ให้ยาผิด ลืมให้ยา ต้องคุ้ยแก้วน้ำจากถังขยะ แม่เพนกวิน-ทนายติง รพ.ราชทัณฑ์ไม่พร้อมแต่ยืนยันว่าพร้อม

สุรีย์รัตน์ แม่เพนกวิน และทนายพูนสุข แจงละเอียดความไม่พร้อมของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทั้งจ่ายยาผิด ลืมให้ยาเพนกวิน แซม ซาแมทต้องคุ้ยแก้วน้ำจากถังขยะ ห้องรวมไม่มีเตียง ทำเรื่องขอย้ายไป รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ทั้งที่มีหนังสือแจ้งว่ายินดีรับตัวต่อแล้ว ราชทัณฑ์ก็ไม่ยอมให้ย้ายยืนยันแต่ว่าพร้อมดูแล ทนายความยืนยันว่าควรให้ย้ายและโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ควรปรับปรุงด้วย

สุรีรัตน์ ชิวารักษ์ แฟ้มภาพ

20 ส.ค.2564 สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวินให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอาการป่วยของรพริษฐ์หลังจากเยี่ยมเมื่อวานว่า พริษฐ์มีอาการไอ เหนื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว แล้วก็วันก่อนก็ต้องขอออกซิเจนเพิ่ม แล้วแขนข้างที่ใส่น้ำเกลือมีเลือดไหลแล้วก็ต้องทำแผลกันเอง ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อมาแล้ว 3 วัน

แม่ของพริษฐ์บอกอีกว่าห้องที่พริษฐ์อยู่ตอนนี้ก็มียุงเยอะมากแล้วไม่ใช่แค่พริษฐ์คนเดียวแต่ฟ้า พรหมศร ธรรมจารีย์และนิว สิริชัย นาถึง ก็พูดตรงกันว่าห้องที่พวกเขาอยู่ก็มียุงเยอะเช่นกันและกังวลว่าจะติดเชื้อไข้เลือดออกแทรกซ้อนกัน พริษฐ์ก็ขอให้เธอซื้อยากันยุงให้ และน้ำดื่มที่กินตอนนี้ก็เป็นน้ำก๊อกก็ต้องซื้อไปฝาก

“เขามีปัญหาระบบหายใจก็ขอยาเพิ่ม แล้วหมอก็ให้ยาผิด ดีที่เขารู้ก่อนเพราะเขาเคยกินมาก่อนก็เลยรู้ว่ายาที่ได้มาผิด แล้วกินยาผิดจะทำยังไง แล้วเรื่องเป็นแผลต้องมาทำแผลเองอีก ถ้าเขาติดเชื้อจะทำยังไง” แต่ไม่ใช่แค่เรื่องให้ยาผิดเท่านั้น สุรีย์รัตน์บอกอีกว่าลูกชายเล่าให้ฟังว่ามีวันที่ถึงเวลาเขาจะต้องได้ยาแล้วเมื่อถามกับทางโรงพยาบาลก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า “ลืม” และพอตกกลางคืนอาการหอบกำเริบก็ไม่มีแพทย์พยาบาลมาดูแล

สุรีย์รัตน์บอกว่าแม้จะแจ้งกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้วว่ามีเรื่องขัดข้องอะไรขอให้บอกแล้วจะไปเดินเรื่องแทนแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร มีเพียงการยืนยันว่าทางโรงพยาบาลมีความพร้อมมากกว่าโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ อีก และหากทำให้ก็จะเป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเธอก็บอกกับทางโรงพยาบาลว่าก็เพราะสังคมไทยเลือกปฏิบัติอยู่แล้วถึงทำให้พริษฐ์ต้องเข้ามาเจอสภาพแบบนี้ และสภาพที่พวกเขาเจอก็ตรงข้ามกับที่กรมราชทัณฑ์แถลงทุกอย่าง

พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้พริษฐ์ สิริชัย พรหมศรและ แซม ซาแมทที่เพิ่งพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกคนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทางทนายความก็ทำเรื่องถึงโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ต่อมาวันอังคารทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็มีหนังสือรับรองการเป็นนักศึกษาของพริษฐ์กับสิริชัยและทางโรงพยาบาลธรรมศาสต์ก็ยินดีรับรักษาไปถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์แต่ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่มีคำสั่งอะไรออกมา ส่วนพรหมศรกับแซมตอนนี้มีปัญหาว่ายังหาโรงพยาบาลที่จะรับรองการนำตัวไปรักษาต่อยังไม่ได้ก็จะยิ่งทำให้การย้ายออกไปทำการรักษาข้างนอกลำบากขึ้นไปอีก

ทนายความกล่าวต่อว่าทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็แจ้งว่าสามารถดูแลได้และมียาให้ แต่สถานการณ์ตอนนี้ที่พริษฐ์ถูกแยกออกไปรักษาต่างหากจากอีก 3 คน เนื่องจากเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะและโรคประจำตัวคือหอบหืดอยู่ด้วยก็ไปอยู่ห้องของกลุ่มที่มีอาการหนัก แม้ว่าตอนนี้ค่าออกซิเจนในเลือดจะยังปกติอยู่ แต่พริษฐ์ก็ต้องใช้เครื่องให้ออกซิเจนอยู่ตลอดเหมือนกัน และเมื่อพริษฐ์ออกเยี่ยมผ่านการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ก็ต้องถอดเครื่องให้ออกซิเจนมาก็จะเห็นว่าเขามีอาการเหนื่อย

พูนสุขกล่าวต่อว่า พริษฐ์ได้เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่เขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็มีคนไข้โควิด-19 ในห้องเดียวกันเสียชีวิตไปแล้ว 2-3 คน เขาบอกว่ามันไม่ใช่โรงพยาบาลจริงๆ แต่เป็นเรือนจำดูแลเหมือนเป็นนักโทษ พอตอนเย็นก็ปิดล็อกห้องขังแล้วก็ไม่มีแพทย์พยาบาลมาดูตอนกลางคืน พอมีคนตายก็ถึงจะมาเก็บศพกันตอนเช้า ถึงจะมีสัญญาณดังที่เตียงคนไข้ก็ไม่มีคนมาดู แต่ทั้งหมดนี้ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ยังคงยืนยันว่าดูแลได้

พูนสุขกล่าวถึงสถานการณ์ของอีก 3 คนที่เหลือว่าตอนนี้ทั้งสิริชัย พรหมศร และแซม ก็มีอาการของการติดเชื้อโควิด-19 คือ ไม่สามารรับกลิ่นรับรสได้ แซมมีอาการแน่นหน้าอกแล้ว ส่วนฟ้ามีไข้ แล้วก็ตอนนี้ไม่มีใครกินอาหารได้เนื่องจากอาหารคุณภาพแย่มาก แล้วแซมที่เพิ่งถูกย้ายมาที่หลังก็ต้องหาแก้วน้ำจากในถังขยะ ส่วนสภาพข้างในห้องของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ได้เห็นผ่านการเยี่ยมออนไลน์ว่าเป็นเพียงห้องกว้างๆ ที่ผู้ต้องขังต้องนอนรวมกันบนพื้นไม่มีเตียง

ทนายความบอกว่ากรณีของนิว สิริชัย อดอาหารประท้วงตั้งแต่เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้วเพื่อให้มีการย้ายไปตัวโรงพยาบาลข้างนอกเรือนจำ

พูนสุขเห็นว่าจากสภาพดังกล่าวทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์เองก็ไม่ได้มีความพร้อม นอกจากจะควรให้ย้ายทั้ง 4 คนออกไปรักษาที่อื่นแล้ว ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์เองก็ควรจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อให้มีความพร้อมมากกว่านี้ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท