Skip to main content
sharethis
ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ออกประกาศในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. วันนี้เป็นต้นไป
 
 
 
22 พ.ค.2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ออกประกาศการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ เนื่องจากเหตุความรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และหลายพื้นที่ทั่วประเทศ กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลความสงบ รวมถึงเพื่อดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนเกิดความรักความสามัคคี และเพื่อการปฏิรูปให้เกิดความชอบธรรมกับทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
 
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและดำเนินชีวิตตามปกติ ขณะที่ข้าราชการให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผน ส่วนข้าราชการทหาร ตำรวจ อาสาสมัครต่าง ๆ ที่มีอาวุธห้ามขนย้ายกำลัง เว้นแต่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะให้ความคุ้มครองคณะทูตานุทูต กงสุล องค์กรระหว่างประเทศ และชาวต่างประเทศ โดยยืนยันในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ องค์กรต่างๆ ที่จะเป็นไปตามปกติ พร้อมกันนี้ ย้ำว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยึดมั่นจงรักภักดี ปกป้องเทิดทูนดำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจ และอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง
 
 
 
 
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ฉบับที่ 1/2557
เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ
 
ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัว จนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น
 
เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 เป็นต้นไป
 
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการดังที่เคยปฏิบัติ
 
สำหรับข้าราชการทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่มีอาวุธเพื่อใช้ในราชการของหน่วย ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังและอาวุธโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่เพียงผู้เดียว
 
สำหรับคณะทูตานุทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้ให้ความคุ้มครอง และขอยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมดำเนินการไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยึดมั่นในความจงรักภักดี และจะปกป้องเทิดทูนดำรงรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชนชาวไทย และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
 
 
 
ทหารบุกชาร์จตัวแทน 7 ฝ่ายขึ้นรถตู้เข้า ร.1รอ.
 
22 พ.ค. 2557 กรุงเทพธุรกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประชุม 7 ฝ่าย ผ่านไป 2 ชม. (14.00 น. -16.00 น.) ซึ่งการพูดคุยไม่เป็นไปตามแนวทางเดียวกัน โดยมีข้อถกเถียงโต้แย้งอย่างกว่างขวาง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานสั่งงดการประชุมทันที 16.10 น. โดยที่ 7 กลุ่มต่างไปพูดคุยกันหารือกัน ก่อนนัดกันใหม่ 17.00 น.
 
แต่ในระหว่างนั้นเกิดเหตุการณ์วุ่นวายในเวลา 16.30 น. ประยุทธ์ได้เดินออกจากตัวอาคาร สโมสร ทบ.มาขึ้นรถประจำตำแหน่ง ม.ร. 1 รอ. ทันที โดยที่ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร. เดินทางออกมายัง ร.1 รอ. คนละคัน ออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นกองร้อยปราบจลาจลที่ กอ.รส. เตรียมไว้กรณีฉุกเฉินได้เข้าไปตัวอาคารทันที พร้อมกับชาร์จผู้เข้าร่วมประชุม 7 ฝ่าย แล้วนำตัวขึ้นรถตู้ประมาณ 10 กว่าคัน เข้าไป ร.1 รอ. ทันที
 
ขณะที่บริเวณรอบนอก ก่อนควบคุมตัว มีรถฮัมวี่จำนวน 3- 4 คัน มาปิดบริเวณทางออกภายในสมโมสร ทบ.และมีกำลังทหารหน่วยต่างๆ ที่เตรียมเอาไว้จำนวนหนึ่งมาปิดล้อมไม่ให้ผู้สื่อข่าวทำข่าวภายในสนามหญ้าข้างสมโมสร มีความวุ่นวาย สื่อทั้งไทย และเทศต่างแตกฮือเข้ามาทำข่าว ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ภาวะปกติ ไม่มีทั้งหมดภายในอาคาร
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net