อดีตพนักงาน บ.รปภ. เดินทางมาที่ บก.ปอท. รับทราบข้อหา ม.112 พ.ร.บ.คอม ม.14(1) และ ม.14(3) หลังผู้ประสานงานกลุ่ม ศปปส. แจ้งความ โดยกล่าวหาว่าทำเพจเฟซบุ๊ก-โพสต์การ์ตูนเสียดสีสถาบันฯ และรัฐบาล จำนวน 4 โพสต์ 

18 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (18 ก.ค.) ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ‘ตั้ม’ (สงวนชื่อ-นามสกุล) อดีตพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัย และ ชิษณุพงศ์ ตั้งเมธากุล ทนายความอาสา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิง สุธัญดา เอกเอม สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. และ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อรายงานตัวรับทราบข้อหา จำนวน 3 ข้อหา ได้แก่ ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(1) และ ม.14(3) โดยถูกกล่าวหาว่าทำเพจการ์ตูนเสียดสีการ์ตูนการเมืองไทย และวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ จำนวน 4 โพสต์ คดีนี้มีนายระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ ผู้ประสานงานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ 

(ซ้าย) ชิษณุพงศ์ ตั้งเมธากุล ทนายความอาสา และ (ขวา) ตั้ม อดีตพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัย

สำหรับคดีนี้ เมื่อ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ประสานงานกลุ่ม ศปปส. เดินทางนำหลักฐานมาแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินคดีกับเจ้าของเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิกผู้ติดตามกว่า 6 หมื่นคน ที่ บก.ปอท. หลังพบการกระทำผิดที่อาจเข้าข่าย ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ ม.14(3) ก่อนที่ ปอท. จะรับเป็นคดี ม.112 ในเวลาต่อมา 

ผู้ประสานงาน ศปปส. ระบุด้วยว่า เพจดังกล่าวใช้การ์ตูนล้อเลียน หรือกระทำการหมิ่นสถาบันกษัตริย์ และรัฐบาล และระบุว่า เพจนี้เคลื่อนไหวมานาน และเคลื่อนไหวทุกวัน จึงต้องนำหลักฐานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการตรวจสอบ และสาวไปยังตัวแอดมินเพจ 

เบื้องต้น ทางทนายความ และ ‘ตั้ม’ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะส่งคำให้การเป็นหนังสือ ภายใน 18 ส.ค. 2565 

ทนายความแจ้งด้วยว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ ตำรวจจะนัด ‘ตั้ม’ มารายงานตัวที่ บก.ปอท.ทุก 15 วัน โดยตำรวจอ้างว่าเป็นคดีร้ายแรง และมีอัตราโทษสูง ทั้งนี้ ตั้มจะต้องมารายงานตัวครั้งหน้าวันที่ 2 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

‘ตั้ม’ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังรายงานตัวว่า ส่วนตัวเขามองว่ากฎหมายมาตรา 112 เป็นกฎหมายที่มีปัญหา โดยที่ใครจะแจ้งความใครก็ได้ และอาจจะใช้กฎหมายนี้กลั่นแกล้งโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว 

หลังถูกดำเนินคดี ตั้ม เผยว่า เขารู้สึกเป็นกังวล และเป็นทุกข์มากขึ้นจากเดิมสภาวะสังคมและสภาวะเศรษฐกิจมันก็แย่อยู่แล้ว พอถูกดำเนินคดีมันก็เหมือนมีอะไรมาซ้ำเติมการดำเนินชีวิตให้ความยากลำบากหนักขึ้นไปอีก 

“อย่างผมโดน 112 ทุกๆ ท่านที่ได้เห็นอยู่ตอนนี้ถ้าเราไม่แก้ไข เราอาจจะโดนโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะมันเป็นกฎหมายที่ใครแจ้งความได้ อาจจะมากลั่นแกล้งเราได้ โดยที่เราไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเราจะโดนกฎหมายนี้เมื่อไร บางทีเราเห็นไฟไหม้บ้านคนอื่น เราก็ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งวันใด มันจะมาไหม้บ้านเราด้วย อยากจะให้ทุกๆ ท่าน ตั้งข้อสังเกตของกฎหมายนี้ไว้” ตั้ม ระบุ

ก่อนหน้านี้ ตั้ม เคยถูกตำรวจ ปอท. เข้ามาหาที่บ้าน พร้อมกับแสดงหมายค้น และยึดสิ่งของ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม ตั้ม ระบุว่า หลังจากนั้นเขาไม่ค่อยกลัวการถูกคุกคามเท่าไร และเชื่อว่าตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ทั้งนี้ ตั้ม เน้นย้ำด้วยว่า เขายินดีให้ความร่วมมือในระดับที่พอจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ได้ และฝากข้อความถึงเจ้าหน้าที่ด้วยว่า ไม่จำเป็นต้องไปคุกคาม หรือสังเกตหน้าบ้านก็ได้ ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อเขาได้ตลอดเวลา