'แน่งน้อย อัศวกิตติกร' และตัวแทนกลุ่มคนสังคมออนไลน์ ยื่นหนังสือถึง รมว.ดีอีเอส เรียกร้องรัฐบาล-ก.ดีอีเอส เร่งตรวจสอบการทำงานของ 'เฟสบุ๊ค' ชี้อาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายการทำธุรกิจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ 

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2564 ว่านายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดีอีเอส) รับหนังสือจาก นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ตัวแทนกลุ่มคนสังคมออนไลน์ โดยร้องเรียนผ่าน รมว.ดีอีเอส ถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้รัฐบาล เข้ามาตรวจสอบการทำงานของ Facebook โดยเร่งด่วน ว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายการทำธุรกิจที่จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยหรือไม่ ด้วยเหตุ 4 ข้อ ได้แก่ Facebook เสียภาษีอย่างถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ อย่างไรในการที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย Facebook ประกอบธุรกิจภายใต้กฎหมายของประเทศไทยหรือไม่ Facebook มีความเป็นกลางหรือไม่ และ Facebook เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้คนไทยหลายสิบล้านคนอย่างเป็นระบบ ซึ่งสุ่มเสี่ยงมากในแง่ความมั่นคงของประเทศ ซึ่งกลุ่มสังคมออนไลน์ มีความกังวลว่าประเทศไทย อาจจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้กับต่างชาติไปมากกว่านี้ เพราะในโลกยุคปัจจุบัน ผู้ใดคุมสื่อผู้นั้นครองโลก ผู้ใดคุมโซเชียลมีเดีย ผู้นั้นคุมสังคม เช่นเดียวกับ Facebook ที่ต่างชาติอาจกำลังใช้เป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมประเทศไทยอยู่ในขณะนี้

พร้อมกันนี้ นายฐากูร นวลแก้ว ตัวแทนกลุ่มประชาชนที่ใช้บริการ Facebook ได้ร้องเรียนกรณีได้รับความไม่เป็นธรรมจากการเลือกปฏิบัติของ Facebook Thailand โดยที่ผ่านมาถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นกลางต่อผู้เคารพเทิดทูนสถาบัน เพราะมักโดนปิดหรือแบนและบล็อคอยู่ตลอดเวลา ตรงข้ามกับฝ่ายที่มีทัศนคติไม่ดีต่อสถาบัน ซึ่งไม่ว่าจะเขียนเป็นลบขนาดไหน ก็ไม่เคยโดนแบนหรือปิดกั้นการใช้งานจาก Facebook Thailand ดังนั้น จึงขอยื่นข้อร้องเรียนผ่าน รมว.ดีอีเอส ถึง Facebook Thailand ขอให้ช่วยชี้แจงบทบาทและความเป็นกลาง โดยหวังว่าจะได้รับความกระจ่างในเร็ววัน 

ด้าน รมว.ดีอีเอส กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า สำหรับปัญหาดังกล่าวต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา Facebook ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายไทยในทุกเรื่อง ซึ่งปัญหาตรงนี้ รัฐบาลได้พยายามดำเนินการอยู่ เพื่อให้การดำเนินการต่าง ๆ เกิดผลเป็นรูปธรรมให้ได้ พร้อมกันนี้ยืนยันว่า กระทรวงดีอีเอส จะนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติให้ได้ต่อไป