Skip to main content
sharethis

แนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ ชุมนุมขวาง ยิ่งลักษณ์-ยุทธศักดิ์ ชี้ขาดความชอบธรรม ก่อน 'ไชยวัฒน์' ถอนตัวจากสนามหลวงเหตุนายทุนยุติหนุน-ปัดกระแสข่าวถูกตร.รวบ ด้านนายกฯ เข้าสักการะสิ่งศักสิทธิ์ประจำกระทรวง แถลงมอบนโยบาย 4 ด้านหลักความมั่นคง และรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซีย

แนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ ชุมนุมขวาง ยิ่งลักษณ์-ยุทธศักดิ์ 

11 ก.ค.56 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามีกลุ่มแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ นำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี และ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พร้อมด้วยแนวร่วม เดินทางมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงกลาโหม เพื่อต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่มีกำหนดการเข้ากระทรวงในวันนี้เป็นวันแรกในช่วงเวลา 11.00 น. พร้อมกันนี้ยังมี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม ได้แต่งชุดทหารฝึกลายพรางมาร่วมชุมนุมด้วย

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยได้มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 3 กองร้อยมาประจำการที่หน้ากระทรวงกลาโหม และมีการกั้นแผงเหล็กตั้งทางด้านศาลหลักเมือง ยาวตลอดแนวหน้ากระทรวง ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเข้าสักการะศาลหลักเมืองก่อนเดินทางเข้ากระทรวง

โดยนายไชยวัฒน์เปิดเผยว่า การแสดงออกวันนี้เพียงต้องการมาต่อต้านการเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม เนื่องจากต้องการแสดงเจตนารมณ์ในการปกป้องศักดิ์ศรีกองทัพของชาติไม่ให้เป็นกองทัพของใครคนใดคนหนึ่งหลักจากมีคลิปเสียงอื้อฉาวออกมา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่มีการบุกเข้าไปในกระทรวงกลาโหมอย่างแน่นอน เพราะไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ลำบากใจในการปฏิบัติหน้าที่

 “ยิ่งลักษณ์ไม่มีความชอบธรรมที่จะเข้ากระทรวงกลาโหม ยุทธศักดิ์ไม่มีความชอบธรรมที่เหยียบกระทรวงกลาโหม เป้าหมายของเราคือต่อต้านยิ่งลักษณ์ และยุทธศักดิ์ ไม่ให้เข้ากระทรวง” นายไชยวัฒน์ประกาศ

ผบ.ตร ยันใช้การเจรจาเป็นหลักไม่ใช้ความรุนแรง

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ติดตามสถานการณ์หน้ากระทรวงกลาโหมอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร) อย่างใกล้ชิด โดยยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม และใช้การเจรจาเป็นหลัก และล่าสุดทางตำรวจนำรถยกขนาดใหญ่มาจอดที่หน้ากระทรวงกลาโหม เตรียมการลากรถขยายเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุมหากเจรจาให้เคลื่อนออกจากพื้นที่ไม่สำเร็จ

นายกฯ เข้าสักการะสิ่งศักสิทธิ์ประจำกระทรวง

11.09 น.นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรก นับจากได้รับการโปรดเกล้าฯ ผ่านมา 12 วัน โดยการเดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารอย่างเข้มงวด โดยมี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการทหารเรือ, ผู้บัญชาการทหารอากาศ, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะนายทหารระดับสูงให้การต้อนรับ จานนั้นนายกฯ เข้าสักการระเจ้าพ่อหอกลอง ณ ศาลเจ้าพ่อหอกลอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวงฯ โดยยกเลิกพิธีสักการะองค์พระหลักเมือง เนื่องจากกลุ่มแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติชุมนุมอยู่บริเวณดังกล่าว

จากนั้นนายกฯได้เข้าพิธีรับการเคารพจากกองทหารเกียรติยศผสม ณ ลานอเนกประสงค์ ในศาลาว่าการกลาโหม หลังเสร็จสิ้นพีธีดังกล่าว นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก่อนเป็นประธานมอบนโยบายให้กับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมพร้อมรับฟังบรรยายสรุปการทำงานในส่วนกระทรวงกลาโหมสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพจากสำนักนโยบายและแผนกกลาโหม

นายกฯ แถลงมอบนโยบาย 4 ด้านหลักความมั่นคง และรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซีย

ผู้จัดการออนไลน์ รายงาน ต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ร่วมแถลงข่าวภายหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบนโยบายให้กับหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงประชาชน โดยยึดหลักแนวทางนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา และอุดมการณ์พื้นฐานแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

นอกจากนี้ยังได้มอบโยบายใน 4 ด้านหลักเพื่อความมั่นคง และรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งในเรื่องของการสนับสนุนนโยบายในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาภาคใต้ ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และขอให้กองทัพ ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ด้วยการเตรียมพัฒนาบุคลากร และองค์กร ให้สอดคล้องสถานการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต อีกทั้งจะดูแลด้านสวัสดิการกำลังพลในชั้นประทวน ทหารผ่านศึก และผู้ที่ปฎิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง และขอให้ทุกคนทำงานในหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่

ยันไม่มีล้วงลูกปรับย้ายทหารประจำปีเป็นไปตามขั้นตอนของสภากลาโหม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานายกฯ เห็นจุดอ่อนอะไรของกองทัพ จึงต้องนั่งควบตรงนี้ นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่าไม่มี ต้องเรียกว่าเราอยากร่วมมือกันทำงานและสนับสนุนให้เต็มที่ อันนี้เป็นเจตนารมณ์ เมื่อถามว่าแนวความคิดหรือนโยบายการปรับย้ายทหารประจำปีเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการปรับย้ายทหารทุกอย่างขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และทางสภากลาโหมก็มีขั้นตอนในการดูแลและอยากสนับสนุนเรื่องการให้ความเป็นธรรมและให้โอกาสผู้ที่ทำงาน

เมื่อถามว่ายืนยันจะไม่มีการล้วงลูก ผบ.เหล่าทัพ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี จริงๆ แล้วต้องเรียกว่าเราร่วมกันทำงานกับ ผบ.เหล่าทัพมาเกือบ 2 ปีแล้วคงจะทราบและขอเรียนว่าไม่มีเหตุผลที่มาเป็น รมว.กลาโหมแล้วจะทำให้งานไม่ราบรื่น ซึ่งเราอยากเห็นการทำงานที่สามัคคีและราบรื่น เราอยากเล็งเห็นผลการทำงานนั้นให้เกิดเป็นรูปธรรม

แจงคลิปเสียง ให้พิสูจน์ที่การทำงาน

เมื่อถามว่า ยังมั่นใจที่จะให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ทำงานต่อไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด ส่วนกรณีข่าวคลิปฉาวจะเคลียร์กับเหล่าทัพและ รมช.กลาโหมอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องพิสูจน์ที่การทำงาน ตนเองเชื่อว่าจากการทำงานร่วมกับกองทัพเราต่างคนต่างให้เกียรติกัน เราต้องคนต่างทราบภารกิจของตัวเองดี ฉะนั้นสองปีที่ผ่านมาเชื่อว่าตนเองให้การทำงานที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ก็เชื่อว่ากองทัพจะให้โอกาสในการทำงานร่วมกันและตนเองได้ประกาศเจตนารมณ์แล้วว่าการที่เราเข้ามาทำงานนี้เราอยากจะเสริมการทำงานด้วยกัน

เมื่อถาม รู้สึกอย่างไรที่เข้ามานั่งในกระทรวงกลาโหมแล้วคลิปออกมา ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนพิสูจน์คลิปจริงปลอม นายกฯ กล่าวว่า ตนเองไม่ปฏิเสธที่จะให้หน่วยงานสามารถพิสูจน์กันและว่าไปตามขั้นตอนได้เลย ซึ่งสุดท้ายอยู่ที่เจตนารมณ์การทำงาน ขอให้ดูการทำงานดีกว่า อย่างที่เคยเรียนเราเองมาในภารกิจที่ต้องดูเรื่องผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

เมื่อถามว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังมีความเหมาะสมที่จะนั่งในตำแหน่ง รมช.กลาโหม ทำงานประสานงานกับกองทัพใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า การทำงานต่างๆทุกคนต้องพิสูจน์ที่ผลงาน เราไม่สามารถที่จะไปบอกว่าท่านไหนเหมาะสม ไม่เหมาะสม ก็ต้องดูผลงานดีกว่า ผลงานจะเป็นเครื่องบอกเอง

เมื่อถามว่า เกรง ผบ.เหล่าทัพจะหวาดระแวงตัว รมช.กลาโหม หรือทางรัฐบาล หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าหวาดระแวง ตนเองเชื่อว่ากองทัพคงหวาดระแวงไปนานแล้ว เรียกว่าไม่มีใครหรือเหตุผลอะไรที่จะทำให้กองทัพไม่สบายใจ เราเรียนหลายครั้ง อยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า ดังนั้น เหตุผลเดียวคือการทำงานเพื่อให้เกิดการทำงานที่ราบรื่นตอบโจทย์นโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา

ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม

ตร.ปล่อยผู้กองปูเค็มหลังสอบปากคำเสร็จ

มีรายงานด้วยว่า  ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม อดีตนายทหารนอกราชการ  ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวมาที่ สน.พระราชวัง หลังขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีนายกฯ และนอนขวางแนวตำรวจ

11 ก.ค.56  ช่วงหัวค่ำ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. รายงานว่า พนักงานสอบสวนปล่อยตัว ร.อ.ทรงกลด แล้ว โดยทางพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน เนื่องจาก ร.อ.ทรงกลด ขัดขืนไม่ยอมออกจากพื้นที่การชุมนุม ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ ร.อ.ทรงกลด ได้มีการปฏิเสธข้อกล่าวหา เนื่องมองว่า เป็นการกลั่นแกล้ง และเรียกร้องให้มีการยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมด ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะมีการสอบปากคำเพิ่มเติม และปล่อยตัวไป

ด้าน พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้กำกับการ สน.พระราชวัง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถยกเลิกข้อกล่าวหาได้ ซึ่งเมื่อผู้ถูกกล่าวหาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้ว ก็ต้องต่อสู้ในศาลต่อไป อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สรเสริญ กล่าวอีกว่า กรณีนี้หากผู้ถูกกล่าวหารับสารภาพ ก็จะมีการเปรียบเทียบปรับแค่ 100 บาทเท่านั้น

ภาพการชุมนุมของกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ที่สนามหลวง

พลังธรรมาธิปไตย ท.ป.ท. สนามหลวง ปฏิเสธไม่ร่วมชุมนุมหน้า ก.กลาโหม

ก่อนหน้นนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ธรรมาธิปไตย ท.ป.ท' เผยแพร่ประกาศ ฉบับที่ 3/2556 ของ กลุ่มพลังธรรมาธิปไตยและกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมร่วมกับแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ และสภาเกษตรกรแห่งประเทศไทย ที่ชุมนุมบริเวณสนามหลวงมาตั้งแต่ต้น พ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ไม่ร่วมชุมนุมที่บริเวณหน้ากระทรวงกลาโหมดังกล่าว ชี้ว่าไม่ต้องการนำชีวิตของพี่น้องประชาชนไปสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจและด้วยนโยบายของกลุ่มที่ 'ไม่รบ ถ้าไม่ชนะ' อันถือเป็นสาเหตุหลักของการไม่ร่วมชุมนุมดังกล่าว

พร้อมระบุด้วยว่คืนวันที่ 10 ก.ค.ทางสถานีโทรทัศน์ประชาชน 13 สยามไท ซึ่งมีการถ่ายทอดเวทีกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ทุกคืนที่มีการชุมนุมนั้น ระงับการถ่ายทอดออกอกกาศอย่างกระทันหัน ทำให้ประชาชนไม่มีโอกาสได้รับชมคำชี้แจงนี้ รวมทั้งก่อนหน้านี้มีผู้อ้างชื่อกลุ่มตนไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มอื่นๆ สร้างความเข้าใจผิด

ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์

"ไชยวัฒน์" ถอนตัวจากสนามหลวงเหตุนายทุนยุติหนุน-ปัดกระแสข่าวถูกตร.รวบ

11 ก.ค. 56 แนวหน้าออนไลน์ รายงานว่า  จากกรณีที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และผู้กองปูเค็ม นำกลุ่มประชาชนไปชุมนุมขัดวางไม่ให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ากระทรวงกลาโหมเพื่อเข้าร่วมในพิธีรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.พระราชวัง ตามกระแสข่าวที่ได้รับนั้น แท้ที่จริงแล้วนายไชยวัฒน์ไม่ได้ถูกจับหรือถูกควบคุมตัวแต่อย่างใด

โดย นาย ไชยวัฒน์  สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทางช่อง 13 สยามไทย เกี่ยวกับการประกาศยุติการชุมนุมและถอนตัวกลุ่มแนวร่วมของตนเอง ส่วนกลุ่มอื่นๆ ไม่ทราบ และขอถอนเวทีตั้งแต่บัดนี้ ส่วนการถ่ายทอดสดของช่อง 13 สยามไทย ก็จะยุติด้วยสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งภายในเรื่องผลประโยชน์ นายทุนยุติการให้การสนับสนุน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net