Skip to main content
sharethis

ชุมนุมวันเสาร์ที่เกษตรบางเขนฯ #คืนสู่เหย้าไม่เอาไอโอชา​ แน่นขนัด แกนนำหลายมหาวิทยาลัยร่วมปราศรัย ชวน ปชช. ตะโกนคำขวัญ "เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ" ด้านศิลปิน RAD ที่ร่วมแร็ปแซวชาว KU "ได้ข่าวโซตัสแรง" พร้อมชวน "ถ้าเราไม่เอาเผด็จการ ก็ต้องไม่เอาโซตัสนะเว้ย" ขณะที่ 'แบม' นิสิตเกษตรฯ ปราศรัยชวนคนไทยรวมตัวเรือนล้าน หากหวังโค่นล้มระบอบเผด็จการแบบถอนรากถอนโคน

29 ก.พ. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจากหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ตามที่นิสิต ม.เกษตร นัดหมายชุมนุมโดยใช้แฮชแท็ก #คืนสู่เหย้าไม่เอาไอโอชา ในเวลา 17.00 น. 

โดยการนัดชุมนุมแฟลชม็อบของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา ยังดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 9 นับตั้งแต่การชุมนุมเมื่อ 21 ก.พ. 2563 หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ จนถึงขณะนี้ ได้มีสถาบันการศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมนัดชุมนุมกันแล้วมากกว่า 50 แห่ง

บรรยากาศการชุมนุมที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563

การชุมนุมที่ ม.เกษตร ถือเป็นการนัดชุมนุมใหญ่ของนิสิตนักศึกษาครั้งแรก โดยในเพจของแกนนำชุมนุมจากมหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เชิญชวนให้ผู้สนับสนุนมาสมทบกันที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วย

อนึ่งการนัดหมายซักซ้อมชุมนุมใหญ่ ที่ ม.เกษตร บางเขน ผู้จัดกิจกรรมเปิดให้นักศึกษาทุกสถาบันและประชาชนทุกสาขาอาชีพ ได้มีโอกาสมารวมชุมนุมกันเพื่อแสดงออกทางการเมืองอย่างสงบและสันติ ตามแนวทางที่เคยปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมที่ ม.เกษตร เมื่อเวลา 17.00 น. ตัวแทนนักศึกษาชวนผู้ชุมนุมตะโกนคำขวัญ "เผด็จการ ฉิบหาย เผด็จการ ฉิบหาย" 

และนอกจากการรวมตัว ปราศรัย และตะโกนคำขวัญต่อต้านเผด็จการแล้ว ผู้ชุมนุมยังเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาโดยนิสิตนักศึกษาหลายสถาบัน

 

เวลา 17.40 น. "พี่เพชร" ตัวแทนศิษย์เก่า ม.เกษตร รุ่น 72 เชิญชวนให้ "ชาวชั่ย" ร่วมกันแสดงตัว กล่าวแสดงความผิดหวังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยเฉพาะการแก้ตัวของธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตร เรื่องคดีที่เกี่ยวข้องยาเสพติดที่ออสเตรเลียในอดีต รวมทั้งเสียใจที่ ส.ส.ฝ่ายค้านจากอดีตพรรคอนาคตใหม่ย้ายพรรคไปร่วมรัฐบาลซึ่งเป็นการฝืนมติมหาชนในการเลือกตั้ง

เวลา 17.57 น. พิธีกรเวทีชุมนุมชวนประชาชนคิดสำนวนไทยให้รัฐบาลโดยมีคำว่าควายประกอบด้วย เช่น "เลือกตั้งแทบตาย ได้ควายมาบริหาร" "จ่ายภาษีแทบตาย ควายเอาไปละลายแม่น้ำ" ฯลฯ

ทั้งนี้ผู้ชุมนุมเริ่มเข้ามาเต็มพื้นที่ จนล้นออกมาถนนระหว่างสระพระพิรุณ และหอประชุมใหญ่ ม.เกษตร เต็มพื้นที่ โดยในเวลา 18.00 น. ตัวแทนนิสิตนักศึกษากล่าวเชิญชวนประชาชนเคารพธงชาติ และตะโกนคำขวัญของ "ครูครอง จันดาวงศ์" อดีตเสรีไทยภูพานร่วมกับเตียง ศิริขันธ์ และ ส.ส.สกลนคร ที่ต่อมาถูกจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ใช้มาตรา 17 ประหารชีวิตว่า "เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ"

เวลา 18.05 น. ณัฐและจาโคบอย นักดนตรีคณะ RAD ร้องเพลง "ถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง" และ "โซตัส" โดยบอกว่า"ได้ข่าว ม.เกษตร โซตัสแรง ถ้าเราไม่เอาเผด็จการ ก็ต้องไม่เอาโซตัสนะเว้ย" โดยมีผู้ชุมนุมร้องเฮและปรบมือ

จากนั้นคณะ RAD ร้องเพลง "เปิดเพลงอีกครั้งหนึ่ง" "สอพลอ" และ "ประเทศกูมี"

18.29 น. พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิ้น นักศึกษาธรรมศาสตร์ สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ขึ้นปราศรัยกล่าวขอบคุณนิสิตเกษตรศาสตร์และศิษย์เก่าที่เปิดพื้นที่ประชาธิปไตยให้ประชาชน พร้อมกล่าวเชิญชวนให้นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ว่าถ้านัดชุมนุมก็ขออย่าให้น้อยหน้าให้เขาตำหนิว่ารุ่นพี่ธรรมศาสตร์ไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมเรียกร้องให้นักศึกษาทุกสถาบันสามัคคีและร่วมมือกันเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย

พริษฐ์ปราศรัยด้วยว่า ส่วนที่รัฐบาลกล่าวหาว่านักศึกษาที่จัดชุมนุมถูกปลุกปั่นนั้น ถ้านักศึกษาถูกปลุกปั่นได้จริง รัฐบาลช่วยปลุกปั่นนักศึกษาให้ไปเชียร์รัฐบาลหน่อย

ช่วงเวลา 18.35 น. พริษฐ์ปราศรัยด้วยว่าการต่อสู้ของนักศึกษาและประชาชนจนขับไล่รัฐบาลทหารในเดือนตุลาคม 2516 นั้นเคยมีนายทหารคนหนึ่งมาเล่าเปิดใจกับเขาว่า หลังจากนั้นทำให้ทหารไม่กล้าแต่งเครื่องแบบออกมาจากบ้าน

พอปราศรัยถึงช่วงนี้ ทำให้มีผู้ชายอายุ 38 ปี สวมชุดฟุตบอลประเพณีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ลายสีแดง ตรงเข้าไปหาพริษฐ์และตะโกนถามว่า "จริงหรือ" แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักศึกษาช่วยกันไปด้านหลังเวที การปราศรัยชะงักไปชั่วขณะ ต้องเคลียร์พื้นที่เวทีเพราะสื่อมวลชนที่กลุ้มรุมถ่ายภาพบุคคลดังกล่าว ด้านพิธีกรขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบและปรบมือ 

ด้านผู้ฟังปราศรัยได้ตะโกนว่า "เพนกวิ้นสู้ๆ" เพื่อให้กำลังใจเพนกวิ้น ขณะที่ตอนหนึ่งพริษฐ์ปราศรัยถึงข้อกล่าวหาผู้ชุมนุมเป็น "คนชังชาติ" ว่า ที่ประชาชนออกมาต่อสู้เผด็จการมายาวนานนั้นเพราะรักชาติ ไม่ได้ชังชาติ ส่วนพวกรักเผด็จการนั้นเป็นพวกถ่วงชาติ

นิสิตเกษตรชวนคนไทยรวมตัวเรือนล้านยุติเผด็จการแบบถอนรากถอนโคน

เวลา 19.25 น. "แบม" นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ชั้นปีที่ 4 กล่าวบนเวทีว่า การรวมตัวครั้งนี้ถือว่าเป็นการต่อสู้ภาคประชาชน เพื่อนำไปสู่ยุคประชาธิปไตยเบ่งบานอีกครั้ง แต่กว่าที่เราจะถึงฝั่งฝันมันไม่ยากและไม่ง่าย เราต้องอดทนกับการที่ถูกเผด็จการกดขี่ข่มเหง หลายคนต้องลี้ภัยทางการเมือง หลายคนถูกฆ่าตายอย่างไม่ไยดี เราต้องอยู่อย่างอดทนกับบรรดากฎหมายที่ คสช. ร่างขึ้นมา เราต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติที่สกปรกที่สุด 

เขากล่าวต่อว่า เราต้องยอมอดทนกับพรรคเผด็จการที่แพ้เลือกตั้งแต่กลับจัดตั้งรัฐบาลได้ เราต้องยอมอดทนกับการที่พรรคฝ่ายตรงข้ามกับเผด็จการถูกยุบพรรค เมื่อวานเราต้องอดทนอีกครั้งที่ในสภามีงูเห่าไปโหวตเห็นชอบไว้วางใจรัฐมนตรีจนฝ่ายค้านแพ้ สุดท้ายนี้ผมขอปลุกระดมมวลชนที่ยังหลับไหลอยู่ในทวิตเตอร์และโซเชียลให้ออกมากันได้แล้ว ตอนนี้ถ้าเทียบการดูซีรีส์ ก็เป็นแค่ตอนแรก ถ้าเรารวมตัวได้พันคน เราก็ได้แต่ชุมนุมในมหาวิทยาลัย แต่ถ้าเรารวมตัวได้หมื่นคน เราอาจจะลงถนนไปราชดำเนิน ถ้ารวมตัวได้มากกว่าแสนคน เราอาจจะส่งคนดาวกระจายไปยังหน่วยงานราชการที่เผด็จการส่งคนมาบริหาร ถ้าเรารวมตัวได้มากกว่าล้านคน เราอาจจะหยุดธุรกิจกลุ่มทุนที่เผด็จการฝากไว้ และถ้าเรารวมตัวได้กว่าสิบล้านคน ผมเชื่อว่าเราอาจโค่นล้มระบอบเผด็จการได้แบบถอนรากถอนโคนได้

โดยเวทีที่ ม.เกษตร บางเขน ดำเนินไปจนถึงเวลา 20.20 น. ก่อนสลายตัวโดยไม่มีเหตุรุนแรงเพิ่มเติม

ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่าเมื่อเวลา​ 18.00​ น. ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์​หรือนิด้า​ กลุ่มนักศึกษาปริญญาโทได้รวมตัวกันเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์​เพื่อประชาธิปไตย​ ภายใต้หัวข้อ​ '#นิด้ามาน้อยแต่มาโว้ย'​ บริเวณลานด้านหน้าอาคารสยามฯ​ โดยมีนักศึกษาร่วมกลุ่มกันประมาณ​ 20​ กว่าคน ด้านนายเอก(นามสมมุติ)ตัวแทนนักศึกษา​ คณะนิเทศศาสตร์​ ชั้นปีที่2​ เปิดเผยว่าในวันนี้ที่ตนเองพร้อมเพื่อนได้ออก​มารวมกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราอยากทำอะไร​ ภายหลังจากที่เห็นน้องๆในหลายมหาวิทยาลัย​ได้ทำ​ เราซึ่งไม่โอเคกับรัฐบาลเลยออกมาแสดงพลัง​บางอย่าง​ และจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น​ มีการชักชวนคนที่มีความคิดเหมือนกันกับเรามาร่วมกันแสดงพลัง

โดยในการทำกิจกรรมนั้นจะมีการร้องเพลงชาติและเปิดไฟจากโทรศัพท์​แสดงสัญลักษณ์​ “แฟลชม็อบ” นอกจากนี้ตนยังได้นำผลงานที่ใช้ส่งอาจารย์​ เมื่อภาคเรียนที่แล้วมานำเสนอด้วย​ เป็นการสื่อสารความคิดเชิงสร้างสรรค์​ ชื่อว่า​ ด​องเสรีภาพเพื่อความสงบ​ เป็นการสื่อสารที่ต้องการนำเสนอว่า​ เราทุกคนมีเสรีภาพ​ แต่ต้องถูกดองไว้​ ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้​ สงบแต่ไม่มีชีวิตในโหลดอง​ ซึ่งตนเห็นว่าเข้ากับสถานการณ์​จึงนำมาแสดงด้วย​หลังจากนั้นกลุ่มนักศึกษา​จึงรวมกันร้องเพลงชาติ​ และตะโกนข้อความว่า เผด็จการจงออกไป​ ประชาธิปไตยจงเจริญ​ ประยุทธ์​ออกไป​ ก่อนจะแยกย้ายกันไปอย่างสงบ​ ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net