Skip to main content
sharethis
พนักงานหญิงข้ามเพศในห้างสังกัดของวอลมาร์ทถูกเหยียดเพศและข่มเหงรังแกในแบบอื่นๆ หลังจากที่เธอแปลงเพศเป็นหญิง ทำให้องค์กรคุ้มครองด้านกฎหมายคนข้ามเพศฟ้องร้องบรรษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่นี้ที่แม้จะมีนโยบายให้คนข้ามเพศมีส่วนร่วมแต่ก็กลับปล่อยให้มีการข่มเหงรังแกกันบนฐานเรื่องเพศสภาพเกิดขึ้น
 
 
 
30 ธ.ค. 2560 มูลนิธิเพื่อการศึกษาและคุ้มครองทางกฎหมายแก่คนข้ามเพศ (Transgender Legal Defense and Education Fund หรือ TLDEF) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานในสหรัฐฯ เป็นตัวแทนของหญิงข้ามเพศชาวนอร์ทแคโรไลนารายหนึ่งฟ้องร้องห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่วอลมาร์ทในระดับประเทศ หลังจากที่เธอถูกเหยียดและเลือกปฏิบัติในที่ทำงานเพราะเพศสภาพของเธอ
 
หญิงข้ามเพศคนดังกล่าวชื่อ ชาร์ลีนน์ โบสต์ เคยเป็นคนงานของห้างค้าปลีกแซมส์คลับในคันนาโปลิส นอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นห้างที่อยู่ภายใต้สังกัดของวอลมาร์ท เธอทำงานที่นั่นตั้งแต่ปี 2554 จนถึง 2558 ในช่วงนั้นเองที่เธอเริ่มแปลงเพศไปเป็นหญิงแต่ทว่ามันก็ต้องทำให้เธอต้องทนกับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ไม่เป็นมิตร
 
โบสต์เล่าว่าเมื่อเธอแสดงออกเป็นหญิงข้ามเพศ เพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานของเธอก็เหยียดและเลือกปฏิบัติกับเธอด้วยการถูกลงโทษทางวินัยอย่างไม่สมเหตุสมผล มีการลงใจแกล้งเรียกเพศเธอผิดหรือพูดถึงเพศสภาพเธอในเชิงเย้ยหยันถากถาง เพื่อนร่มงานบางคนถึงขั้นเหยียบย่ำความเป็นมนุษย์ของเธอด้วยการเรียกเธอว่า "ไอ่ตุ๊ด" หรือทำเหมือนเธอเป็นตัวประหลาด
 
ในการยื่นฟ้องครั้งนี้มีการระบุว่าครั้งหนึ่งเคยมีลูกค้าของวอลมาร์ทแจ้งร้องเรียนหลังจากได้ยินพนักงานคนอื่นเรียกโบสต์ว่า "ไอ่ตุ๊ด" ซึ่งโบสต์บอกว่าคนในตำแหน่งหัวหน้าก็ไม่ออกมาหยุดการข่มเหงรังแกเธอ
 
"ถึงแม้ว่าจะทำงานในตำแหน่งของตัวเองได้ดี แต่แซมส์คลับก็ปฏิบัติต่อฉันอย่างโหดร้ายและไม่เคารพในความเป็นมนุษย์เพียงเพราะฉันเป็นผู้หญิง" โบสต์กล่าว
 
โบสต์บอกอีกว่าที่เธอฟ้องร้องคดีในครั้งนี้เพราะเธอมองว่าคนข้ามเพศควรจะได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันในการทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ต่อชุมชน โดยที่ปราศจากการถูกมองอย่างอคติ
 
มูลนิธิ TLDEF ระบุว่าการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นกับโบสต์นั้นละเมิดกฎหมายว่าด้วยสิทธิพลเมืองปี 2509 ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติทางเพศ ละเมิดกฎหมายคุ้มครองคนพิการของอเมริกัน และละเมิดกฎหมายการจ้างงานอย่างเท่าเทียมกันของรัฐนอร์ทแคโรไลนา
 
ถึงแม้วอลมาร์ทจะมีนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนข้ามเพศแต่ จิลเลียน ไวสส์ ผู้อำนวยการบริหารของ TLDEF ก็บอกว่านโยบายอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องมีการปฏิบัติจริงตามกระบวนการคุ้มครองคนทำงานด้วย 
 
โดยเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาคณะกรรมการเพื่อความเสมอภาคในโอกาสของการจ้างงานของสหรัฐฯ (EEOC) พบหลักฐานว่าโบสต์ถูกเหยียดเลือกปฏิบัติและต้องอยู่ในสภาพการทำงานที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเธอบนฐานของเพศสภาพ ตามที่เธอบอกจริง ทำให้องค์กรฮิวแมนไรท์แคมเปญลดระดับดัชนีความเท่าเทียมของวอลมาร์ทลงด้วย ซึ่งไวสส์กล่าวชม EEOC ในเรื่องนี้และบอกว่าเป็นการส่งสารอย่างหนักแน่นต่อวอลมาร์ทว่าพวกเขาจะไม่ทนกับการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน
 
เอมส์ ซิมมอนส์ ผู้อำนวยการองค์กรนโยบายคนข้ามเพศเพื่อความเท่าเทียมแห่งนอร์ทแคโรไลนาก็กล่าวชื่นชมไปในทางเดียวกันและกล่าวแสดงการสนับสนุนโบสต์กับผู้มีส่วนร่วมอื่นๆ โดยบอกว่าการปฏิบัติต่อคนข้ามเพศอย่างไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องผิดกฎหมายและยอมรับไม่ได้แซมส์คลับจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้
 
ทางโฆษกของวอลมาร์ทกล่าวว่าพวกเขายังคงมีนโยบายการต่อต้านการเลือกปฏิบัติ "ที่เข้มแข็ง" และ "สนับสนุนความหลากหลายและการการมีส่วนร่วมในที่ทำงานรวมถึงจะไม่ทนต่อการโต้ตอบหรือเลือกปฏิบัติใดๆ" แต่ทางโฆษกของวอลมาร์ทก็อ้างว่าพวกเขาไล่โบสต์ออกด้วยเหตุเรื่อง "สมรรถภาพ"
 
สื่อ Pink News ระบุว่าในสหรัฐฯ ไม่มีกฎหมายระดับประเทศที่ห้ามการเหยียดเลือกปฏิบัติต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ ดังนั้นคดีนี้จึงขึ้นอยู่กับการตีความบทบัญญัติด้านสิทธิพลเมืองที่ห้ามการเลือกปฏิบัติบนฐานของเพศ โดยที่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีการท้าทายการตีความบทบัญญัตินี้อย่างร้อนแรง จากการตีความต่างกันระหว่างอัยการสูงสุดสมัยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าบทบัญญัติดังกล่าวระบุถึงเพศชายกับหญิงเท่านั้น ขณะที่สมัยเจ้าหน้าที่สมัยรัฐบาลบารัค โอบามา มีการโต้แย้งด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติดังกล่าวให้การคุ้มครองเพศวิถี (sexual orientation) และอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ (gender identity) ของบุคคลด้วย
 
สิ่งที่ทำให้เกิดการถกเถียงกฎหมายตัวนี้ขึ้นมาอีกเป็นเพราะเมื่อไม่นานนี้มีคดีที่โดนัลด์ ซาร์ดา ครูสอนการดิ่งพสุธาที่เคยทำงานให้บริษัทอัลติจูตเอ็กซ์เพรสฟ้องร้องว่าทางบริษัทไล่เขาออกเพียงเพราะเพศวิถีของเขาที่เป็นเกย์ แต่รัฐบาลกลางของทรัมป์ก็แทรกแซงคดีนี้โดยอ้างว่าการเหยียดเลือกปฏิบัติต่อเกย์ไม่ผิดกฎหมายในระดับประเทศของสหรัฐฯ
 
 
 
เรียบเรียงจาก
 
Walmart sued for discrimination by transgender employee who was branded a ‘freak’ and a ‘faggot’, Pink News, 28-12-2017

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net