Skip to main content
sharethis

สถานการณ์หลังการรัฐประหารโดยกองทัพทหารพม่า

  • ในไทย ตร.สลายการชุมนุมหน้าสถาทูต จับ 3 ผู้ชุมนุม
  • นักเรียนชูป้ายประท้วงที่สกายวอล์ก ปทุมวัน
  • 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' ออกแถลงการณ์ประท้วง
  • แอมเนสตี้แถลงหลังอองซาน ซูจีถูกจับกุมขณะที่เกิดการทำรัฐประหารในพม่า
  • นัก กม.สิทธิฯ - สถาบันปรีดี ออกแถลงการณ์ประณามรัฐประหาร
การชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตพม่า

ภาพผู้ชุมนุมทั้งชาวพม่าและนักกิจกรรมชาวไทยชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตพม่า

1 ก.พ.2564 สถานการณ์หลังกองทัพทหารพม่าก่อเหตุรัฐประหารยึดอํานาจรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) นั้น

ตร.สลายการชุมนุมหน้าสถาทูต จับ 3 ผู้ชุมนุม

ในประเทศไทย ช่วงเย็น เวลา 15.00 น. ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตพม่า เขตยานนาวา กลุ่มชาวพม่า สวมใส่เสื้อสีแดงสกรีนภาพ #อองซานซูจี และตัวอักษร NLD ถือป้ายผ้าสัญลักษณ์ของพรรค NLD พร้อมชู 3 นิ้วเพื่อแสดงออกต่อต้านรัฐประหาร

นอกจากนี้กลุ่มวีโว่ We Volunteer เดินทางมาร่วมกันจัดกิจกรรม #SaveMyanma ต่อต้านรัฐประหาร กรณีที่มีการจับกุมผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรี และนักการเมืองของพม่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 

เวลา 17.00 น. ตำรวจประกาศอีกครั้งให้ยุติการชุมนุมและให้ตำรวจควบคุมฝูงชนเดินตั้งแถวเข้าที่ชุมนุม จากนั้นสลายการชุมนุม จากนั้นมีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นทางฝั่งตำรวจควบคุมฝูงชนหนึ่งครั้งตามด้วยพลุควันสี  ก่อนที่ตำรวจคุมตัวผู้ชุมนุม 1 คนในที่เกิดเหตุ ภายหลังมีรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมไม่น้อยกว่า 3 คนและถูกพาตัวไปที่สน.ยานนาวา

ตำรวจสลายการชุมนุมที่หน้าสถานทูตพม่า

เวลา 18.18 น. ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้มวลชนและสื่อกลับบ้านเนื่องจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานกำลังเข้าพื้นที่และจะเปิดพื้นที่จราจรปกติ-มีรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการสลายการชุมนุมตำรวจมีการใช้กระบองตีผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของใส่โล่ของตำรวจ

เวลา 18.30 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนไปปักหลักที่สน.ยานนาวา

เวลา 19.00 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนยังตั้งแนวที่ถนนสาทร แยกตัดสาทร ซอย 10 ผู้ชุมนุมบางส่วนยังปักหลักอยู่ที่นั่นเพื่อกดดันให้ตำรวจปล่อยรถเสบียงออกมา

ราษฎร ออกแถลงการณ์กรณีการรัฐประหารยึดอำนาจในประเทศเมียนมา เรียกร้องให้ประชาคมอาเซียนแสดงออกถึงการสนับสนุนประชาธิปไตยในภูมิภาคอย่างชัดเจน เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

เพจ ราษฎร ออกแถลงการณ์กรณีการรัฐประหารยึดอำนาจในประเทศพม่า เรียกร้องให้ประชาคมอาเซียนแสดงออกถึงการสนับสนุนประชาธิปไตยในภูมิภาคอย่างชัดเจน เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

นักเรียนชูป้ายประท้วงที่สกายวอล์ก ปทุมวัน

ขณะที่สกายวอล์ก ปทุมวัน เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ปรากฏมีกลุ่มนักเรียนชูป้ายและแจกใบปลิวต่อต้านรัฐประหารในพม่า

นักเรียนชูป้ายประท้วงที่สกายวอล์ก ปทุมวัน

ภาพนักเรียนชูป้ายประท้วงการรัฐประหารในพม่า ที่สกายวอล์ก ปทุมวัน

'เพื่อไทย-ก้าวไกล' ออกแถลงการณ์ประท้วง

พรรคเพื่อไทย แถลงประณามการใช้กำลังเข้ายึดอำนาจการปกครองของกองทัพพม่า โดยไม่เคารพในสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยและไม่เคารพในฉันทามติโดยสุจริตของประชาชน และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักการเมือง และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกควบคุมตัวไว้โดยทันที

แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย

ขณะที่พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อพรรคการเมือง และรัฐบาลในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประชาคมระหว่างประเทศและประชาชนผู้รักประชาธิปไตย 1. ให้ช่วยกันกดดันกองทัพพม่าให้ปล่อยตัวนางซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ, ประธานาธิบดีวิน มินต์, และผู้ที่ถูกกองทัพควบคุมตัวทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข 2. เรียกร้องให้ช่วยกันกดดันกองทัพพม่าไม่ให้ใช้กำลังปราบปรามประชาชนพม่าที่ออกมาต่อต้านการรัฐประหาร และต้องยุติการปิดกั้นการสื่อสารทุกชนิด ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน และ 3. เรียกร้องให้พรรคการเมืองและรัฐบาลต่างๆ มีมาตรการคว่ำบาตรคณะรัฐประหารพม่าทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ

พรรคก้าวไกลยืนยันว่า การรัฐประหารโดยกองทัพไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหาทางการเมืองหรือวิธีการแก้ไขข้อบกพร่องในระบอบประชาธิปไตย กองทัพไม่มีสิทธิเหนือเสียงของประชาชนในการอ้างเหตุผลใดๆ เพื่อยึดอำนาจการปกครอง การรัฐประหารมีแต่จะทำให้ประเทศถอยหลังไม่แค่การเมือง แต่รวมถึงเศรษฐกิจ ดังที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่

พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้เพื่อนพรรคการเมืองในภูมิภาคที่เคารพในอำนาจสูงสุดและสิทธิเสรีภาพของประชาชน ร่วมกันประณามคณะรัฐประหารในพม่า เพื่อให้กลับไปใช้กระบวนการของระบบรัฐสภาแก้ปัญหาทางการเมืองและฟื้นฟูประชาธิปไตยกลับมาโดยเร็วที่สุด

แถลงการณ์พรรคก้าวไกล

แอมเนสตี้แถลงหลังอองซาน ซูจีถูกจับกุมขณะที่เกิดการทำรัฐประหารในพม่า 

สืบเนื่องจากการจับกุม อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และบุคคลอื่นๆ ทางการเมืองหลายท่าน ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีการทำรัฐประหารในพม่า นั้น มิงยู ฮาห์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคฝ่ายรณรงค์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การจับกุมอองซาน ซูจี เจ้าหน้าที่ระดับสูงและนักการเมืองคนอื่น ๆ เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง ซึ่งหากไม่มีการตั้งข้อหาต่อผู้ถูกควบคุมตัวตามความผิดอาญาอันเป็นที่ยอมรับในกฎหมายระหว่างประเทศ จะต้องปล่อยตัวบุคคลเหล่านั้นโดยทันที  

“กองทัพพม่าต้องชี้แจงว่ามีการใช้ข้อกฎหมายใดในการควบคุมตัวพวกเขา ทั้งยังต้องประกันให้มีการเคารพสิทธิของผู้ถูกจับกุมอย่างเต็มที่ รวมทั้งไม่ให้มีการปฏิบัติที่โหดร้าย ให้พวกเขาสามารถติดต่อครอบครัวและเข้าถึงทนายความที่ตนเลือกทนายความที่ตนเลือกได้ ต้องสามารถยืนยันว่าอยู่ในที่ใด และต้องได้รับการรักษาพยาบาล  

“นับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับประชาชนในพม่า และจะยิ่งทำให้การปราบปรามและการลอยนวลพ้นผิดของกองทัพเลวร้ายยิ่งขึ้น การจับกุมนักกิจกรรมทางการเมืองและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนพร้อมกันหลายๆ คน ส่งสัญญาณที่น่ากลัวว่ากองทัพจะไม่ยอมให้บุคคลแสดงความเห็นต่าง ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในวันนี้   

“การทำรัฐประหารและการปราบปรามครั้งก่อนในพม่าส่งผลให้เกิดความรุนแรงในวงกว้างและการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรมโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เราจึงขอเรียกร้องให้กองทัพใช้ความยับยั้งชั่งใจ ปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้   

“อีกทั้งมีรายงานว่ามีการสั่งปิดกั้นการสื่อสาร ซึ่งการกระทำดังกล่าวยิ่งเป็นภัยคุกคามมากขึ้นต่อประชาชนในช่วงเวลาที่อ่อนไหว โดยเฉพาะในระหว่างการต่อสู้กับโรคระบาดในพม่า และในขณะที่ยังมีการทำสงครามในประเทศกับกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อพลเรือนในทุกส่วนของประเทศ ดังนั้นทางการจำเป็นต้องมีการเปิดให้บริการโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มที่อีกครั้งโดยทันที”   

ทั้งนี้ อองซาน ซูจี ผู้นำของรัฐในทางพฤตินัยของพม่า และเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่เป็นพรรครัฐบาล รวมทั้งผู้นำรัฐบาลระดับภูมิภาค ต่างถูกจับกุมตอนเช้าตรู่ในวันนี้ ทั้งยังมีรายงานการจับกุมแกนนำพรรคการเมืองกลุ่มชาติพันธุ์และนักศึกษา รวมทั้งนักกิจกรรมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนสำคัญอีกด้วย   

ในช่วงสาย สถานีโทรทัศน์ของกองทัพระบุว่า มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลาหนึ่งปี โดยให้อยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของ พลเอกอาวุโสมินอ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 

ก่อนหน้านี้มีรายงานความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ของพรรค NLD กับตัวแทนของกองทัพก่อนการประชุมเป็นครั้งแรกของสมาชิกรัฐสภาที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในวันนี้   

กองทัพและพรรคที่เป็นพันธมิตรด้วยกันอย่างพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) กล่าวหาว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งในระหว่างการจัดเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งส่งผลให้พรรค NLD ได้รับที่นั่งมากขึ้นและเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภา ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 คณะกรรมการการเลือกตั้งออกมารับรองชัยชนะของอองซาน ซูจีและพรรค NLD ในการเลือกตั้งทั่วไป โดยได้จำนวนส.ส. 396 จากทั้งหมด 498 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งทั้งสองสภา   

ระหว่างการจับกุมตอนเช้าตรู่ มีรายงานว่าทางการได้สั่งงดให้บริการอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งกรุงเนปิดอว์เมืองหลวงของประเทศ นครย่างกุ้งที่เป็นเมืองใหญ่สุด รวมทั้งในรัฐฉานและคะฉิ่น และเขตมัณฑะเลย์และเขตสะกาย   

นัก กม.สิทธิฯ - สถาบันปรีดี ออกแถลงการณ์ประณามรัฐประหาร

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) สมาคมสิทธเิสรีภาพของประชาชน (UCL) สมาคมนักกฎหมายสทิธิมนุษยชน (HRLA) และมูลนิธิสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) ออกแถลงการณ์ประณามการกระทําของกองทัพทหารพม่าจากเหตุการณ์รัฐประหารยึดอํานาจรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD)

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) สมาคมสิทธเิสรีภาพของประชาชน (UCL) สมาคมนักกฎหมายสทิธิมนุษยชน (HRLA) และมูลนิธิสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) ออกแถลงการณ์ประณามการกระทําของกองทัพทหารเมียนมาจากเหตุการณ์รัฐประหารยึดอํานาจรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD)

นอกจากนี้ สถาบันปรีดี พนมยงค์ ยังออกแถลงการณ์ประณามวิธีใช้กำลังเพื่อการรัฐประหารทุกรูปแบบ และเรียกร้องให้คณะรัฐประหารคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน โดยยึดหลักประชาธิปไตยสากล ที่จักต้องเคารพเจตจำนงทางการเมืองที่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน รวมถึงให้การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเคร่งครัด

สถาบันปรีดี พนมยงค์ ยังออกแถลงการณ์ประณามวิธีใช้กำลังเพื่อการรัฐประหารทุกรูปแบบ และเรียกร้องให้คณะรัฐประหารคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน โดยยึดหลักประชาธิปไตยสากล ที่จักต้องเคารพเจตจำนงทางการเมืองที่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน รวมถึงให้การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเคร่งครัด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net