ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 279 คน เสียชีวิต 2 คน กระจาย 53 จังหวัด กทม. สั่งปิดสถานที่เสี่ยง

1 ม.ค. 2564 ศบค. เผยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 279 คน ติดเชื้อจากในประเทศ 273 คน เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน พบติดเชื้อกระจาย 53 จังหวัด กทม. ยกระดับมาตรการควบคุมโรคสั่งปิดสถานที่เสี่ยง ปิดสถานศึกษาถึง 17 ม.ค. 2564 ด้าน สธ. อยู่ระหว่างเจรจาหาวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์-กลุ่มเสี่ยง

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 279 คน ติดเชื้อจากในประเทศ 273 คน และอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 6 คน เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน ติดเชื้อสะสม 7,163 คน เสียชีวิตสะสม 63 คน

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 257 คน มีประวัติเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อจาก จ.สมุทรสาคร 3 คน, เชื่อมโยงกลุ่มผู้ติดเชื้อจาก จ.ระยอง 2 คน, เชื่อมโยงกลุ่มผู้ติดเชื้อจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี 1 คน

มีประวัติเดินทางไปสถานบันเทิง สถานที่ชุมชน และกลุ่มอาชีพเสี่ยง 16 คน, อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 235 คน, การค้นหาเชิงรุกในแรงงานข้ามชาติ 16 คน และผู้เดินทางจากต่างประเทศ เข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 6 คน

ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน คนที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 44 ปี อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบประวัติว่าเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 ไปร้านอาหารกึ่งบาร์ในพื้นที่กรุงเทพกรุงเทพมหานคร จากนั้นวันที่ 26-27 ธ.ค. 2563 มีอาการไข้ ไอ น้ำมูก วันที่ 28 ธ.ค. 2563 มีอาการเหนื่อยหอบ วันที่ 30 ธ.ค. 2563 รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น จึงไปตรวจที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ พบออกซิเจนในเลือดลดลงเหลือ 80 ถูกส่งต่อ ICU ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 31 ธ.ค. 2563

ผู้เสียชีวิตเพิ่มรายที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 70 ปี อ.แม่สอด จ.ตาก มีโรคประจำตัว คือ โรคหลอดเลือดสมอง นอนติดเตียง ประวัติลักลอบเดินทางเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2563

จากนั้นวันที่ 4 ธ.ค. 2563 มีอาการเหนื่อย และถูกส่งตัวไป รพ.รัฐ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 กระทั่งวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตเวลา 22.00 น.

การระบาดระลอกใหม่กระจาย 53 จังหวัด

โฆษก ศบค. กล่าวว่า แนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเริ่มพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ที่ จ.สมุทรสาคร วันที่ 17 ธ.ค. 2563, วันที่ 21 ธ.ค. 2563 ที่ จ.นนทบุรี และพื้นที่ภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 23 ธ.ค. 2563 เป็นต้นมา ส่วนกรุงเทพฯ พบการแพร่ระบาดตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมต่อวันเพิ่มขึ้น

ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กระจายในพื้นที่ 53 จังหวัด ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก โดยจังหวัดที่พบผู้ป่วยรายใหม่ คือ จ.ลำพูน และ จ.สระแก้ว

ขณะที่ 5 ลำดับ พบผู้ติดเชื้ยรายใหม่สะสมมากที่สุด ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 2563-1 ม.ค. 2564 ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และนครปฐม

จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ได้แก่ 1. สมุทรสาคร 2. กรุงเทพมหานคร 3. ระยอง 4. นครปฐม 5. สมุทรปราการ 6. เพชรบุรี 7. ฉะเชิงเทรา 8. นนทบุรี 9. ปทุมธานี 10. สมุทรสงคราม 11. สระบุรี 12. ราชบุรี 13. ชลบุรี 14. ตาก 15. ชัยภูมิ 16. นครราชสีมา 17. ชัยนาท 18. กระบี่ 19. พิจิตร 20. พระนครศรีอยุธยา 21. ขอนแก่น 22. ภูเก็ต 23. อุตรดิตถ์ 24. กำแพงเพชร 25. นครสวรรค์ 26. นครนายก 27. ปราจีนบุรี 28. สงขลา 29. สตูล 30. เชียงใหม่ 31. เพชรบูรณ์ 32. สุโขทัย 33. อ่างทอง 34. ลพบุรี 35. สุพรรณบุรี 36. เลย 37. อุดรธานี 38. สุรินทร์ 39. อุบลราชธานี 40. นครศรีธรรมราช 41. สุราษฎร์ธานี 42. ตรัง 43. นราธิวาส 44. ลำปาง 45. จันทบุรี 46. ระนอง 47. อำนาจเจริญ 48. ตราด 49. มหาสารคาม 50. หนองคาย 51. กาญจนบุรี 52. ลำพูน 53. สระแก้ว

กทม. สั่งปิดสถานที่เสี่ยง เตรียมหารือปิดร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังประชุมด่วนคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณามาตรการเพิ่มเติมในการควบคุมโควิด-19 ว่า คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ได้พิจารณาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหม่เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะภาคตะวันออก ในส่วนกรุงเทพมหานครมีผู้ป่วยที่เกี่ยวกับนักเรียน และสถานบันเทิงหลายราย คณะกรรมการฯ จึงออกมาตรการเพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโดยกรุงเทพมหานครจะออกประกาศปิดสถานที่ภายในวันนี้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

สถานที่ที่ให้ปิด ประกอบด้วย สถานบันเทิง , สวนน้ำ สวนสนุก สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดนัด , โต๊ะสนุ้ก สถานที่เล่นตู้เกมร้านเกมร้านอินเตอร์เน็ต , สนามชนไก่และสนามซ้อมชนไก่ , สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุ ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ , สนามมวยโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้หรือยิม , สนามม้า

สถานประกอบการกิจการอาบน้ำ , สถานประกอบกิจการอาบอบนวด สนามแข่งขันทุกประเภท , สถานที่ที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน , สนามชนโคสนามกัดปลาหรือสนามแข่งขันในลักษณะทำนองเดียวกัน , สนามพระเครื่องศูนย์พระเครื่อง , ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน , สถานที่เจาะผิวหนังหรืออื่นใดในร่างกาย

อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันกวดวิชาหรือสถาบันการศึกษา โดยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนและสถานที่ที่เป็นโรงเรียนและสถาบันกวดวิชา ได้มีการปิดไปบางส่วนอยู่แล้วแต่จะทำการขยายตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 17 มกราคม 2564 ส่วนในสถานที่อื่นๆ ทั้งหมดในประกาศจะปิดตั้งแต่ เวลา 00.01 ของวันที่ 2 มกราคม 2564

สำหรับ การจำหน่ายอาหารแบบนำกลับบ้าน โดยไม่ให้ทานที่ร้าน จะหารือ ศบค. ในวันที่ 2 ม.ค. 2564 ซึ่งจะมีการออกประกาศในวันที่ 4 ม.ค. 2564 รวมถึงห้างสรรพสินค้า ยังไม่มีการสั่งให้ปิด แต่จะมีมาตรการที่เกี่ยวข้องในวันที่ 2 ม.ค. 2564 เช่นกัน

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุม การดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯ จะจัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดใน 3 เขต ที่มีการระบาดคือ เขตหนองแขม เขตบางพลัด และเขตบางขุนเทียน โดยให้ผู้อำนวยการเขตมีอำนาจดูแลควบคุม หยุดกิจกรรมทุกกิจกรรม หรือควบคุมประชาชนกิจกรรมที่จะทำให้เกิดการระบาดแพร่เชื้อ ส่วนการควบคุมการเข้า-ออกเมือง กรุงเทพมหานครมี 11 ด่าน ตรวจสอบรถเข้า-ออก และได้ประสานไปทางรถไฟให้ควบคุมต้นทางที่มีการระบาดด้วย

สธ. อยู่ระหว่างเจรจาจัดหาวัคซีน 2 ล้านโดส บุคลากรทางการแพทย์-กลุ่มเสี่ยงได้ฉีดก่อน

ด้านมติชนออนไลน์ รายงานว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงรายละเอียดการเจรจาจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดส เพิ่มเติม ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลว่าจะเข้ามาถึงประเทศไทยประมาณเดือน ก.พ.-เม.ย. 2564 ว่า ขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปมาก แต่เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

“ส่วนเรื่องแผนการฉีดวัคซีนนั้น คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีน ได้ประชุมและมีข้อสรุปแล้วจะนำเข้าพิจารณาในชั้นคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ หลังปีใหม่นี้ เบื้องต้นการให้วัคซีนจะคล้ายกับของต่างประเทศ คือเริ่มฉีดให้บุคลากรการแพทย์ และกลุ่มเสี่ยงเป็นอันดับแรก” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท