Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความฯ ออกแถลงการณ์เร่งรัดกระบวนารตรวจสอบการเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” หลังเสียชีวิตมาครบ 100 วันแต่การไต่สวนชันสูตรยังไม่เริ่ม ผลตรวจสอบของราชทัณฑ์ก็ยังไม่ออก

เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.2567) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ต่อการเสียชีวิตครบ 100 วันของ “บุ้ง” เนติพร เสน่ห์สังคม จำเลยคดีมาตรา 112 กรณีการทำโพลขบวนเสด็จ หลังอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวและเรียกร้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และเสียชีวิตในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า เป็นเวลา 100 วัน ของการเสียชีวิตข้อเท็จจริงยังคลุมเครือว่าสาเหตุการตายเนื่องจากสาเหตุใด แพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ให้ความช่วยเหลือได้ถูกต้องตามมาตรฐานแล้วหรือไม่แต่เมื่อเป็นการเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148 และมาตรา 150 กำหนดให้มีการชันสูตรพลิกศพ และทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพภายในเวลา 30 วันและขยายได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน

“อย่างไรก็ตามเป็นระยะเวลา 100 วันแล้ว แต่ยังมิได้เริ่มกระบวนการในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้มีการไต่สวนการตาย ทั้งสำนวนยังถูกจัดทำโดยสถานีตำรวจภูธรคลองหลวงทั้งที่ความปรากฏว่า บุ้ง เนติพร เสียชีวิตตั้งแต่ก่อนถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแล้ว พื้นที่ความรับผิดชอบควรเป็นสถานที่เสียชีวิตคือทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์” แถลงการณ์ระบุ

นอกจากนั้นตลอด 100 วันที่ผ่านมา ญาติและทนายความยังไม่ได้รับแจ้งถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรมราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรมแม้ว่าหลังเนติพรเสียชีวิต 1 วัน กรมราชทัณฑ์จะแถลงข่าวว่าจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของเนติพร ทั้งที่กรมราชทัณฑ์นั้นเป็นผู้ที่มีข้อมูลอยู่ในมือ

ศูนย์ทนายฯ ระบุข้อเรียกร้องในแถลงการณ์ไว้ 3 ประเด็น

  1. พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเร่งรัดกระบวนการจัดทำสำนวนชันสูตร พลิกศพ และยื่นคำร้องไต่สวนการตายต่อศาลอาญา ซึ่งเป็นศาลที่มีเขตอำนาจเหนือสถานที่ตายของเนติพรที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
  2. กรมราชทัณฑ์ เร่งเปิดเผยรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของบุ้ง เนติพร ต่อญาติ ทนายความและสาธารณะ เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ และเพื่อป้องกันมิให้มีผู้ต้องขังคนใดต้องเสียชีวิตในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์อีก
  3. รัฐบาล แสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาคดีทางการเมือง โดยการสนับสนุนให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังคดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา เร่งรัดการนิรโทษกรรมโดยรวมทุกฝ่ายของความขัดแย้ง และรวมถึงคดีมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net