Skip to main content
sharethis

พลอย กลุ่มทะลุวัง และผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 โกนผมประท้วงหน้าเรือนจำคลองเปรม ต่อต้านความยุติธรรมที่เกิดขึ้นต่อผู้ที่ออกมาตั้งคำถามเพื่อสิทธิเสรีภาพ หลังบุ้ง-ใบปอ ถูกศาลตัดสินถอนประกันตัว และถูกพาตัวมาที่เรือนจำช่วงบ่าย 

 

3 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (3 พ.ค.) ว่า ที่หน้าทางเข้าเรือนจำคลองเปรม เวลา 16.45 น. ‘พลอย’ เบญจมาภรณ์ (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมเยาวชนกลุ่มทะลุวัง และผู้ต้องหาคดี ม.112 จำนวน 2 คดี โกนผมตัวเองประท้วงความอยุติธรรม หลังศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันตัว 'ใบปอ' ณัฐนิช (สงวนนามสกุล) และ 'บุ้ง' เนติพร (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง คดี ม.112 กรณีทำโพลขบวนเสด็จที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อ 8 ก.พ. 2565 เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ และถูกควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

พลอย แต่งกายในชุดเครื่องแบบนักเรียน และติดป้ายที่บริเวณหน้าอก ปรากฏข้อความว่า “เยาวชนคนนี้ประพฤติผิดกฎหมาย ตั้งคำถามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเสื่อมเสีย ดูหมิ่น และอาฆาตมาดร้ายแก่สถาบันหลักของชาติ เชิญประณามนักเรียนคนนี้” 

“พลอยจะขอโกนหัว เพื่อเพื่อนที่ยังเหลืออยู่ในเรือนจำ คนที่อยู่ในเรือนจำไม่ได้มีแค่พี่บุ้ง กับใบปอ ยังมีอีกหลายคน มีทั้งตะวัน เวหา่ พี่เอกชัย สมบัติ ทองย้อย ป้าอัญชัน มีเก็ท ที่เพิ่งถูกส่งเข้าเรือนจำไปเมื่อวาน และยังมีเยาวชนทะลุแก๊ซที่ยังอยู่ในสถานพินิจ และยังอยู่ในเรือนจำอยู่ มีนักโทษในเรือนจำหลายคนยังไม่ได้รับการปล่อยตัว เพียงแค่เราออกมาแสดงจุดยืน เรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเป็นมนุษย์ที่ถูกพรากไป” พลอย กล่าว

พลอย กล่าวหลังได้ฟังคำสั่งศาลถอนประกันตัว บุ้ง และใบปอ ว่ารู้สึกเสียใจ และผิดหวัง โดยไม่คิดว่าเพื่อนสนิทวันหนึ่งจะต้องถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ซึ่งเป็นที่มีใครควรเข้าไปอยู่ และไม่ทราบว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง 

ก่อนเริ่มการโกนผม เธออยากบอกว่า ปัจจุบันตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พลอยก็ได้เห็นเยาวชนหลายคนที่ออกมาเคลื่อนไหว และก็มีเยาวชนหลายคนที่โดนคดี และมีเยาวชนที่ถูกยิงเสียชีวิตไปแล้วในม็อบดินแดง วาฤทธิ์ สมน้อย อายุ 15 ปี และการทำกิจกรรมวันนี้ ทำให้เธอนึกถึงเยาวชนที่ออกมาสู้

พลอย ระบุว่า ออกมาแสดงจุดยืน และโกนหัวในครั้งนี้ อยากโกนหัวประท้วงต่อความอยุติธรรมในประเทศนี้ โกนหัวประท้วงให้เพื่อนในเรือนจำ ต่อพ่อ-แม่ และคนในครอบครัวที่ทิ้งเราไป 

“อยากแสดงออกมาเชิงสัญลักษณ์ ว่ามีนักเรียนที่ออกมาโกนหัวในชุดนักเรียน เป็นเพราะว่าเขาออกมาตั้งคำถาม ถือโพลแสดงความคิดเห็น การแสดงความคิดเห็นในประเทศนี้ไม่สามารถทำได้” พลอย กล่าว 

เวลา 16.45 น. พลอย นักกิจกรรมจากทะลุวัง เริ่มนั่งโกนผมประท้วงด้วยกรรไกร และแบตเตอเลียน 

พลอย ขณะกำลังโกนหัว

ทั้งนี้ นักกิจกรรมทะลุวัง กล่าวว่า ที่มาของการโกนผมครั้งนี้มาจากการทำกิจกรรมครั้งแรกของเธอสมัย ม.ต้น เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ชื่อว่า “เลิกบังคับ และจับตัด” โดยเธอจะแต่งชุด นร.นั่งใต้บันไดสถานีรถไฟฟ้า BTS ให้คนที่สัญจรผ่านไป-มาตัดผมของเธอด้วยป้ายที่เขียนว่า “นักเรียนคนนี้ทำผิดกฎของโรงเรียน เพราะไว้ผมยาวเกินติ่งหู และตัดผมหน้าม้า” สะท้อนปัญหาสังคม และการละเมิดสิทธิเด็กในโรงเรียน 

กระทั่งโกนผมเสร็จ พลอยได้ชู 3 นิ้ว พร้อมกล่าวว่า ผมเปียที่ถักมาในตอนแรกเป็นทรงผมที่ ‘บุ้ง’ ทำให้เธอ ก่อนไปศาลอาญากรุงเทพใต้ และถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง

เธอกล่าวต่อว่า เธอไม่เสียดายผมของเธอ เพราะมันเทียบไม่ได้กับชีวิตของคนที่ต้องจากไปเพราะพิษเศรษฐกิจ เทียบไม่ได้กับเด็กที่ต้องจากไปเพราะระบบการศึกษา ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ เด็กที่ถูกส่งเข้าสถานพินิจ หรือวาฤทธิ์ สมน้อย อายุ 15 ที่เสียชีวิต ชีวิตหลายคนไม่สามารถกลับคืนมาได้แล้ว 

พลอยขอให้ทุกคนจดจำผู้ที่ต้องถูกจำคุก และเสียชีวิตจากความอยุติธรรมอย่างอากง ไม่ให้พวกเขาหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์การเมือง และขอให้ผู้ใหญ่ออกมารับฟังเสียงของเยาวชน และยืนเคียงข้างเด็กที่ออกมาเรียกร้องเพื่อความยุติธรรม สิทธิเสรีภาพ และความเท่าเทียม เพราะนี่คือหน้าที่ของผู้ใหญ่

พลอยหลังจากโกนผมของเธอ

“เยาวชนพยายามที่จะพูดเต็มที่แล้ว แต่ว่าก็ยังมีผู้ใหญ่หลายคนที่ยังเลือกที่จะไม่ฟังเสียงของเยาวชนสักที จริงๆ แล้วมันคือหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ควรที่จะฟังเสียงของเยาวชนและก็ออกมายืนเคียงข้างเยาวชน ไม่ใช่แค่ทิ้งเยาวชน ไม่ใช่แค่ทิ้งเด็กให้ต้องหนีออกจากบ้าน ให้ต้องไม่มีที่อยู่ ไม่มีแม้กระทั่งความฝันและต้องออกมาดิ้นรนเอง สุดท้าย ปลายทางของคนที่ออกมาต่อสู้ คือออกมาตั้งคำถาม คือ คุก และก็ความตาย เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น และเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น” พลอย ระบุ

พลอย ระบุว่า เธอยอมรับท้อใจ และเหนื่อยมาก แต่เมื่อออกมาต่อสู้แล้ว จะต่อสู้ต่อไป ไม่ยอมแพ้  และอยากให้ทุกคนติดตามความเคลื่อนไหวของทะลุวัง และคนรุ่นใหม่ต่อไป

“ขอยอมรับว่า รู้สึกเหนื่อยและก็ท้อมาก แต่ก็ในเมื่อเราเลือกแล้วที่จะออกมายืนเคียงข้างประชาชนทุกคน ก็ยังเลือกที่จะยืนเคียงข้างทุกๆ คนต่อไป แต่ขอไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะไม่ทอดทิ้งคนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่าที่ออกมาสู้ต่อ ออกมาต่อสู้ก่อนหน้าเราแล้ว ต่อให้มันจะมีความเหนื่อยความท้อ ก็คงอยากที่จะต่อสู้ต่อไป เพราะว่าคือเราไม่สามารถที่จะกลับไปนอนหลับสบายโดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไรได้แล้วในวันที่คนกำลังจะตาย ในวันที่มีสงคราม ในวันที่เด็กมองไม่เห็นอนาคต ในวันที่ไม่รับรู้ข่าวสาร ไม่รับรู้อะไรได้อีกแล้ว อยากให้ทุกๆ คนติดตามความเคลื่อนไหวของเยาวชนคนนี้ ติดตามคนรุ่นใหม่ ต่อไปด้วย” นักกิจกรรมทะลุวัง ทิ้งท้าย  

หลังจากนั้น มีประชาชนขึ้นมาพูดให้กำลังใจนักกิจกรรม และกำหนดการต่อจากนั้น เป็นกิจกรรมยืนหยุดขัง จัดโดย ‘กลุ่มทะลุคุก’ ‘ก็มาดิแก๊ซ’ และ ‘14 ขุนพลคณะราษฎร’
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net