ศรีสุวรรณ หอบภาพถ่าย-คลิปวิดีโอ แจ้งความเอาผิดกลุ่มราษฎร กลุ่ม REDEM กลุ่มแนวร่วมฯ และอื่นๆ จากกรณีชุมนุมบริเวณด้านหน้าและในพื้นที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 และ 2 พ.ค.64 ต่อพนักงานสอบสวนที่ สน.พหลโยธิน ชี้ผิดกฎหมายหลายประการ

5 พ.ค.64 หลายสำนักข่าวรายงานเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ กลุ่มราษฎร กลุ่มแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก กลุ่ม REDEM และอื่นๆ ที่ร่วมกันฝ่าฝืนกฎหมายหลายประการ กรณีชุมนุมประท้วง ณ บริเวณด้านในและด้านนอกรั้วศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 29 เม.ย. และ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา 

ศรีสุวรรณ กล่าวว่า วันนี้สมาคมฯ เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ 2 คดี คือคดีเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่กลุ่มราษฎรมาประท้วงหน้าศาลอาญา รัชดา เรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้นักกิจกรรมการเมืองที่ถูกควบคุมตัวช่วงพิจารณาคดี ม.112 และร่วมกันตำหนิด่าทอศาลและผู้พิพากษา ซึ่งเข้าข่ายการหมิ่นอำนาจศาล ต่อมาคือกรณีกลุ่มเยาวชนปลดแอก แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ และกลุ่ม REDEM ที่จัดชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 2 พ.ค. บริเวณหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวขัดกับกฎหมายหลายประการ ได้แก่ ฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามการชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ร.บ.การรักษาความสะอาดฯ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง และประมวลกฎหมายอาญา ม.215 

นอกจากข้อกฎหมายข้างต้น ศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า วันที่ 2 พ.ค.64 ปรากฏภาพการกระทำไม่เหมาะสมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ซึ่งสมาคมได้ติดตามกลุ่มต่างๆ มาตลอด และเชื่อว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการเรียกบุคคลต่างๆ มาที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินการสอบสวน ส่งสำนวนต่ออัยการและรับฟ้องคดีต่อศาลอาญา ซึ่งกฎหมายไม่ได้ระบุว่าจะสามารถเอาผิดได้เฉพาะแกนนำเพียงเท่านั้น บุคคลใดก็แล้วแต่ที่มาร่วมการชุมนุมย่อมมีความผิดเทียบเท่ากันหมด

หลักฐานที่นำมาประกอบ ได้แก่ รูปถ่ายและคลิปวิดีโอที่ชี้ให้เห็นว่ามีบุคคลใดที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งศรีสุวรรณ ระบุว่า เบื้องต้นมีแกนนำที่เห็นกันอยู่ เช่น เบนจา อะปัญ จากกลุ่มแนวร่วม มธ. และแกนนำของกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ซึ่งตนเองรวบรวมได้ประมาณ 4-5 คน และคิดว่าฝ่ายสืบสวนของ สน.พหลโยธิน คงจะมีชื่อบุคคลต่างๆ เหล่านี้เรียบร้อยแล้ว

"การกระทำดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ซึ่งเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นหน้าที่ของประชาชนไทยทุกคนที่พบเห็นการกระทำดังกล่าว สามารถนำความมาแจ้งความเอาผิดบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎหมายข้างต้นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ทำสำนวน ออกหมายเรียกหรือออกหมายจับ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดส่งอัยการเพื่อฟ้องร้องต่อศาล พิจารณาลงโทษ ตามครรลองของกฎหมายขั้นสูงสุดต่อไปได้" ศรีสุวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ ศรีสุวรรณ ระบุเหตุผลที่มาแจ้งความเพิ่มว่า เพื่อปกป้องผู้พิพากษา และหรือศาล อันเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยไทยตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ มิให้ถูกกระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือและความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ผิดๆ ต่อสังคมไทยต่อไป