Skip to main content
sharethis

พรรคไทยสร้างไทยประณามรัฐบาลคว่ำกฎหมายสมรสเท่าเทียม ผลักผู้มีความหลากหลายทางเพศให้กลายเป็นพลเมืองชั้นสองของประเทศ

1 เม.ย. 2565 ทีมสื่อไทยสร้างไทย รายงานว่า นาดา ไทยสร้างไทย คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางเพศ พรรคไทยสร้างไทย ประณามรัฐบาลคว่ำกฎหมายสมรสเท่าเทียม ผลักผู้มีความหลากหลายทางเพศให้กลายเป็นพลเมืองชั้นสองของประเทศ

นาดา ไทยสร้างไทย

คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางเพศ พรรคไทยสร้างไทย

นาดากล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรีมีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หลังใช้อำนาจในฐานะฝ่ายบริหารอุ้มร่างกฎหมายฉบับนี้มาทำการศึกษาเป็นระยะเวลากว่า 60 วัน โดยให้เหตุผลว่าเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมฉบับสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่เสนอโดยรัฐบาล พร้อมกันนี้ได้ประกาศดันร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมเพื่อผลักดันเข้าสภาฯ โดยเร็ว

นาดาแสดงความผิดหวังต่อมติของรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมาย เนื่องจากรัฐบาลปักธงไว้แล้วว่าไม่ยอมรับความรักความสัมพันธ์ของคู่รักเพศหลากหลาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า จะทำการศึกษาความเป็นไปได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกทำไม เพราะร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ผ่านกระบวนการศึกษา ทบทวนหลักกฎหมาย และยกร่างมาแล้วหลายรอบนับตั้งแต่พ.ศ. 2559 รัฐบาลเพียงแค่ภายเรือวนอยู่ในอ่างยื้อเวลาให้ผ่านไปวันๆ ขณะที่มีคู่รักเพศหลากหลายได้รับการกระทบกระเทือนสิทธิ มีคู่รักที่เสียชีวิตเพราะเข้าถึงสวัสดิการการรักษาพยาบาลไม่ได้ รัฐบาลก็ไม่เคยใยดี

ซ้ำร้ายเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ไปรายงานต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติว่าจะรับข้อเสนอเพิ่มเติมทั้งหมดจากกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน แต่กลับสร้างความผิดหวังครั้งใหญ่ต่อหน้าประชาคมโลก โดยการปฏิเสธข้อเสนอแนะทั้งหมด 4 ข้อ ซึ่ง 3 ใน 4 ข้อนั้นเป็นข้อเสนอสำหรับการจดทะเบียนสมรสระหว่างเพศเดียวกันในไทย โดยรัฐบาลอ้างว่าสมรสเท่าเทียมนี้ “ยังไม่สามารถทำได้” ในช่วง UPR รอบนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี 2026 ส่งผลให้เลขาธิการของสหพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อสิทธิมนุษยชน ( International Federation for Human Rights หรือ FIDH) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมชั้นนำของประเทศ แสดงความผิดหวังที่รัฐบาลไทยละทิ้งโอกาสที่จะได้ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองสิทธิของประชาชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางกับการสร้างโฆษณาว่าประเทศไทยเป็นสวรรค์ของความหลากหลายทางเพศผ่านแคมเปญโปรโมทการท่องเที่ยว Go Thai Be Free

ประเทศไทยกำลังขาดทุนจากการที่ไม่ให้การรับรองสิทธิในการก่อตั้งครอบครัว นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อปลายพ.ศ. 2564 ว่า การสมรสและการเข้าถึงสิทธิในสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับคู่สมรสเป็นสิทธิของคนตรงเพศ แถมยังเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของคนรักเพศเดียวกันกับสัตว์โลก ปัจจุบันมี 31 ประเทศที่รับรองให้ประชาชนทุกเพศสมรสกันได้อย่างเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย และอีกหลายสิบประเทศที่ให้การรับรองสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวในรูปแบบอื่น เช่นสหรัฐอเมริกาบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศจดทะเบียนไปแล้วมากกว่า 293,000 คู่ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในธรุกิจการแต่งงานกว่า 3,766,800,000 เหรียญสหรัฐ และรัฐบาลกลางสร้างรายได้ในระบบภาษีได้กว่า 244,100,000 เหรียญสหรัฐในตลอดระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่ศาลสูงของสหรัฐได้มีคำวินิจฉัยให้การสมรสได้แต่เฉพาะคู่รักต่างเพศนั้นเป็นขัดต่อรัฐธรรมนูญ

“พรรคไทยสร้างไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ได้ทำหน้าที่ในฐานะ Duty Bearer หรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต่อประชาชนผู้ทรงสิทธิตามพันธกรณีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและรักษาไว้ซึ่งความเสมอภาคต่อหน้ากฎหมายด้วยการยุติการพิจารณา พ.ร.บ.คู่ชีวิต โดยต้องผลักดันให้สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเร่งด่วน” นาดากล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net