มทร.อีสาน มีคำสั่งเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องเหตุการณ์รับน้องเสียชีวิต จากทั้งหมด 67 คน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม โดยหนักสุดสั่งลงโทษ 15 รุ่นพี่ให้พ้นสภาพนักศึกษา ส่วนอีก 10 คน ฝ่าฝืนร่วมวางแผนสั่งให้ผลสอบโมฆะ - มอบเงินเยียวยาครอบครัวเหยื่อ-ให้ทุนน้องสาวเรียนจบปริญญาตรี

27 มี.ค. 2565 Thai PBS รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ที่มีนักศึกษารุ่นพี่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ทำร้ายร่างกายนายพัสยศ ชลภักดี หรือ เปรม อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส. ปี 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ จนเสียชีวิต ขณะฝ่าฝืนระเบียบของมหาวิทยาลัยพารุ่นน้องออกไปรับน้องนอกสถานที่ เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา

รศ.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนของคณะกรรมการปกครอง พบว่ามีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 2 เข้าร่วม 67 คน โดยรุ่นพี่ปี 2 สั่งให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า หมอบ คลาน ใช้ศีรษะปักพื้น ชกต่อย และใช้เท้าถีบ จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ซึ่งเป็นความผิดตามระเบียบว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักศึกษา และเป็นการฝ่าฝืนประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่องการงดจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ ประจำปีการศึกษา 2564

ดังนั้น จึงมีคำสั่งให้นักศึกษารุ่นพี่ ปวส. ปี 2 จำนวน 15 คน ที่ผู้ร่วมการฝ่าฝืน วางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรม ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยการใช้ไม้ฟาด ชกต่อย และใช้เท้าถีบยัน เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีความผิด มีโทษให้ออก

กลุ่มที่ 2 สั่งให้ลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 อีก 10 คน ฐานมีส่วนร่วมในการวางแผนดำเนินกิจกรรมให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า หมอบ คลาน และใช้ศีรษะปักพื้น เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีโทษผลการสอบของภาคการศึกษานั้นเป็น "โมฆะ" โดยให้บันทึกผลการศึกษาเป็น "W"

กลุ่มที่ 3 นักศึกษารุ่นพี่ปี 2 ที่เหลืออีก 5 คน ฐานความผิดร่วมกันสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมไม่ห้ามปราม ให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ

สุดท้ายสั่งลงโทษนักศึกษา ปี 1 จำนวน 37 คน ฐานความผิดมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมและเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องอันเป็นการขัดต่อประกาศของมหาวิทยาลัย ให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน

โดยนักศึกษาที่มีบทลงโทษ สามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ 25 มี.ค.2565

ส่วนการช่วยเหลือครอบครัว "น้องเปรม" มีกลุ่มศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฯ มอบเงินเยียวยา 400,000 บาท และมหาวิทยาลัยได้ตั้งกองทุนเบื้องต้น 400,000 บาท ช่วยเหลือน้องสาวของน้องเปรม ให้ได้รับทุนเรียนจนจบปริญญาตรี และช่วยเหลือแฟนสาวของน้องเปรม ให้เรียนจบปริญญาตรีเช่นกัน

ซึ่งบทลงโทษของมหาวิทยาลัยฯ เป็นคนละส่วนกับโทษทางอาญา ส่วนของคดีอาญา ตำรวจแจ้งข้อหา 7 นักศึกษารุ่นพี่ ชั้นปี 2 ฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บ และแจ้งข้อหารุ่นพี่ทั้งชั้นรวม 25 คน ความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ

และความผิดฐานทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล ซึ่งผู้กำกับสภ.มะเริง คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลภายใน 2 เดือน เนื่องจากต้องรอผลการชันสูตรศพและรอยนิ้วมือแฝงก่อน

*ที่มาภาพปกพิธีพาผู้เสียชีวิตกลับบ้าน (จากเพจ ANTI SOTUS)