อัยการเชียงใหม่สั่งฟ้อง 3 นักข่าวสถานีโทรทัศน์เสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า กับ 2 ผู้ติดตาม ฐานหลบหนีเข้าเมือง โดยศาลมีคำสั่งรับฟ้องในวันเดียวกัน
28 พ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 พ.ค.64) พนักงานอัยการศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งฟ้องนักข่าวสังกัดสถานีโทรทัศน์เสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า (Democratic Voice of Burma - DVB) 3 คน และผู้ติดตามอีก 2 คน ในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (หลบหนีเข้าเมือง) โดยศาลได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องในคดีนี้เป็นที่เรียบร้อย
ในการบรรยายฟ้องของอัยการ ข้อ 3 มีการระบุว่า “จำเลยนี้กับพวกเป็นผู้สื่อข่าวและคณะผู้ติดตามของสำนักข่าว Democratic Voice of Burma (DVB) ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงในประเทศเมียนมา และมีความไม่สงบในประเทศเมียนมา โดยจำเลยกับพวกได้หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อลี้ภัยทางการเมือง ปัจจุบันมีหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนและสื่อมวลชนในประเทศและนอกประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
ทนายความของนักข่าว DVB ตั้งข้อสังเกตว่า วันนี้ที่ศาลแขวงมีเจ้าหน้าจากทางกงสุลพม่าประจำจังหวัดเชียงใหม่และเจ้าหน้าที่จากทางสำนักนายกรัฐมนตรีมาร่วมสังเกตการณ์ในคดีนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ทนายความมีความกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากจำเลยเป็นนักข่าวที่เคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทำรัฐประหารในประเทศพม่าและถูกจับตามองจากทางการจนต้องหนีภัยความตายเข้ามายังฝั่งไทย ทำให้คดีมีความละเอียดอ่อนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การที่ศาลจะมีคำสั่งในคดีนี้จึงไม่อาจยึดถือตามหลักกฎหมายไทยแต่เพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องคำนึงถึงหลักการระหว่างประเทศในการคุ้มครองชีวิตของผู้หนีภัยความตายอีกประการหนึ่งด้วย
เหตุการณ์การจับกุมนักข่าว DVB และผู้ติดตาม เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมทั้ง 5 คนที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ฐานลักลอบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปสุตา ชื้นขจร, ศุกาญจน์ตา สุขไผ่ตา ทนายความของจำเลย ขณะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวนักข่าวพม่าและผู้ติดตาม เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 64
ซึ่งก่อนหน้านี้ (14 พ.ค. 64) ทนายความพยายามยื่นขอขอปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 5 คน เนื่องจากเกรงว่านักข่าวพม่าและผู้ติดตาม อาจถูกส่งกลับพม่า ในขณะที่สถานการณ์การเมืองในพม่ายังอยู่ในสภาวะวิกฤติ มีการจับกุมตัวประชาชน นักข่าว นักแสดง และคนที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารของพลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย ที่เกิดขึ้นอย่างหนัก โดยทางทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 50,000 บาท และใช้ตำแหน่งทางวิชาการของผศ.ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนายประกันให้แก่ผู้ถูกจับกุมทั้ง 5 คน แต่ไม่สำเร็จ
ทั้งนี้เมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้จัดการออนไลน์รายงานโดยอ้างถึงรอยเตอร์ว่า นักข่าวที่รายงานเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในพม่าถูกตัดสินโทษจำคุก 3 ปี ในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามการเปิดเผยของสำนักข่าวต้นสังกัด โดยที่ มินโน นักข่าวของ DVB จากเขตพะโค ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 3 มี.ค. หนึ่งเดือนหลังทหารยึดอำนาจ เขาถูกตำรวจทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามการระบุของสำนักข่าว และครอบครัวของเขาถูกปฏิเสธเข้าเยี่ยม โดยบรรดาผู้ที่ถูกจับกุมตัวเกือบ 4,900 คนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีนักข่าวรวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ตามการระบุของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง
11 พ.ค.ที่ผ่านมา สมาพันธ์สื่อไทยเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลไทยไม่ให้ส่งนักข่าวเมียนมากลับประเทศ เนื่องจากจะทำให้คนเหล่านี้ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงทั้งต่อสวัสดิภาพของตัวเองและต่อสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่สื่อมวลชนซึ่งควรให้ความเคารพและสนับสนุนอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หลังการรัฐประหารในเมียนมามีผู้สื่อข่าวจำนวนมากถูกคุกคามจากรัฐบาลทหาร มีผู้สื่อข่าวถูกคุมตัวอย่างน้อย 73 ราย ถูกดำเนินคดีแล้ว 42 ราย ถูกหมายจับและอยู่ระหว่างหลบหนีอย่างน้อย 22 ราย สถานีโทรทัศน์ถูกถอนใบอนุญาต 6 แห่ง และมีประชาชนถูกสังหารมากกว่า 750 คน