Skip to main content
sharethis
ป.ป.ช. ระบุเริ่มเชิญคนที่เกี่ยวข้องปมนาฬิกา 'ประวิตร' สอบแล้ว มีเอกชน 4 ราย ยังไม่ขอเปิดเผย รอ ป.ป.ช.วินิจฉัยแล้วจะแจ้งให้ทราบ ยืนยันแจงทุกเรือนพร้อมเชิญแจงเพิ่มใน 15 วัน โยนคนรับผิดชอบสำนวนดูเรียกบริษัทนำเข้าขายสอบหรือไม่
 
 
5 ม.ค. 2560 ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องแหวนเพชรและนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าในสัปดาห์นี้เราได้มีหนังสือเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ รวมทั้งนัดหมายที่จะไปดำเนินการนอกสถานที่สำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ คิดว่าการรวบรวมพยานหลักฐานในครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีอะไรซับซ้อน ก็คงคิดว่าใช้เวลาไม่นาน
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลภายนอกที่ ป.ป.ช.จะเชิญให้มาชี้แจงมีทั้งหมดกี่ท่าน และหนึ่งในนั้นมีนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของเครือคิงเพาเวอร์ด้วยหรือไม่ นายวรวิทย์กล่าวว่า ประมาณ 4 ท่าน ขอไม่ระบุชื่อ เป็นภาคเอกชนทั้งหมด โดยทั้ง 4 ท่านจะมาชี้แจงที่ ป.ป.ช. และนอกสถานที่
 
เมื่อถามว่า 4 คนนี้เป็นเรื่องนาฬิกาเรือนแรกเรือนเดียวหรือครอบคลุมทั้งหมด นายวรวิทย์กล่าวว่า ครอบคลุมทั้งหมด แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย หากคดีเสร็จ โดยทำรายงานส่ง ป.ป.ช.แล้ว และ ป.ป.ช.วินิจฉัยแล้วจะมาแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งหนึ่ง
 
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เหตุใด ป.ป.ช.ต้องมีการนัดหมายไปสอบรายละเอียดนอกสถานที่ นายวรวิทย์กล่าวว่า เป็นวิธีการทำงานของ ป.ป.ช. ซึ่งมีทั้งการนัดบุคคลภายนอกมาสอบที่ ป.ป.ช. และเราออกไปข้างนอก เป็นการทำงานตามปกติ
 
เมื่อถามว่า 4 คนนี้เป็นบุคคลตามหนังสือชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร หรือว่าเป็นเจ้าของนาฬิกา นายวรวิทย์กล่าวว่า ขออนุญาตไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการ
 
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พล.อ.ประวิตรชี้แจงเรื่องนาฬิกามากี่เรือน นายวรวิทย์กล่าวว่า ทุกเรือนที่เป็นข่าว
 
เมื่อถามย้ำว่า ทั้ง 15 เรือนที่มีการเปิดเผยทางสังคมออนไลน์หรือไม่ นายวรวิทย์ถามกลับว่า “ขณะนี้ 15 เรือนแล้วใช่ไหมครับ”
 
เมื่อถามย้ำอีกว่า แล้วขณะนี้ที่เอกสารชี้แจงมามีกี่เรือน นายวรวิทย์กล่าวว่า “ทุกเรือนแหละครับ”
 
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตกลับไปว่า หลายเรือนถูกเปิดเผยออกมาหลังจากวันที่ 27 ธ.ค. 2560 ที่นายวรวิทย์ระบุว่า พล.อ.ประวิตรส่งหนังสือชี้แจงมาให้ ป.ป.ช. นายวรวิทย์กล่าวว่า “ต้องเรียนว่า รายละเอียดเหล่านี้เป็นรายละเอียดที่ขออนุญาตเก็บไว้ก่อน”
 
เมื่อถามว่า ได้สอบถามไปยังบริษัทที่นำเข้านาฬิกามาขายในไทย พบว่า ป.ป.ช.ยังไม่มีการเรียกบริษัทมาตรวจสอบ ทาง ป.ป.ช.จะติดต่อบริษัทขายนาฬิกามาตรวจสอบหรือไม่ นายวรวิทย์กล่าวว่า อยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนว่ามีประเด็นเกี่ยวข้อง หรือมีความจำเป็นที่จะไปสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องแค่ไหน อย่างไร
 
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ป.ป.ช.มุ่งเป้าไปที่ประเด็นไหนมากกว่ากัน ระหว่างเรื่องบัญชีทรัพย์สินหรือรายละเอียดสิ่งของที่ชี้แจง นายวรวิทย์กล่าวว่า ป.ป.ช.ดูทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจริง ๆ แล้วการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นการป้องกัน และเป็นแนวทางที่กฎหมายกำหนดไว้ ป.ป.ช.มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่ามีความเปลี่ยนแปลงของบัญชีอย่างไร แล้วแต่ประเด็นของแต่ละเรื่อง
 
“ป.ป.ช.ทำงานภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ เรื่องไหนที่เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ เราก็จะเร่งรัดดำเนินการเป็นพิเศษอยู่แล้ว และอย่างที่เรียนคือ เรื่องนี้ไม่มีความซับซ้อนมาก ดังนั้น ระยะเวลาผมคิดว่าไม่นาน เรื่องระยะเวลาเราอาจจะระบุตายตัวลงไปไม่ได้ อย่างเช่นกรอบอยู่ในเดือนมกราคม ถ้าเราตรวจสอบแล้วมีกรณีจำเป็นที่ต้องไปสอบพยานบุคคลหรือพยานเอกสารเพิ่มเติม เราก็ต้องขยายไปในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้น แต่ถ้าสรุปได้ในเดือนมกราคม ก็เสร็จในเดือนมกราคม อย่าเพิ่งสันนิษฐาน ขอให้รอดูข้อเท็จจริงดีกว่า” นายวรวิทย์กล่าว
 
เมื่อถามว่า สถานะของบุคคลที่ พล.อ.ประวิตรอ้างเป็นเพื่อน หรือเป็นอะไร นายวรวิทย์กล่าวว่า รายละเอียดขอไม่เปิดเผย
 
ขณะที่คำชี้แจงเรื่องแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตรนั้น นายวรวิทย์เปิดเผยว่า ได้ประสานให้ พล.อ.ประวิตรชี้แจงเพิ่มเติมในเรื่องนี้ โดยเราเพิ่งส่งหนังสือเชิญท่านมาชี้แจงในสัปดาห์นี้และกำหนดตอบกลับภายใน 15 วันซึ่งจะมีเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
 
เมื่อถามว่า ตามข้อมูลระบุว่า พล.อ.ประวิตรมีรายได้ 1.7 ล้านบาท แต่ที่แจ้ง ป.ป.ช.คือ 8 แสนบาท รายได้ห่างกันมากตรงนี้ ป.ป.ช.จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ นายวรวิทย์กล่าวว่า ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอยู่แล้ว อย่างเรื่องรายการแสดงบัญชีทรัพย์สิน ก็จะต้องมีการนำมาเปรียบเทียบกันว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้อย่างไร ซึ่งเป็นการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินตามปกติของ ป.ป.ช.อยู่แล้ว
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net