‘ซอลินเต็ด’ นักศึกษา ป.โท ชาวพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยง จาก ม.มหิดล ถูกศาลพม่าสั่งจำคุก 2 ปี พร้อมใช้แรงงาน ข้อหา 505(a) หลังเขาถูก จนท.จับกุมเมื่อ มี.ค. ระหว่างกลับบ้านเกิดที่รัฐกะเหรี่ยง เพื่อทำวิจัยและเข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร

‘ซอลินเต็ด’ (Saw Lin Htet) นักศึกษาชาวพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยง จากมหิดล

เมื่อ เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวเคยรายงานกรณี ‘ซอลินเต็ด’ (Saw Lin Htet) นักศึกษาชาวพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยง และสมาชิกกลุ่มเครือข่ายเยาวชนกะเหรี่ยง (Karen Free Youth) ซึ่งกำลังศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตร Human Rights and Democratisation สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ถูกตำรวจพม่าจับกุมหลังกลับบ้านเกิดไปทำวิทยานิพนธ์ และเข้าร่วมประท้วงต้านรัฐประหาร เมื่อ มี.ค. 64 

เหตุแห่งการจับกุมเกิดขึ้นเมื่อ 23 มี.ค. 64  ขณะที่เขากำลังขับรถยนต์กลับบ้านในเมืองพะอัน พร้อมกับลูกสาวของเขาวัย 4 ขวบ ระหว่างเดินทาง เขาถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดและตรวจค้นภายในรถยนต์โดยไม่มีหมายค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่พบเอกสารต่อต้านรัฐบาลในรถของเขา จึงทำให้เขาถูกจับกุมตัว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ซอลินเต็ด ละเมิด ม. 505(a) ซึ่งระบุว่า ใครก็ตามที่ให้ความคิดเห็น อันจะก่อให้เกิดความหวาดกลัว หรือเผยแพร่ ‘ข่าวลวง’ หรือ ‘ปลุกปั่นทั้งโดยตรงและโดยอ้อมให้กระทำอาชญากรรมต่อต้านเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล’ ถือว่ามีความผิด ซึ่งมีโทษสูงสุด 3 ปี ก่อนที่ต่อมา เขาถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มคือครอบครองรถยนต์ที่ไม่ได้จดทะเบียน

เมื่อ 1 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ศาลพะอัน รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ตัดสินจำคุก ซอลินเต็ด เป็นระยะเวลา 2 เดือน ข้อหา ครอบครองรถยนต์ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียน (รถยนต์คันเดียวกับที่ถูกทหารจับกุมเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 64) ขณะนั้น ข้อหา 505(a) ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีความ

จนกระทั่งวันที่ 22 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว อาจารย์ประจำสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ต่อกรณีความคืบหน้าซอลินเต็ด นักศึกษาในสถาบันฯ ว่า เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลพะอัน อ่านคำวินิจฉัย ตัดสินว่าซอลินเต็ด นักศึกษาจาก ม.มหิดล มีความผิดในข้อหา 505(a) มีโทษจำคุก 2 ปี พร้อมใช้แรงงาน

“เท่าที่ถามนักศึกษาพม่าคนอื่นๆ ว่า การใช้แรงงานระหว่างจำคุกในพม่าเป็นยังไง เขาบอกว่า ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ อาจเป็นลักษณะการทำงานบ้านทั่วไป ทำอาหาร ทำความสะอาด ทำงานในไร่อ้อย งานก่อสร้างรางรถไฟ และอื่นๆ แต่ถ้าถูกส่งตัวไปขังคุกในเรือนจำที่เมืองมัณฑะเลย์ เขาจะถูกใช้แรงงานหนัก ทำงานในโรงงานผลิตหินอ่อน” เบญจรัตน์ กล่าว