กลุ่ม 'ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน' แจ้งความที่ สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ต่อ ‘ฟักทอง’ หรือ Moritz pfoh ชาวเยอรมัน อายุ 35 ปี ผู้ชูภาพไม่เอา 'ประวิตร' ที่ระยอง ข้อหา ม.116 และแทรกแซงการเมืองไทย เหตุสัมภาษณ์วิจารณ์การบริหารของรัฐบาล

สืบเนื่องจากเมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า มีชายชาวเยอรมัน ภายหลังทราบชื่อว่า ‘Moritz pfoh’ หรือฟักทอง อายุ 35 ปี ชูภาพของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการนายกรัฐมนตรี ติดสติ๊กเกอร์กากบาทสีแดงเป็นเชิงสื่อถึงความหมายว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประวิตร กลางสี่แยกตะพง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุด้วยว่า เขาชูป้ายลักษณะนี้ติดต่อกัน 3 วันแล้ว

‘Moritz pfoh’ หรือฟักทอง ชายชาวเยอรมัน อายุ 35 ปี (ที่มา: ข่าวสดออนไลน์)

3 ก.ย. 2565 ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของ ‘ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน’ ซึ่งเป็นกลุ่มปกป้องสถาบันกษัตริย์ โพสต์ข้อความวันนี้ (3 ก.ย.) โดยตั้งสถานะเป็น ‘สาธารณะ’ เวลา 17.58 น. ความว่า ทรงชัย เนียมหอม หัวหน้าและผู้ก่อตั้งกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน อายุ 45 ปี เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ Moritz pfoh หรือ ‘ฟักทอง’ อายุ 35 ปี สัญชาติเยอรมัน ข้อหา มาตรา 116 หรือยุยงปลุกปั่น และความผิดฐานแทรกแซงภายในประเทศไทย ที่ สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ 

การแจ้งความเกิดขึ้นเมื่อ 3 ก.ย. 2565 เมื่อเวลา 16.00 น. ทรงชัย ประสานงานถึง พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ สุวพิชญ์ภูมิ ผกก.สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และ พ.ต.ท.ธงชัย เส้งรอด รอง ผกก.สอบสวน สภ.เหนือคลอง เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ ‘ฟักทอง’ ตามข้อหาที่ได้รายงานข้างต้น จากกรณีที่ชาวเยอรมันรายดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อเชิงวิจารณ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ทางประชาภักดิ์ฯ โพสต์เอกสารบันทึกประจำวัน ถึงข้อกล่าวหาที่ดำเนินคดีกับฟักทอง ไว้ดังนี้

1. ทางกลุ่มฯ แจ้งข้อหาตามมาตรา 116(2) แก่ชาวต่างชาติรายดังกล่าวเนื่องจากเขาได้ให้ความเห็นต่อสำนักข่าวมติชนออนไลน์ว่า "เพราะสงสารคนไทยที่ส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ไม่ชอบ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยที่ไม่รักคนไทย" ซึ่งทางกลุ่มประชาภักดิ์ฯ อ้างว่า ถ้อยคำดังกล่าวเป็นการกล่าวหาประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้นำประเทศ ไม่ใช่การวิจารณ์ส่วนบุคคล และถ้อยความดังกล่าวเป็นการกล่าวหาลอยๆ โดยไม่มีหลักฐานอ้างอิง 

"เป็นการปลุกปั่นด้วยชุดข้อมูล ซึ่งไม่มีหลักฐานประกอบคำกล่าวอ้างอิง อันเจตนามุ่งหมายให้ประชาชนต่อต้านรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการรวมตัวกัน ก่อความไม่สงบในราชอาณาจักรไทยได้" เอกสารบันทึกประจำวันระบุ

2. กลุ่มประชาภักดิ์ฯ มีการแจ้งดำเนินฐานแทรกแซงกิจการในประเทศไทย เนื่องด้วยชาวเยอรมันรายดังกล่าวไม่ใช่คนไทยโดยกำเนิด เป็นคนต่างชาติที่เข้ามาพำนักในประเทศไทย และถือสัญชาติเยอรมัน จึงไม่มีสิทธิวิจารณ์รัฐบาลไทย ไม่มีสิทธิออกเสียงคัดค้านการบริหารงานของรัฐไทย ซึ่งทำให้บุคคลดังกล่าวไม่เข้าเงื่อนไขใดๆ ในการแสดงออกทางการเมืองภายในราชอาณาจักรไทย ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 และ "พ.ร.บ.การเลือกตั้ง พ.ศ. 2561"

หลังได้รับการประสานจึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.ไพโรจน์ ชนะชัย สารวัตร(สอบสวน)สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ รับแจ้งความร้องทุกข์ สอบปากคำ และรับใว้เป็นคดีอาญา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

โพสต์ระบุต่อว่า หลังจากที่ทรงชัย ดำเนินแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายฟักทอง เรียบร้อยแล้ว ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมต่อกรณีดังกล่าวว่า ตั้งแต่ประเทศไทยมีเหตุบ้านการเมืองซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2563 ตนสังเกตุเห็นกลุ่มองค์กรข้ามชาติ เช่น Amnesty ที่ตนได้เข้าร่วมกับภาคีกลุ่มปกป้องสถาบันหลายกลุ่มเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทย และประธานวุฒิสภา ให้ดำเนินการพิจารณาเกี่ยวลักษณะเข้าข่ายการแทรกแซงกิจการภายในราชอาณาจักรไทย และมีชาวต่างชาติหลายรายทำลักษณะเดียวกัน เช่น ยัน มาร์ฉัล ที่ถูกทางการส่งกลับฝรั่งเศส ซึ่งมีพฤติกรรมล้อเลียนสถาบันฯ จวบจนมาเจอกรณีของนายฟักทอง หรือ Moritz pfoh ชาวเยอรมันคนดังกล่าว ตนมีความรู้สึกว่า ลักษณะการกระทำการดังกล่าวจากกลุ่มบุคคลต่างด้าวเหล่านี้ น่าจะไม่ใช่แค่ชาวต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยประเทศไทยเป็นที่อยู่อาศัยธรรมดา ตนคิดว่าน่าจะมีขบวนการอื่นใดอยู่เบื้องหลัง แต่ทั้งนี้ เขายังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด จึงต้องเดินทางมาที่ สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ และมอบอำนาจให้เจ้าพนักงานตำรวจ ดำเนินการติดตามตัวบุคคลดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวมติชน ออนไลน์ ได้รับการติดต่อจากฟักทอง หลังเขาชูภาพไม่สนับสนุนประวิตร ได้เกิดปัญหาจนต้องเดินทางเข้ามาใน จ.กรุงเทพฯ เนื่องจากมีตำรวจมาหาที่บ้าน พร้อมเข้าตรวจสอบเอกสาร 

นอกจากนี้ ชาวเยอรมันคนเดิม ระบุด้วยว่า ตำรวจแจ้งกับเขาว่า วีซ่าของเขาอาจจะไม่ถูกขยายเวลา ถ้าเขาหมิ่นประมาทการเมืองกับผู้คนอีกครั้ง แต่เขายังสามารถทำงานศิลปะและเคลื่อนไหวได้อีกทางหนึ่ง และนั่นคือสิ่งที่เขาจะทำ 

ทรงชัย เนียมหอม ผู้ก่อตั้งกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ที่มา: เฟซบุ๊กเพจ ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน)

ที่มา: เฟซบุ๊กเพจ ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน