เลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.หลังที่ประชุม กมธ.ยังเห็นไม่ตรงกันเรื่องแก้มาตรา 23 เป็นหาร 500 นั้นขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ประชุมสภามีมติให้ถอนวาระตามที่ กมธ.เสนอเพื่อนำกลับไปพิจารณาใหม่ก่อนนำกลับเข้าสภาพิจารณาใหม่สัปดาห์หน้า

26 ก.ค.2565 ที่ประชุมรัฐสภา มีนัดพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.วาระที่ 3 แต่ในการประชุมช่วงเช้าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณร่างกฎหมายได้ขอพักการประชุมเพื่อไปพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อหาแนวทางการแก้ไขมาตราอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 23 (หาร 500) ของร่างดังกล่าวตามความเห็นของระวี มาศฉมาดลกรรมาธิการเสียงข้างน้อยเสนอไปและที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีมติรับไปเมื่อ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากพักการประชุมสภาทางคณะกรรมาธิการมีความเห็นแตกต่างกันเรื่องการแก้ไขมาตราอื่นๆ ให้สอดคล้องกับมาตรา 23 เนื่องจากฝ่ายหนึ่งเห็นว่าการแก้ไขมาตรา 23 นั้นขัดกับรัฐธรรมนูญจึงไม่สามารถแก้ไขมาตราอื่นต่อไปได้ ทั้งนี้ กมธ.ก็มีมติ 16 เสียง (จาก กมธ.ทั้งหมด 50 คน) เห็นว่าให้สภาดำเนินการพิจารณาร่างต่อโดยให้ กมธ.เสียงข้างน้อยคือระวีที่เสนอแก้มาตรา 23 เป็นหาร 500 ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภา จนเกิดการโต้แย้งในที่ประชุมรัฐสภาถึงกระบวนการดังกล่าวมาผิดข้อบังคับการประชุม

ทั้งนี้ สาธิต ปิตุเตชะ ประธานกรรมาธิการได้เสนอให้มีการถอนวาระการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ฉบับนี้ออกไปก่อนเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.ก่อนเสนอเข้ามาให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาใหม่อีกครั้งโดยจะให้เริ่มพิจารณาต่อไปจากที่รัฐสภาเคยมีการพิจารณาไปแล้ว

ชวน หลีกภัย ในฐานะประธานรัฐสภาได้เปิดให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติว่าจะให้ถอนวาระพิจารณาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่

หลังการลงคะแนน ที่ประชุมรัฐสภามีมติให้ถอนร่างพ.ร.ป.นี้กลับไปพิจารณาใหม่ด้วยเสียง 476 คน ไม่เห็นด้วย 25 คน งดออกเสียง 20 คน ไม่ลงคะแนนเสียง 9 คน

สาธิต ระบุว่าในวันนี้ขอให้หารือเรื่องร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองต่อไปเลย แล้วค่ำวันนี้จะขอให้ กมธ.เข้าร่วมประชุมแล้วถ้าเสร็จทันก็จะนำเสนอเข้ามาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม สมาชิก สุขุมพงษ์ ง่วนคำ เห็นว่าควรพิจารณาโดยรอบคอบให้ได้กลับไปทบทวนอีกครั้งแล้วค่อยหารือในที่ประชุมวันจันทร์หน้าก่อนที่จะเอากลับเข้ามาพิจารณาในสภาอีกครั้ง

ประธานสภาเห็นด้วยกับสุขุมพงษ์ที่จะให้เอาพิจารณาให้รอบคอบก่อนเอากลับเข้าสภาอีกครั้ง ทำให้การประชุมสภาในวันนี้ดำเนินการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองต่อไปก่อน