Skip to main content
sharethis

สภานิสิตจุฬาฯ ออกแถลงการณ์ ขอให้ศิษย์เก่าที่เป็นสมาชิกรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และผู้มีอำนาจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามข้อเรียกร้องเรื่องการออกกฎหมายไม่ให้มีการแทรกแซงคำพิพากษา และให้ความคุ้มครองดูแลผู้พิพากษาคณากรด้วย

คณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นศาลจังหวัดยะลา

7 ต.ค. 2562 เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) เฟสบุ๊คสภานิสิตจุฬาลงกรณ์ มีการโพสท์แถลงการณ์ ขอให้ผู้มีอำนาจได้ดำเนินการในกรณีของคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นศาลจังหวัดยะลา ที่ตัดสินยกฟ้องจำเลย 5 คน ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส และต่อมาพบแถลงการณ์เรื่องราวของการดำเนินคดี และมีข้อเรียกร้องขอสภาฯ ให้ออกกฎหมายห้ามตรวจร่างคำพิพากษาก่อนอ่านให้คู่ความฟัง และขอความเป็นธรรมทางการเงินแก่ผู้พิพากษาทั่วประเทศ มีใจความว่า

ศาลยะลา : 'ผู้พิพากษา' ยิงตัวเองสาหัส หลังลงจากบัลลังก์ พิจารณาคดี

เปิดคำแถลงของผู้พิพากษา จ.ยะลา ก่อนก่อเหตุยิงตัวเอง ขออย่าแทรกแซงและความเป็นธรรมทางการเงิน

แถลงการณ์สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรื่อง ขอให้ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับกรณีของผู้พิพากษาคณากร เพียรชนะ
.
จากกรณีที่นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองภายในห้องพิจารณาคดี อาคารสำนักงานศาลจังหวัดยะลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้พิพากษาคณากรได้เผยแพร่คำแถลงการณ์จำนวน ๒๕ หน้า มีประเด็นสำคัญที่ว่า คดีความที่ผู้พิพากษาคณากรได้รับหน้าที่ให้ทำการพิจารณาตัดสินคดี เพื่อผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรมอันเป็นคุณค่าสำคัญยิ่งของสังคม ได้รับกล่าวอ้างว่าถูกแทรกแซงโดยผู้มีอำนาจในโครงสร้างระบบกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย อีกทั้งแถลงการณ์ของผู้พิพากษาคณากรได้ระบุถึงข้อเรียกร้องจำนวน ๒ ข้อ หนึ่งในนั้นคือ “เรียกร้องให้สภานิติบัญญัติ ออกกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พระธรรมนูญศาลยุติธรรม เพื่อห้ามการตรวจร่างคำพิพากษาก่อนอ่านให้คู่ความฟัง ทั้งห้ามกระทำใด ๆ อันมีผลเป็นการแทรกแซงผลคำพิพากษา” อันถือเป็นแนวทางในการป้องกันมิให้เกิดการแทรกแซงเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเนื้อหาของคำพิพากษา
.
การพิจารณาพิพากษาคดีของผู้พิพากษาจะต้องเป็นอิสระจากการแทรกแซงทั้งปวง เพื่อให้คงไว้ซึ่งความยุติธรรมอันสะท้อนผ่านคำพิพากษาของศาล ซึ่งได้ระบุถึงเจตนารมณ์และหลักการของกฎหมาย ที่ได้รับการปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ดังนั้น การที่ผู้พิพากษาคนหนึ่งซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวแทนของกระบวนการยุติธรรมออกมาพูดถึง “ความไม่เป็นอิสระของการพิจารณาพิพากษาคดี” เรื่องนี้ถือเป็นการชี้ให้เห็นถึงรอยด่างแห่งกระบวนการยุติธรรม ซึ่งก็ไม่มีสิ่งใดที่จะรับประกันได้ว่า จะไม่มีรอยด่างเช่นนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมอีก
.
สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชื่อมั่นความยุติธรรมในฐานะ “คุณค่าอันจำเป็นอย่างยิ่งในสังคม” ดังนั้น จึงใคร่ขอให้ศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เป็นสมาชิกรัฐสภา ทั้งในส่วนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี รวมถึงผู้มีอำนาจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง รวมถึงให้ความคุ้มครองดูแลผู้พิพากษาคณากรโดยเร็ว เพื่อให้สมดังแถลงการณ์ตอนหนึ่งของผู้พิพากษาคณากรที่ว่า “คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา” “คืนความยุติธรรมให้ประชาชน”
.

“เกียรติภูมิจุฬาฯ คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน”

สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๖ ตุลาคม ๒๕๖๒

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net