Skip to main content
sharethis

13 ธ.ค. 2564 ศบค. แถลงอนุญาตขายและดื่มสุราคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ถึง 01.00 น. วันที่ 1 ม.ค. 2565 เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง พร้อมเชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เลือกวัคซีนได้ตามความสมัครใจ ขณะที่แนวการติดเชื้อลดลง พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3,398 คน เสียชีวิต 23 คน

ศบค. แถลงพบผู้ติดเชื้อ 3,398 คน เสียชีวิต 23 คน 

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 ธ.ค. 2564 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,398 คน ในจำนวนนี้ติดเชื้อภายในประเทศ 3,376 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 20 คน ติดเชื้อจากในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 2 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,172,044 คน ในจำนวนนี้ไม่รวมผู้ติดเชื้อเข้าข่ายที่ตรวจด้วย ATK เป็นบวก ที่กรมควบคุมโรครายงานจำนวน 483 คน

เสียชีวิตเพิ่ม 23 คน อายุระหว่าง 43-87 ปี ทั้งหมดมีอายุ 60 ปีขึ้นไปหรือมีโรคเรื้อรัง เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 21,194 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.98%

ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 5,467 คน ยังรักษาตัวอยู่ 49,524 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,061 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 307 คน ฉีดวัคซีนครบโดส 43,333,522 คน คิดเป็น 60.16%

ด้านแนวโน้มสถานการณ์ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังต่ำกว่าเส้นคาดการณ์ นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังรายงานอัตราผู้ป่วยอาการรุนแรงต่อจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งส่งผลต่อการครองเตียงในโรคพยาบาล พบว่า แนวโน้มลดเรื่อยๆ ตามปริมาณความครอบคลุมของวัคซีนที่เพิ่มขึ้น

ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค

นอกจากนี้ โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบการปรับระดับพื้นที่ เหลือเพียงพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 39 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 30 จังหวัด พร้อมเพิ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวจาก (สีฟ้า) 7 เป็น 8 จังหวัด

พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ได้แก่ ขอนแก่น, จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชุมพร, เชียงใหม่, เชียงราย, ตรัง, ตราด, ตาก, นครนายก, นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ประจวบคีรีขันธ์, ปัตตานี, ปราจีนบุรี, พระนครศรีอยุธยา, พัทลุง, พิษณุโลก, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, แม่ฮ่องสอน, ยะลา, ระนอง, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, ลำปาง, ลำพูน, สตูล, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, สงขลา, สระแก้ว, สระบุรี, สุพรรณบุรี, สุราษฎร์ธานี, อุดรธานี, และอุบลราชธานี

พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ได้แก่ กาฬสินธุ์, กำแพงเพชร, ชัยนาท, ชัยภูมิ, นครปฐม, นครพนม, นครสวรรค์, น่าน, บึงกาฬ, บุรีรัมย์, พิจิตร, พะเยา, แพร่, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, เลย, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สมุทรสงคราม, สิงห์บุรี, สุโขทัย, สุรินทร์, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี, อ่างทอง, และอำนาจเจริญ

พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, กาญจนบุรี, กระบี่, ชลบุรี, นนทบุรี, ปทุมธานี, พังงา, และภูเก็ต

ปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร

นพ.ทวีศิลป์ รายงานจำนวนผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย. 2564 จำนวน 133,061 ติดเชื้อ 171 คน อัตราการติดเชื้อ 0.13% ระหว่างวันที่ 1-12 ธ.ค. 2564 จำนวน 87,383 คน ติดเชื้อ 152 คน อัตราการติดเชื้อ 0.17% ถือเป็นอัตราการติดเชื้อที่ต่ำ 

จากข้อมูลข้างต้น โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ดังนี้

  • การพำนักในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox  Programme) และการเข้ากักตัว (Quarantine Facilities) ต้องมีระยะเวลาพำนัก/กักตัว 7 วัน
  • การปรับการตรวจหาเชื้อสำหรับ Test and Go และ พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox  Programme) เป็น RT–PCR ครั้งที่ 1 และยังคงตรวจ ATK ด้วยตนเองครั้งที่ 2

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. ยังปรับกลุ่มประเภทผู้เดินทางเป็น 6 กลุ่ม และกลุ่มประเทศ 4 กลุ่ม มีผลบังคับใช้ 16 ธ.ค. 2564 ดังนี้

  • จำแนกประเภทบุคคล รูปแบบ และเงื่อนไขการเดินทางเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1) Test and Go 2) Sandbox 3) กักตัว 4) ผู้ขนส่งสินค้า ทางบก/เรือ 5) ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ และ 6) ผู้มีเหตุยกเว้น หรือได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขเฉพาะ
  • จำแนกตามประเทศต้นทาง 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มประเทศเทสต์แอนด์โก (Test and Go) 2) กลุ่มทุกประเทศ 3) กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ และ 4) กลุ่มประเทศเสี่ยงสูง

อนุญาตขายแอลกอฮอล์คืนข้ามปี

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค. อนุญาตให้ทุกพื้นที่สามารถเปิดบริการและบริโภคสุราได้ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2564-1 ม.ค. 2565 ไม่เกิน 01.00 น เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น โดยเน้นย้ำให้เคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่สาธารณสุขกำหนด (COVID Free Setting)

สำหรับการจัดงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้จัดงานปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ต้องลงทะเบียนและทำการประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID 2Plus (TSC 2+) และควบคุมกำกับให้พนักงานประเมินตนเองผ่าน Thai Save Thai (TST) พร้อมยกระดับ COVID Free Customer และ COVID Free Environment  ผู้เข้าร่วมต้องฉีดวัคซีน 2 เข็มและมีการตรวจหาเชื้อด้วย ATK ส่วนงานต่ำกว่า 1,000 คน ดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดงานปีใหม่ 5 พื้นที่หลัก ได้แก่ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่, หน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา, หาดแสงจันทร์ จ.ระยอง, วัดพระราม จ.พระนครศรีอยุธยา, และหาดปลายแหลมสะพานหิน จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 27-31 ธ.ค. 2564 และกระจายในพื้นที่อื่นอีก 44 จังหวัด 

อนุญาตจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีภายใต้ COVID Free Setting

โฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนา แจ้งจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ส่วนกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วันที่ 31 ธ.ค. 2564 เวลา 22.30 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย เจริญจิตตภาวนา และสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า และวัดอรุณราชวราราม วันที่ 31 ธ.ค. 64 เวลา 23.30 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย เจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า วันที่ 1 ม.ค. 2565 เวลา 07.00 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย ทำบุญตักบาตรรับปีใหม่

ส่วนภูมิภาค สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง และกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นใน 3 ภูมิภาค ภาคเหนือ จ.เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานี และภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ส่งเสริมบูรณาการความร่วมมือทางศาสนา ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวในมิติศาสนา

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมเสนอมาตรการในการจัดงาน เช่น มีการเว้นระยะห่าง อากาศถ่ายเท และใช้มาตรการ COVID Free Setting

ขอประชาชนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เลือกได้ตามสมัครใจ

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ขณะนี้มีวัคซีนจำนวนมาก พร้อมสำหรับฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 เนื่องจากเชื้อโอไมครอนกระจายไปหลายพื้นที่ทั่วโลก การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 จะช่วยลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิต จึงต้องการให้ผู้ที่รับวัคซีนระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย. 2564 มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือน ธ.ค. 2564 โดยสามารถเลือกวัคซีนที่ต้องการได้ตามความสมัครใจ

นอกจากนี้ ศบค. ยังตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 80% ของประชากรภายในปี 2565 โดยมีแผนจัดหาวัคซีนเพิ่มอีก 120 ล้านโดส โดยมีแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์เป็นหลัก พร้อมวางแผนสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 โดยให้ศึกษาหาวัคซีนที่ทันสมัย ป้องกันการติดเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อเป้าหมายการติดเชื้อที่น้อยลง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net