Skip to main content
sharethis

'สุทิน' รมว.กลาโหม ตอบงบฯ ทหาร ชี้เป็นกระทรวงเดียวที่ลดงบบุคลากร เผยโดรนยุทธศาสตร์ของกองทัพเพียงพอ ที่ไม่เห็นงบฯ ซื้อเพราะผลิตเองได้ กองทัพพร้อมอุดหนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศสัญชาติไทย เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ และใช้เอง สุดท้าย ยันไม่มีหักเงินเดือนค่าดูดส้วม และไวไฟ หากพบจริง ไม่ปล่อยแน่นอน

 

21 มิ.ย. 2567 ยูทูบ "TP Channel" ถ่ายทอดสดออนไลน์วานนี้ (20 มิ.ย.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ ครั้งที่ 3 เป็นพิเศษ ประจำวันที่ 20 มิ.ย. 2567 วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขออนุญาตตอบข้อสังเกตและคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรื่องงบประมาณปี 2568 เกี่ยวกับกระทรวงกลาโหม ว่างบประมาณนี้จัดได้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศหรือรัฐบาล การเงินการคลัง หรือสอดคล้องกับแผนพัฒนาการคลัง หรือไม่

จากกรณีงบประมาณกองทัพบก เบิกงบประมาณล่าช้า โดยยกวันที่ 7 มิ.ย. 2567 ตอนนี้รัฐบาลทำได้ตามกรอบ และเกินเกณฑ์แล้ว โดยเวลาที่เหลือก่อนสิ้นปีงบประมาณเดือนกันยายน 2567 ยืนยันว่าใช้ทัน และในส่วนที่เป็นงบประมาณผูกพันด้วย

ส่วนที่ สส.อภิปรายระบุว่า โครงสร้างงบประมาณกลาโหม งบบุคลากรเยอะจนไม่มีงบฯ ไปพัฒนา อันนี้ถูกต้อง ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่อยากเรียนให้ทราบว่างบประมาณบุคลากรเยอะเป็นปัญหาของประเทศ ทุกกระทรวงประสบปัญหาตรงนี้หมด แต่มีงบประมาณบุคลากรกระทรวงเดียวที่ลดลงคือกระทรวงกลาโหม

กำลังพลลดแน่ แต่อยากให้ทบทวนเพราะบริบทการเมืองระหว่างประเทศ

สุทิน ตอบข้อสังเกตของวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าไกล ที่มองว่า งบประมาณบุคลากรกระทรวงกลาโหมนั้นไม่ได้ลด เพราะการปรับโครงสร้างของรัฐมนตรี แต่เป็นการลดโดยธรรมชาติ เพราะมีว่าทหารเกษียณ แต่จริงๆ มันไม่ใช่ธรรมชาติ เพราะว่าทุกกระทรวงมีข้าราชการเกษียณหมด แต่กระทรวงอื่นๆ งบประมาณไม่ลด เพราะว่าเอาอัตรานั้นมาตั้งบรรจุแทน แต่ของกระทรวงกลาโหมแตกต่างกัน เพราะว่าไม่ตั้งเอามาบรรจุแทน หรือที่เรียกว่า ‘ปิดอัตรา’

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

สุทิน กล่าวต่อว่า เรื่องลดนายพลผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้เชี่ยวชาญซึ่งไม่มีตำแหน่งหลัก เดิมทีเป็นคำแนะนำจากพรรคก้าวไกลเองให้ปรับลดตรงส่วนนี้ ส่วนพวกตำแหน่งหลักใครจะไปลด เพราะว่าถ้าลดแล้ว จะไม่มีคนทำงานให้

สุทิน กล่าวต่อว่า ถ้างบประมาณปี 2568 ออกแล้ว จะมีโครงการเกษียณก่อนกำหนด 2 โดยให้เงินด้วย และยศผู้มาเข้าร่วมโครงการ แต่ถ้ามาดูในงบประมาณ 2568 จำนวน 250 ล้านบาท จริงๆ มี เขามี 2 แผน แต่อยู่ไหนยังไม่บอก แต่ว่า ต.ค. 2568 จะมีการประกาศคนเข้าสู่ Early Retire และเขามั่นใจว่านายพลจะเข้าร่วมโครงการเยอะ แต่แค่นายพลหลักไม่ลด เพื่อให้ยังมีคนทำงาน

(ที่มา: TP Channel)

รมว.กระทรวงกลาโหม ระบุว่า ในขณะที่เรากำลังลดกำลังพลอยู่ตอนนี้ พอลดไปลดมา เขาไปประชุมในหลายประเทศ มีประเทศไหนบ้างที่ลดเหมือนไทย แต่ตรงกันข้ามกัน วันนี้บรรยากาศของโลกเริ่มกลับมาสร้างกองทัพกันทั้งนั้น เพราะว่ารัสเซีย-ยูเครน และอิสราเอล-ตะวันออกกลาง เป็นสัญญาณเตือน ขณะเดียวกัน ในเอเชีย ก็มีข้อพิพาททะเลจีนใต้ ดังนั้น บรรยากาศของโลกตอนนี้กลับมาสร้างกองทัพและยุทโธปกรณ์กันอีกครั้ง โดยเขาอยากจะชวนพวกเราคิดว่า ที่ผ่านมาการลดกำลังพลอาจจะถูกต้อง แต่ตอนนี้เรื่องนี้จะถูกรึเปล่า ต้องทบทวน 

สุทิน กล่าวถึงตัวเลขในรายงาน ที่เขายกกำลังพลของแต่ละประเทศในอาเซียนมาเทียบให้ดู โดยประเทศที่มีกำลังเยอะที่สุด ทั้งกำลังพลสำรอง และกองหนุน คือ เวียดนาม 5,800,000 คน ส่วนไทยมี 500,000 คน อินโดนีเซีย ล้านกว่าคน นี่กำลังพลเขา กำลังรบเปรียบเทียบมันทำให้ประเทศฮึกเฮิม และการดำเนินการต่างประเทศแข็งแรง

"ผมลดแน่ เดินหน้าไปตามที่เราประกาศไว้ แต่ในขณะที่ลดไป ผมต้องคิดนะเอาไง วันหนึ่งผมจะมาชวนท่านทบทวนนะเอายังไง ก็ 2-3 วันนี่ สหรัฐฯ ออกกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหาร เยอรมนีเอาด้วย สวีเดนเอาก่อนนานแล้ว แถวรัสเซีย ยูเครน เอาก่อนนานแล้ว แถว NATO เกณฑ์ทหาร เพราะว่าเขาจะเพิ่มกำลังพล” สุทิน กล่าว

โดรนยุทธศาสตร์มีจำนวนพอ และกำลังเดินหน้าผลิตเอง

สุทิน กล่าวว่า การจัดซื้อโดรนอันนี้พูดถึงกันเยอะและมีการกล่าวกับเหล่าทัพมาตลอดว่าสงครามนี้มันเปลี่ยน ในอนาคตเขาไม่ได้เอาคนรบกัน แต่เขาเอาเหล็กรบกัน มีแต่ใช้ยานพาหนะไร้คนขับ เมื่อก่อนหน้านี้ 4 เหล่าทัพเขามีประชุมและประกาศจุดยืนว่าต่อไปนี้กองทัพไทยเดินหน้าพัฒนาโดรน แต่อยากให้สบายใจว่าโดรนยุทธศาสตร์วันนี้พอ ได้มาจากไหนไม่เห็นงบฯ ซื้อ เพราะว่าหลายเหล่าทัพผลิตโดรนเองได้แล้ว และไม่ขี้เหล่กว่าต่างชาติ และบริษัทเอกชนผลิตโดรนได้เยอะ แต่ที่เป็นรูปธรรมคือสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ของเรากำลังจะลงนาม joint-venture ร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติ และบริษัทไทย เรื่องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างโดรน พูดง่ายๆ ว่าเดินหน้าผลิตโดรน

สุทิน กล่าวขอบคุณชยพล ถึงการอภิปรายเรื่องแนวทางของการอัพเกรดป้องกันประเทศ เรื่อง AI และอวกาศ เขาเคยประกาศว่าเขาอยากจะตั้งกองทัพที่ 4 กองทัพไซเบอร์และอวกาศ และวันนี้ทำแล้วโดยยกฐานะหน่วยไซเบอร์ทหารขึ้นเป็นศูนย์บัญชาการไซเบอร์ทางทหาร เมื่อเดือน พ.ค. 2567 นั่นหมายความว่าเราทำแบบโครงสร้าง ต่อไปนี้กองทัพจะรบได้ทุกรูปแบบ คือแบบไซเบอร์ด้วย และมีการเสริมทักษะดิจิทัลและไซเบอร์ด้วยการบรรจุ ‘E-Sport’ เข้าไปในกีฬาของกองทัพ ส่วนเรื่องของไซเบอร์ของสเปซที่ชยพล สท้อนดี อภิปราย จะอยู่ในโครงนี้ “ศูนย์บัญชาการทางทหาร” จะครอบคลุมทั้งไซเบอร์ และอวกาศ ศึกษาอย่างเป็นระบบ และเดินหน้าสู่การเป็นทหารไซเบอร์และอวกาศ

(ที่มา: TP Channel)

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

เอาจริงเรื่องพัฒนาเทคโลโนยีป้องกันประเทศ สู่การส่งออก

ต่อมา สุทิน กล่าวถึงความมั่นคงทางอาวุธและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยถ้าไปดูในงบประมาณเมื่อปี 2568 หน่วยงานที่จะขับเคลื่อนมีด้วยกันอยู่ 2 หน่วยงานหลัก สทป. กับศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งมีการเพิ่มงบวิจัยแล้ว เพื่อเร่งศึกษาวิจัยสู่สายผลิต และสู่การขาย เขาเดินสายไปดูงานนิทรรศการอาวุธบ่อยและเพิ่งมาจากฝรั่งเศส เอกชนไทยเราเก่งสามารถขายของมาได้เยอะ เราก็ช่วยผลักดัน และเมื่อต้นเดือนที่แล้วมีการส่งยานเกราะล้อยางไปจีน เพราะงั้น 1. เราจะสร้างความมั่นคงทางอาวุธของไทย 2. ประหยัดงบประมาณที่จะซื้อออกไป และ 3. ไปนำรายได้กลับมาประเทศ

สุทิน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางทีมงานของกระทรวงกลาโหม เอากฎหมายมาดูอย่างน้อย 6 ฉบับ กระทรวงอุตสาหกรรมแก้ไขเรื่องภาษี และแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการส่งเสริมเอกชน แล้วกองทีพซื้อหรือไม่ ขายต่างประเทศแล้วก็ต้องซื้อมาใช้ด้วย ว่าในปีหน้าจะเริ่มซื้ออาวุธใดและยุทโธปกรณ์ใดที่ผลิตได้ในประเทศ ให้กระทรวงกลาโหมหรือเหล่าทัพซื้อเป็นขั้นบันได เริ่มจาก 30-40-50-60% ขณะที่เอกชนจะได้เติบโตแข็งแรงไปด้วย

ยันไม่มีการหักค่าดูดส้วม-ไวไฟ หากพบจริงไม่ปล่อยแน่

สุทิน กล่าวถึงเรื่องการหักเงินเกณฑ์ทหารค่าดูดส้วม และไวไฟ ไม่มีแน่นอน ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการ ตามตรวจสอบย้อนหลัง ถ้ามีเรื่องนี้ผิดชัดเจนแน่นอน ต้องลงโทษ

(ที่มา: TP Channel)

สุทิน ระบุเสริมว่า จริงๆ แล้วมันมีการหักเงินเดือนทหารเกณฑ์อยู่ เพราะว่าทหารเกณฑ์มาจากต่างจังหวัดไม่มีอะไรติดตัวมาเลย เงินก็ไม่มีใช้ มาอยู่ มากิน มาใช้ ต้องมีชุดทหาร กองทัพก็อำนวยความสะดวกให้ ทหารเกณฑ์มีอาหารทานเอง และไม่ได้ไปตัดชุดข้างนอก แต่ว่ามันมีการเกื้อกูลระหว่างครอบครัวทหารกับทหารเกณฑ์ชั้นผู้น้อย ภรรยาทหารเขาก็รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจภายใต้ทหาร รวมตัวกันตัดชุดวอร์ม เพื่อขายชุดทหาร หรือชุดวอร์ม ให้กับคนในค่าย ทหารเกณฑ์อยากได้ เขาก็ซื้อเพราะราคาถูก ส่วนกองทัพมีชุดให้เขาได้เพียงพอและครบถ้วน แต่ทหารวัยรุ่นบางครั้งเขาอยากได้ชุดวอร์มเพิ่ม อยากได้ชุดใส่กลับบ้านเพิ่ม เขาก็ตกลงกันกับครอบครัวทหารและหักเงินจากเงินเดือน เพราะว่ามันสะดวก

สุทิน ระบุว่า ตอนนี้มีกำหนดแล้วว่าค่าอะไรหักได้หรือไม่ได้ และไม่ได้หักที 3-6 พันบาท ต้องให้ทหารมีเงินเดือนสูงสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าทหารได้เงินเดือน 1.1 หมื่นบาทต่อเดือน อย่างน้อยที่สุดต้องหักแล้วเหลือประมาณ 8-9 พันบาทต่อเดือน และที่สำคัญที่สุด เจ้าตัวต้องยินยอมให้หักเงินเดือน และต้องราคาเป็นธรรม  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทิ้งท้ายยืนยันว่า จะดูแลทหารให้ดีที่สุด
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net