ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย ชูเลือกตั้งอธิการบดีทั่วประเทศเพื่อสร้างธรรมาภิบาล และการยึดโยงกับประชาคมมหาวิทยาลัย

19 ส.ค.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) จัดประชุมสมัยสามัญทางออนไลน์โดยลงมติร่วมกันในประเด็นสำคัญ 2 ส่วนคือ การรวมตัวกันเรียกร้องสวัสดิการที่ดีกว่าให้กับบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาโดยผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ.2548 โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ที่ควรจะมีการปรับปรุงเพื่อตอบโจทย์กับสภาพการจ้างงานที่ทุกวันนี้พนักงานมหาวิทยาลัยมีสัดส่วนที่มากขึ้น และประสบปัญหาด้านความไม่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นสัญญาจ้างหรือสวัสดิการที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

​นอกจากนั้น ในที่ประชุมยังเห็นชอบในการผลักดันวาระสาธารณะร่วมกันกับทุกมหาวิทยาลัยนั่นคือ การเลือกตั้งอธิการบดีโดยตรงทั่วประเทศ ปัจจุบันมีเพียงมหาวิทยาลัยรามคำแหงเท่านั้นที่มีระบบดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่างๆ มีระบบการสรรหาอธิการบดีที่ประชาคมไม่มีสิทธิ์เลือกโดยตรง ดังที่ปรากฏข่าวการสรรหาอธิการบดีบางแห่ง ที่แม้จะได้รับความไว้วางใจจากประชาคมเป็นคะแนนเสียงข้างมาก แต่สุดท้ายผลการสรรหาจะถูกกำหนดโดยสภามหาวิทยาลัย และสัดส่วนกรรมการสภามหาวิทยาลัยนั้น มีตัวแทนที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาคมยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งเสียด้วยซ้ำ ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดปัญหาธรรมาภิบาลมาเป็นเวลานาน เนื่องจากว่าไม่มีระบบตรวจสอบควบคุมได้ดีมากพอ

ดังนั้น ที่ประชุม ทปสท. จึงเห็นว่าควรผลักดันประเด็นดังกล่าว ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งประเทศ ซึ่งมีแนวทางอยู่ 2 แนวทางนั่นคือ การปรับเปลี่ยนจากข้อบังคับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะต้องไปผลักดันผ่านสภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง และอีกแนวทางหนึ่งที่สำคัญยิ่งคือ การผลักดันในระดับกฎหมายกลางระดับพระราชบัญญัติ

อนึ่ง ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.)  เป็นการรวมตัวกันของประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการของสถาบันต่างๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่ง, กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน รวมเป็น 48 แห่ง และประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแต่ละแห่งล้วนได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาคมในสถาบันการศึกษาดังกล่าว