Skip to main content
sharethis

เปิดร่างปลดล็อกระยะที่ 4 ครอบคลุมโรงเรียน สถาบันกวดวิชา สวนสนุก คอนเสิร์ต สปา ยกเว้นผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด และจ่อชงทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน แต่คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ อ้างหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะได้บริหารทันการณ์


กอ.รมน.ยโสธร ออกตรวจคุมเข้มจุดตรวจ จุดสกัด ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ภาพถ่าย 9 เม.ย. 63 (ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์)

 

10 มิ.ย.2563 วันนี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ COVID-19 ว่า ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 4 คน เป็นผู้ป่วยที่พบใน State Quarantine รวมมีผู้ป่วยแล้ว 3,125 คน และหายป่วยกลับบ้านรวม 2,981 คน และเสียชีวิตคงที่ 58 คน โดยวันนี้มีการประชุมเพื่อเตรียมพิจารณาคลายล็อกกิจการและกิจกรรมระยะที่ 4 

สำหรับผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 คน คนที่ 1 เป็นชายไทยอายุ 44 ปี เดินทางมาจากรัฐมาดากัสการ์ และเข้าพักกักตัวเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ทีผ่านมา ส่วนคนที่ 2 เป็นหญิงไทยอายุ 34 ปี ซึ่งประวัติมีคนในบ้านติดเชื้อแล้ว 5 คน ส่วนผู้ติดเชื้อคนที่ 3 และ 4 มาจากอินเดีย เป็นหญิงไทยอายุ 35 ปี หนึ่งในนั้นมีอาชีพพนักงานนวด โดยทั้งหมดไม่มีอาการ

 

ร่างปลดล็อกระยะที่ 4 ยกเว้นผับ บาร์ คาราโอเกะ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณากิจการและกิจกรรมในการผ่อนคลายระยะที่ 4 ฉบับร่างของเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) โดยการประชุมคณะกรรมการเฉพาะฯ ซึ่งกลุ่มที่ 4 หรือมีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถานศึกษา โดยให้โรงเรียนนานาชาติ และสถาบันกวดวิชาเปิดได้แล้ว หน่วยงานราชการและกำกับของรัฐ สามารถเปิดอบรม สัมมนาได้ ส่วนมาตรการเสริมต้องดูแลเรื่องพื้นที่โรงเรียน การเว้นระยะนั่ง

“กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ร้านอาหารทั่วไป ไม่รวมผับ บาร์ คาราโอเกะ สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตามกฎหมายกำหนด แต่งดกิจกรรมส่งเสริมการขายได้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ไม่ให้มีการส่งเสริมการขายที่ต้องใกล้ชิดกัน เช่น เชียร์เบียร์ ซึ่งการเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องใช้มาตรการป้องกันหลัก 5 ข้อ เพิ่มการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ และมาตรการเสริม เช่น งดเสียงดัง บุฟเฟ่ต์งดตักอาหารด้วยตัวเอง

โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ศูนย์เด็กเล็ก และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุแบบรายวัน โดยเปิดให้ไปกลับรายวันได้ แต่ครูพี่เลี้ยง หรือผู้ประกอบการต้องดูแลตามมาตรฐาน เว้นระยะห่าง มีพื้นที่รอคิวและจุดรับส่ง นอกจากนี้ให้เปิดห้องประชุม โรงแรม งานอีเว้นต์ และเปิดตัวสินค้าได้ แต่ต้องมีระยะห่าง 1 เมตร ส่วนงานคอนเสิร์ตเปิดให้เข้าชมได้ แต่ต้องมีระเบียบ และลดความหนาแน่น

“ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลองเปิดได้ ส่วนระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท รถโดยสารประจำทาง รถปรับอากาศ ระหว่างจังหวัด เปิดได้อาจให้นั่งติดกันได้ 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง และจำกัดจำนวนผู้โดยสาร 70” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจการกองถ่ายภาพยนตร์ วีดีทัศน์ รายการโทรทัศน์ กองถ่ายทำรวมทุกแผนกไม่เกิน 150 คน มีผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน แต่เน้นย้ำว่าพิธีกรต้องใส่หน้ากากอนามัยด้วย ไม่ใช่ใส่เพียงเฟซชิล

 

สปา-อบตัว เปิดได้ยกเว้นอาบอบนวด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา อบตัว อบสมุนไพร และอบสมุนไพรแบบรวมได พื้นที่ 5 ตารางเมตรต่อคน แต่ยังไม่เปิดอาบอบนวด ส่วนสวนสนุก สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ สามารถเปิดได้แล้ว เว้นบ้านบอล  รวมทั้งกลุ่มสวนสนุก สนามเด็กเล่น สวนน้ำ สระว่ายน้ำสาธารณะ เปิดได้ แต่ให้คิดเกณฑ์ ต่อ 8 ตร.ม.ต่อผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ยกเว้นบ้านบอล

สำหรับเปิดสนามกีฬากลางแจ้ง โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ โรงยิม สถานที่ออกกำลังกาย แต่การจัดแข่งขันต้องไม่มีผู้ชม สามารถถ่ายทอดสดได้

สวนสาธารณะ ลานกีฬา สามารถจัดกิจกรรมได้ แต่ต้องใช้พื้นที่ 5 ตารางเมตรต่อคน รวมกันไม่เกิน 50 คน เช่น เต้นแอโรบิค แต่ต้องลงทะเบียนไทยชนะ เพราะมีความเสี่ยงสูง ส่วนตู้เกม เครื่องหยอดเหรียญในห้าง สวนสนุก สามารถเปิดเล่นได้ แต่จำกัดเวลาไม่เกินคนละ 2 ชม. เว้นร้านนอกห้าง

“เน้นว่าเป็นฉบับร่างอาจจะมีการปรับเปลี่ยน ยกเลิกหรือเพิ่มเติม จะมีการพิจารณาวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ช่วยกันจำแนกแยกแยะ แต่คงไม่ใช่เปิดได้ทั้งหมดก่อน COVID-19  และหากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเริ่มเดินหน้าช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ส่วนกรณีคำถามที่ว่ามีการส่งต่อข้อความว่าจะทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังไมได้คุยกันสาระสำคัญคือการยกร่างเรื่องการผ่อนคลายกิจการต่างๆ เพราะยังมีหลายทฤษฎี นอกจากนี้คำถามเรื่องร่างผ่อนคลายทำไมยังไม่อนุมัติผับ บาร์ คาราโอกะ นพ.ทวีศิลป ระบุ เหตุผลไม่ผ่อนคลายผับบาร์ คาราโอเกะ เพราะจัดกลุ่มความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน เช่น พื้นที่ทองหล่อ และในขณะเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นส่วนในการช่วยการผลักดันเศรษฐกิจด้วย

 

จ่อชงทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน แต่คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ

วันเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงเตรียมเสนอทดลองยกเลิกการประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ทั่วประเทศ เป็นเวลา 15 วัน แต่ยังคงบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้ได้รับข้อมูลว่าประชาชนจะรับได้ในกรณีที่มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ยกเลิกเคอร์ฟิวและใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือไม่ โดยจะไม่มีด่านความมั่นคง ไม่มีการกำหนดเวลาเข้าออกเคหสถาน

“ต้องการให้ประชาชนให้เห็นว่าเมื่อมีมาตรการผ่อนคลายสูงสุดจะเป็นเช่นไร หลังจากนั้นก็จะฟังเสียงตอบรับจากประชาชนและสังคม” รองผู้บัญชาการทหารบกกล่าว

รองผู้บัญชาการทหารบก อธิบายสาเหตุที่คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะกฎหมายปกติไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการในเรื่องฉุกเฉินหากมีการแพร่ระบาดของโรคได้ ซึ่ง พ.ร.ก .ฉุกเฉิน สามารถบูรณาการงานได้ อีกทั้งมาตรการบางอย่างจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไป แต่หลังการทดลอง 15 วัน ก็ต้องฟังเสียงประชาชนว่ายังต้องการให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่

 

อ้างอิง: ไทยพีบีเอส, ไทยพีบีเอส

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net