Skip to main content
sharethis

ข่าวสดออนไลน์ รายงานกองทัพบก ประชุมเตรียมความพร้อมจัดทำแผนรายการปรับโอนหน่วย และย้ายที่ตั้งหน่วยทหารหน่วยที่จะถูกย้าย ส่วนใหญ่เป็นหน่วยยานเกราะระดับกองพัน กองร้อย จากกรุงเทพฯ จะย้ายออกจากพื้นที่ตั้งเดิมไปอยู่ที่ สระบุรี หรือลพบุรี

2 ก.ย.2561 ข่าวสดออนไลน์ รายงานข่าวว่า กองทัพบก โดยกรมยุทธการทหารบก (ยก.ทบ.) ได้ประชุมเตรียมความพร้อมจัดทำแผนรายการปรับโอนหน่วย และย้ายที่ตั้งหน่วยทหาร ซึ่งประชุมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประชุมเมื่อวันที่ 28 ส.ค. และก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับหน่วยที่จะถูกย้าย ส่วนใหญ่เป็นหน่วยยานเกราะระดับกองพัน กองร้อย จากกรุงเทพฯ จะย้ายออกจากพื้นที่ตั้งเดิมไปอยู่ที่ จังหวัดสระบุรี หรือจังหวัดลพบุรี นอกจากนั้นหากมีความจำเป็นจะย้าย หน่วยปืนไปอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ตามแผนระยะที่ 2 ต่อไป ส่วนการการปรับโอนหน่วยนั้น จะยุบเลิกหน่วยงานของทหารราบบางหน่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยให้โอนกำลังพลเฉพาะกำลังรบ รวมทั้งยุทโธปกรณ์ตามประเภทและความต้องการไปยังหน่วยรับโอน

ข่าวสดออนไลน์ ยังรายงานด้วยว่า  ทบ.จะตั้งคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างและการบริหารจัดการ โดยมีเสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ) เป็นประธาน ส่วนคณะทำงานดำเนินการปรับโอนหน่วย จะมีเจ้ากรมยุทธการทหาร (จก.ยก.ทบ.) เป็นประธาน โดยให้กำหนดแผนงานให้เสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.2561 และให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2562 สำหรับในช่วงนี้ให้หน่วยที่ต้องโอนย้ายเตรียมชี้แจง ขอบเขตที่ดิน อาคาร พร้อมเสนอที่ตั้งใหม่, ความต้องการงบประมาณในการดำเนินการ โดยให้เสนอเป็นระยะตามแผนงบประมาณแต่ละปี ทั้งนี้หน่วยจะต้องดูแลและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกำลังพลและครอบครัวให้ได้มากที่สุด

จากการสำรวจสื่ออื่นๆ มีเพียง 'ข่าวสดออนไลน์' เท่านั้น ที่เสนอข่าวนี้

สำหรับข้อเสนอเรื่องการย้ายค่ายทหารออกจากเมืองหลวงนั้น มีการนำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง ต้นปีที่ผ่านมา (9 มี.ค.61) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวผ่านเฟสบุ๊ค 'พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส' เรื่องการปฏิรูปกองทัพว่า "ถ้าผมมีอำนาจผมย้ายทหารออกนอกกรุงเทพทั้งหมด"

"คุณจะไปอยู่ติดต่อกับใคร ทหารจะติดต่อกับประชาชนตรงไหน ผมอยากจะรู้ ใช่ไหม อยู่ไปก็เกะกะกีดขวางทำให้การจราจรติดขัดไปหมด ถูกไหม พื้นที่เยอะนี่ ทหารบกไปอยู่ลพบุรี ทหารเรือไปสัตหีบ ทหารอากาศไปนครสวรรค์ เอาพื้นที่คืนมาให้คนกรุงเทพ ทำโรงเรียน โรงพยาบาล เป็นสิ่งจำเป็น สวนสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็น" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

สำหรับงบประมาณในการดำเนินการนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องใช้ของรัฐก็ได้ ส่วนหนึ่งให้เอกชนเช่าพื้นที่ไป เหมือนเซ็นทรัลเช่าที่การรถไฟ หรือเบียร์ช้างเช่าศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ตนก็เอาพื้นที่ทหารที่มีจำนวนมากในกรุงเทพให้เช่า แล้วนำเงินเหล่านี้มาลงทุนเพื่อสร้างสวนสร้างโรงเรียน โรงพยาบาลต่างๆ ใครบอกทหารมีความจำเป็นอยู่กรุงเทพ ตำรวจนี่ยังมีความจำเป็นอยู่กรุงเทพ กระทรวงอื่นยังมีความจำเป็นด้วยซ้ำ 

"ทหารอยู่ในกรุงเทพ เกิดรบกันมันกดปุ่มมาจากไหน ตูมลงมาลงกบาลใคร ลงชาวบ้าน จริงเปล่า เดี๋ยวเผลอๆ ลงบ้านคุณ แทนที่จะลงค่ายทหาร (สมมุติมีสงคราม) ดังนั้นเอาออกไปก่อนไม่ดีกว่าหรอ" 

"ราบ 11 มีตั้ง 3 พันไร่ ตรงบางเขน อยู่กันอย่างเป็นเทวดา เกษียณแล้วยังไม่ยอมไป ผบ.ทบ.ทุกคนก็ไปอยู่แถวนั้น อยู่บ้านหลวง น้ำหลวง ไฟหลวง ทหารรับใช้ มีครบมีเพียบ ไม่เหมือนผม ผมเกษียณ ผมรับราชการก็อยู่บ้านตัวเองหมด นี่อยู่บ้านหลวงตลอด" อดีต ผบ.ตร. กล่าว พร้อมระบุว่า กระทรวงกลาโหมอยู่ในศูนย์ราชการ แต่กองทัพคนละส่วนกัน กองทัพก็ต้องย้ายไป 

หรือเมื่อ 28 ก.ย.51 สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) สหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล และกลุ่มประกายไฟ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมถึงข้อเสนอการเมืองใหม่ ขณะนั้น โดยมีข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปกองทัพตอนหนึ่งว่า ให้ย้ายค่ายทหารออกจากเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อใช้พื้นที่ดังกล่าวสำหรับสร้างสวนสาธารณะ และศูนย์ฝึกอาชีพให้แก่คนจน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากข้อเสนอของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เรื่องย้ายค่ายทหารนั้น ต่อมา 24 เม.ย.61 มติชนอออนไลน์ รายงานปฏิกิริยาจาก พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ในฐานะทีมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ข้อเสนอย้ายหน่วยงานกองทัพออกไปชานเมืองเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด ส่วนใหญ่หน่วยที่ตั้งใน กทม. จะเป็นหน่วยบัญชาการ ส่วนกลาง หรือมีภารกิจเฉพาะโดยตรง การย้ายที่ตั้งต้องใช้งบประมาณ มิใช่แค่ตัวทหาร หรืออาคารสถานที่ แต่หมายความรวมถึงครอบครัว และองค์ประกอบอื่นๆด้วย

ทั้งนี้ กองทัพถือเป็น 1 ใน สถาบันการเมืองสำคัญของประเทศ แต่ภายใต้วาระการปฏิรูปที่ คสช. ชูตลอด 4 ปีที่ผ่านา ไม่มีการแตะที่กองทัพเลย ขณะที่ข้อเสนอของฝ่ายที่ต้องการปฏิรูปกองทัพก็มีการนำเสนอมาโดยตลอด ไม่เพียงการย้ายค่ายทหารออกจากเมืองหลวงเท่านั้น ยังมีข้อเสนออื่นๆ เช่น ให้กองทัพอยู่ใต้อำนาจของพลเรือน ที่เป็นรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ลดจำนวนนายพลว่างงาน ลดกำลังพลให้เหมาะสมกับจำนวนประชากร ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นใช้วิธีสมัครใจ  ลดงบประมาณของกองทัพ เอาไปสร้าง 'ความมั่นคงของประชาชน' อย่างสวัสดิการแทน ยกสนามกอล์ฟ สนามม้าของกองทัพบก ให้ชุมชนใช้ประโยชน์เพื่อสาธารณะ ปฏิรูปกระบวนการจัดซื้อจัดหายุทโธปกรณ์โดยมียุทธศาสตร์ที่แท้จริงรองรับ และ ลดภาระงานที่กองทัพทำซ้ำซ้อน เช่น งานบรรเทาสาธารณภัย ควรให้ ปภ. ทำ เป็นต้น

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net