล่านี้เซ็นเบิกจ่าย หากินได้โดยง่ายขึ้น 
 
นายธนา กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า ปุ๋ยชีวภาพที่นำมาแจกไม่ได้มาตรฐานและกำหนดราคา 500 บาทต่อถุงซึ่งสูงเกินความเป็นจริงที่ต้นทุนไม่เกิน 200 บาท เช่นเดียวกับเครื่องเสียงจากจีนแดงที่ไม่มีคุณภาพ บางหมู่บ้านแค่เปิดเครื่องก็ไหม้แล้ว เท่ากับว่าโครงการนี้มีการทุจริตแบบแบ่งโซนทางภาคอีสาน ซึ่งจังหวัดที่มีปัญหามากคือ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และมหาสารคาม เชื่อว่าแพร่ระบาดไปทั่ว และที่แรกที่เกิดปัญหาคือ จ. แพร่ ที่นายวรวัจน์ เป็นส.ส.อยู่ หากเปรียบเทียบจากสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของตน เท่ากับว่ามีการทุจริตถึง 50 % ซึ่งคนใหญ่จะเป็นคนเสื้อแดง ถ้าจังหวัดอื่นประสบปัญหาแบบนี้ทั่วประเทศก็จะทำให้งบเอสเอ็มแอล 20,520 ล้านบาท รั่วไหลไปกับการทุจริตและความเดือดร้อนของชาวบ้านถึง 50 %ของเงินงบประมาณทั้งหมดที่เป็นภาษีของประชาชน
 
ด้านนายองอาจ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเรื่องร้องเรียนทำนองเดียวกันมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีกรณีนี้ที่มีหลักฐานชัดเจน พรรคจะรวบรวมทุกเรื่องที่ร้องมายังพรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ตรวจสอบในสัปดาห์หน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net