ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เบนจา อะปัญ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ถูกอัยการศาลแขวงนครราชสีมาฟ้อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพิ่มอีกคดี จากกรณีการร่วมคาร์ม็อบ 'โคราษฎร์ปฏิวัติ' เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2564
29 เม.ย. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา เบนจา อะปัญ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนครราชสีมา ตามนัดส่งฟ้องคดี จากเหตุคาร์ม็อบ “โคราษฎร์ปฏิวัติ” เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2564 ซึ่งก่อนหน้านี้ อัยการยื่นฟ้องนักกิจกรรม Korat Movement 5 ราย จากเหตุเดียวกันนี้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2565 ส่วนเบนจาถูกแยกฟ้องตามหลัง เนื่องจากในวันดังกล่าว เบนจาไม่ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ด้วย โดยอัยการแจ้งว่าจะทำเรื่องขอเบิกตัวต่อศาลเอง เพราะถือว่าเบนจาอยู่ในอำนาจการควบคุมตัวของศาลอาญากรุงเทพใต้ในคดีอื่นแล้ว แต่กลับเป็นว่า ศาลแขวงนครราชสีมาไม่ยอมรับฟ้อง
เบนจาเดินทางไปถึงสำนักงานอัยการตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น. ตามนัดหมาย แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอัยการเจ้าของสำนวนที่ย้ายมาใหม่ ติดคดีอื่นที่ศาล และยังหาคำฟ้องไม่พบ จึงนัดหมายให้เบนจาไปพบที่ศาลแขวงนครราชสีมาในเวลา 13.00 น. กระทั่งช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่จึงไปยื่นฟ้องต่อศาล จากนั้นเบนจาจึงถูกพาตัวไปยังห้องควบคุมตัวระหว่างรอคำสั่งประกันตัว
มอนิก้าจอย เล็กวิจิตรธาดา พนักงานอัยการบรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2564 จำเลยกับพวกอีก 5 คน ซึ่งถูกฟ้องไปแล้วได้ร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงออกทางการเมือง ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันประมาณ 335 คน และร่วมกันชุมนุม โดยผู้ชุมนุมไม่ได้เข้มงวดเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างเกิน 2 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่โควิด-19 โดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา
อัยการถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 5 คน และร่วมกันชุมนุมซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงขึ้น อันเป็นการร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ มาตรา 34
หลังศาลรับฟ้อง ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่มีหลักประกัน ให้เหตุผลว่า จำเลยประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นพิจารณา เนื่องจากเชื่อว่าไม่ได้ทำผิดตามที่โจทก์กล่าวอ้าง โดยจะนำพยานหลักฐานมาเสนอต่อศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไป นอกจากนี้จำเลยไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนีและให้ความร่วมมือต่อกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ชั้นสอบสวน
เวลา 15.30 น. ศาลแขวงนครราชสีมามีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวเบนจา โดยให้สาบานตนแทนการใช้หลักทรัพย์ หลังสาบานตนเบนจาได้รับการปล่อยตัวในช่วงเวลา 16.00 น. และศาลนัดคุ้มครองสิทธิและตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 2 มิ.ย. 2565
หลังเซ็นรับทราบนัดหมายที่ศาล เบนจาเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันทีเนื่องจากยังติด EM และมีเงื่อนไขห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 18.00 – 06.00 น. ตามเงื่อนไขประกันตัว หลังถูกคุมขังรวม 99 วัน ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 - มกราคม 2565 โดยเบนจาขออนุญาตศาลเดินทางมาในนัดส่งฟ้องนี้ ซึ่งศาลอนุญาต แต่ให้กลับไปรายงานตัวในวันที่ 26 เม.ย. 2565 เวลา 10.00 น.
อ่านข่าวต้นฉบับที่ : https://tlhr2014.com/archives/43027