ชุมนุม “หยุดอำนาจ 3 ป. นับหนึ่งประเทศไทย” โดยคณะหลอมรวมประชาชน-กลุ่มประเทศไทยต้องมาก่อน ลั่นต้องยกระดับเขี่ย 3 ป.พ้นกระดานการเมืองไทย

28 ส.ค. 2565 มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. คณะหลอมรวมประชาชน และกลุ่มประเทศไทยต้องมาก่อน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา จัดกิจกรรมการชุมนุม “หยุดอำนาจ 3 ป. นับหนึ่งประเทศไทย”

โดยเมื่อเวลา 17.00 น. นายจตุพร กล่าวถึงความเป็นมาของคณะ 3 ป.และกฎหมายลูก ของพ.ร.ป.การเลือกตั้งที่ล่าช้า ที่ทำให้การเลือกตั้งอาจไม่เกิดขึ้น และเกิดการสืบทอดอำนาจต่อไป

“คณะ 3 ป.นี้ได้มีวิวัฒนาการจนปกครองได้อย่างเบ็ดเสร็จในช่วง 8 ปีที่ผ่านมานี้ ตนขอย้ำอีกครั้งว่าข้อเรียกร้องของคณะหลอมรวมประชาชนงันั้น เราไม่ได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณยุบสภา หรือ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แต่หัวข้แหลักของคณะหลอมรวมประชาชน คือการหยุดอำนาจของ 3 ป. เฉกเช่นเดียวกับทรราชในเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 มีความประสงค์ชัดเจนว่าจะไม่ให้มีการเลือกตั้งโดยใช้วิธี Delay tactic โดยเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญ

กฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่ากฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งมีฐานะเป็นพระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญและเกมของคณะ 3 ป.ฉลาดกว่าพวกคุณเยอะ พวกนี้ออกแบบเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง เมื่อไม่มีกฎหมายลูกก็จัดการเลือกตั้งไม่ได้” นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวต่อว่า คณะหลอมรวมประชาชนเห็นว่าคณะ 3 ป.นี้ ไม่คิดจะสละอำนาจ ประสงค์ที่จะสืบทอดอำนาจต่อไป พล .อ.ประยุทธ์ พักพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณก็อยู่ แน่นอนที่สุดคนก็บอกว่า 2 ป. 3ป.นี้ทะเลาะกัน แต่เราเคยเห็นว่าทั้ง 3 ป.เคยทะเลาะกันให้เห็นหรือไม่

“ความจริงแล้วอำนาจหลุดประยุทธ์ก็มาใส่มือประวิตร เกิดหลุดมือประวิตรก็ไปใส่ในมือนายอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และการเลือกตั้งก็เห็นแล้วว่าออกแบบเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง

เรื่องใหญ่ของคณะหลอมรวมประชาชน จะไม่วิพากวิจารณ์ว่าพลเอกประวิตรจะแข็งแรงหรือไม่ แต่เราต้องการให้ 3 ป. ออกจากกระดานการเมืองไทย 8 ปีนี้ควรเพียงพอแล้ว วันนี้ไม่ได้ชวนพรรคการเมืองให้มาเคียงข้างประชาชนบนท้องถนน ดังนั้นมุมมองที่สำคัญที่สุดคือการออกแบบมาไม่ให้มีการเลือกตั้ง จึงเชิญประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และให้นักการเมืองตาสว่างบ้างอย่าโง่ซ้ำซากให้มาร่วมเคียงข้างประชาชน วันนี้ไม่จำเป็นต้องชวนอะไรแต่อย่ามาอวดรู้ในเรื่องการเอา 100 หาร ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ประโยชน์ เพราะความจริงคือไม่มีการเลือกตั้ง ฉะนั้นจึงยกระดับด้วยการเอา 3 ป. ออกจากกระดานการเมืองไทย ด้วยการหยุดอำนาจ 3 ป. เริ่มนับหนึ่งประเทศไทยกันใหม่” นายจตุพรกล่าว

ด้านนายนิติธร กล่าวว่า การหยุดอำนาจ 3 ป. นั้นจะมีผลเท่ากับไปหยุดระบอบการปกครองในลักษณะอำนาจนิยม จะหยุดการบริหารประเทศที่มีอำนาจ ส.ว. มาจากการรัฐประหาร ที่ไม่ได้รับใช้ประชาชน การหยุดอำนาจ 3 ป. จะมีผลหยุดอำนาจองค์กรอิสระ องค์กรตรวจมอบต่าง ๆ ที่ไม่ทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติและประชาชน ทำเพียงหน้าที่แก้ปัญหาสำหรับข้อร้องเรียนของรัฐบาลเท่านั้น นอกจากนี้การหยุดอำนาจ 3 ป. ยังมีนัยสำคัญที่จะทำให้ทรัพยากรต่าง ๆ ของประเทศ โดยเฉพาะปิโตรเลียมกลับมาเป็นของประชาชน แก้กฎหมายเรื่องปิโตเลียมให้เป็นของรัฐและประชาชนร่วมกัน นี่เป็นข้อเบื้องต้นที่จะต้องหยุดอำนาจ 3 ป. และเริ่มต้นประเทศไทยกันอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนนักการเมืองบอกชัดว่าวันนี้ไม่มีเลือกตั้ง ดันทุรังกันไปก็เจอรัฐประหาร วันนี้เลือกเอาว่าจะหยุด 3 ป. แล้วบริหารจัดการบ้านเมืองกันใหม่หรือจะดันทุรังกันไปเอาอำนาจให้ทหารรัฐประหารอีกครั้ง ส่วนทางเลือกของคณะหลอมรวมประชาชนและประชาชนทุกคนที่มา ณ ที่นี่ คือทำประเทศด้วยตัวเองแล้วหยุดทุกอำนาจที่เป็นภัยกับประเทศและประชาชน

“ให้เตรียมตัวกันไว้ให้ดีขณะนี้ปริมาณมวลชนเป็นแค่เงื่อนไขหนึ่งเท่านั้น แต่ความคิดที่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นและอำนาจ 3 ป.พ้นไปจากแผ่นดินนี้ มีเต็มประเทศไทย แน่จริงกลับมา แน่จริงคุณประยุทธ์กลับมาให้ได้ และแน่จริงให้พลเอกประวิตรขึ้นมาเป็นนายกตัวจริงให้ได้ แน่จริงคุณอนุพงษ์ขึ้นมาให้ได้ และแน่จริง ป.ที่อยู่หลังพลเอกประวิตรเข้ามาให้ได้ แล้วจะรู้ว่ามวลชนเพียงพอไหม” นายนิติธรกล่าว

ต่อมาเวลา 18.00 น.ผู้ชุมนุมร่วมตะโกนว่า “3 ป.ออกไป” และยืนตรงเคารพธงชาติ และกล่าวคำว่า “ไชโย”