16 ก.ย.2565 สถานการณ์ประเด็นเกี่ยวกับบุคลากรในกองทัพทั้งเรื่องบัญชีทหารผี เรื่องคุกคามทางเพศ ในหน่วยทหารและเรื่องทหารก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิตในกรมยุทธศึกษาทหารบกนั้น

'วัชระ' จี้กมธ.จริยธรรมเรียกเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ ส.ว.-ส.ต.ท.หญิง มาตรวจสอบ 

วัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ได้ยื่นหนังสือถึงพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร ประธานคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา เพื่อให้คำแนะนำการตรวจสอบข้อร้องเรียนสมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวพันกับ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม ที่ไม่มีความคืบหน้าหลัง 4 หน่วยงานคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพไทย กอ.รมน.และกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ไม่ส่งข้อมูลมาสอบสวน จึงเห็นว่าคณะกรรมการควรเรียกเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้เรียกเอกสารจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตั้งแต่ปี 2554 สมัยที่ ประสพสุข บุญเดช เป็นประธานวุฒิสภามาจนถึงปี 2565 ว่า กรศศิร์หรือส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ประจำตัวสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสมาชิกวุฒิสภาคนใด ดำรงตำแหน่งประจำคณะกรรมาธิการและคณะทำงานทางการเมืองหรือไม่ รวมทั้งให้ตรวจสอบการเดินทางไปศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ

“ขอให้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักการคลังและงบประมาณ สำนักเลขาธิการวุฒิสภาตรวจสอบตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2565  ว่าเบิกจ่ายเงินงบประมาณ รับเงินเดือนหรือค้าตอบแทนหรือเบี้ยประชุม หรือไม่ เรียกเอกสารจากสถาบันพระปกเกล้าว่าผู้ใดเป็นผู้เซ็นรับรองสำเนาใบสมัครหลักสูตรวุฒิบัตรการปฎิบัติงานสนับสนุนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รุ่นที่ 6 ให้กับส.ต.ท.หญิงและอบรมหลักสูตรอื่นใดอีกหรือไม่ เรียกเอกสารจากกรมบัญชีกลาง เป็นเอกสารการวางฎีกาเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานของรัฐผ่านระบบงานกรมบัญชีกลาง เพื่อจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าเบี้ยเลี้ยงให้ส.ต.ท.หญิง” วัชระ กล่าว

วัชระ กล่าวว่า ขอให้เรียกเอกสารกรมสรรพากร และวัดบางลี่เจริญธรรม  จังหวัดราชบุรีว่านำใบอนุโมทนาบัตรจากวัดบางลี่เจริญธรรม จำนวน 1 แสน 2 หมื่นบาท ไปใช้เพื่อขอหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ ขอสำเนาใบอนุโมทนาบัตร จากวัดบางลี่เจริญธรรม เงินบริจาค 1 แสน 2 หมื่นบาท ออกในนามผู้ใด และขอเอกสารเลขที่นั่งบัตรโดยสารเครื่องบินของ ส.ต.ท.หญิงจากบริษัทการบินไทย เที่ยวบินศึกษาดูงานต่างประเทศของคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 7 -16 เม.ย. 2561 รัสเซีย – ฟินแลนด์ว่าส.ต.ท.หญิงนั่งติดกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนไหน

วัชระ กล่าวว่า ขอให้สอบถามสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกร้องเรียนถึงประเด็นการจัดพิธียกน้ำชากับส.ต.ท.หญิงว่าจริงหรือไม่ มีวัตถุประสงค์การจัดพิธีเพื่ออะไร และเงินบริจาคร่วมกันเป็นเงินของใคร ยอมรับว่าไม่สามารถทำอะไรได้ที่สมาชิกวุฒิสภาที่ถูกร้องไม่มาให้การ ถ้าลาออก การตรวจสอบก็จบ รวมทั้งเห็นว่าถ้าคณะกรรมการจริยธรรมจะตรวจสอบเฉพาะช่วงส.ว.ชุดนี้ ไม่ตรวจสอบในช่วงสนช. จะถือว่าเป็นการตัดตอนช่วยเหลือกัน เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และจะถูกมองว่าไม่โปร่งใส ซึ่งอยากให้ตรวจสอบตั้งแต่ส.ว.ปี 2554

(ที่มา : สำนักข่าวไทย)

ร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบ.ทบ. ปมถูกคุกคามทางเพศ ซ้ำถูกตั้งกก.สอบปล่อยภาพ

ส่วนประเด็นข่าวการคุกคามทางเพศ ในหน่วยทหารนั้น ช่วงสายวันนี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ผู้เสียหายจากกรณีถูกทหารยศสิบเอก คุกคามทางเพศ เหตุเกิดในหน่วยทหารแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี และที่บ้านพักส่วนตัว พร้อมด้วย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ผ่านนายทหารปฏิบัติการประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ประกอบด้วย พ.อ.หญิงรพีพัทธ์ ตรีจิตรฐิติกุล และ พ.ท.หญิงปราถนา ชื่นครอบ เป็นผู้รับเรื่อง

พ.อ.หญิงรพีพัทธ์ กล่าวยืนยันว่า ผบ.ทบ.ได้สั่งการมาโดยตรงให้ดูแลเรื่องดังกล่าวและให้ความเป็นธรรม ซึ่งในขั้นตอนนี้ ถือเป็นการรับเรื่องร้องเรียนและจะส่งไปยังหน่วยต้นสังกัดชี้แจงให้ชัดเจนทุกข้อที่ร้องเรียนมา ส่วนเรื่องคดีความเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ทั้งนี้ ตนขอให้กำลังใจกับผู้เสียหาย ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน ที่ต้องอดทนและแข็งแกร่งต่อสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน

กัณฐัศว์ ระบุว่า ได้นำประเด็นที่ผู้เสียหายรู้สึกกังวลใจมาร้องเรียนต่อกองทัพบก โดยเฉพาะกรณีที่อาจจะมีผู้ใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ และทำให้ผู้เสียหายเกิดความกังวลใจ ส่วนที่ทหารยศสิบเอกที่ก่อเหตุได้รับการปล่อยตัวนั้น ไม่รู้สึกกังวลใจ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังได้ประสานไปทางกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานแล้ว และขอเตือนว่า หากมีใครเข้ามาก้าวก่ายหรือคุกคามผู้เสียหาย ขอให้ระวังตัวไว้

กัณฐัศว์ กล่าวว่า ยอมรับว่า ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนไม่กล้าออกมาแจ้งความ เรียกร้องความเป็นธรรม เพราะกลัวผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากมีผู้ใหญ่ในหน่วยทำให้ผู้เสียหายรู้สึกกังวลใจ และเจ้าหน้าที่ทหารในหน่วยไม่กล้าเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย เพราะกลัวจะได้รับผลกระทบไปด้วย

ผู้เสียหาย กล่าวว่า หนังสือร้องเรียนของผู้เสียหาย ได้ขอให้ผู้บัญชาการทหารบกตรวจสอบข้อเท็จพฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศของนายทหารยศสิบเอก สังกัดมณฑลทหารบกที่ 17 จ.กาญจนบุรี ต่อพนักงานราชการหญิง ด้วยการบุกไปที่บ้านพักใช้กำลังปลุกปล้ำ พยายามข่มขืนกระทำชำเรา แต่ต่อสู้ ขัดขืนและหนีรอดมาได้ ซึ่งตอนที่ถูกกระทำก็มีทหารอยู่ในห้อง พยายามห้ามปราม แต่ทุกคนก็กลัวผู้ก่อเหตุ

“จากนั้นได้ร้องเรียนให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ และทางผู้บังคับบัญชารับปากจะเรียกตัวทหารสิบเอกคนดังกล่าวมาขอขมา เอาผิดทางวินัย แต่ปรากฎว่าไม่เอาผิดกับผู้ก่อเหตุ จึงไปแจ้งความสถานีตำรวจภูธรลาดหญ้า ในขณะที่ต้นสังกัด โดยผู้บังคับบัญชา ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีภาพหลุดของทหารสิบเอกที่กระทำความผิดถูกนำไปเผยแพร่ทางออนไลน์ทำให้หน่วยเสื่อมเสีย แต่ไม่ได้ตรวจสอบกรณีที่ผู้เสียหายถูกล่วงละเมิดทางเพศ  จึงเข้ามาร้องเรียนกับกองทัพบก” ผู้เสียหาย กล่าว

(ที่มา : ข่าวสดออนไลน์ และสำนักข่าวไทย) 

มีคำสั่งให้ปลด ส.อ. ล่วงละเมิดทางเพศในหน่วยงาน ผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Army Spoke Team' โพสต์เมื่อเวลา 13.11 น. วันที่ 16 ก.ย.65 ว่า ตามที่ พนักงานราชการหญิงสังกัด มณฑลทหารบกที่ 17 ได้เข้าร้องเรียนว่าถูก นายทหารชั้นประทวนคือ ส.อ.กิตติศักดิ์ ดวงประสาท ได้ล่วงละเมิดทางเพศในหน่วยงานเดียวกัน เมื่อ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยต้นสังกัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในประเด็นที่กำลังพลได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ล่าสุดผลการสอบสวนของหน่วยต้นสังกัดสรุปว่ามีเหตุอันเชื่อได้ว่ามีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา หน่วยต้นสังกัดจึงได้มีคำสั่งให้ปลดนายทหารชั้นประทวนดังกล่าวออกจากราชการเนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตั้งแต่ 16 ก.ย. 65 เป็นต้นไป

ปัจจุบันพนักงานราชการหญิงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นคดีความส่วนบุคคล ที่ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยทางหน่วยต้นสังกัดพร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวน

ทั้งนี้ วันนี้ เวลา 10.30 น. พนักงานราชการหญิง พร้อมด้วยญาติได้เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมที่กองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งกองทัพบกได้รับเรื่องร้องเรียนและได้นำเข้าสู่กระบวนการของทางราชการแล้ว และเมื่อมีการดำเนินการใดๆจะแจ้งให้ผู้ร้องเรียนได้รับทราบต่อไป

คุมตัว 'จ่าสิบเอก' ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต ฝากขังศาลทหาร

กรณีทหารก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิตในกรมยุทธศึกษาทหารบกนั้น วันนี้ เมื่อเวลา 09.20 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ พ.ต.ท.รามน้อย สายอ๋อง พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต  พร้อมเจ้าหน้าตำรวจจำนวน 4 นาย คุมตัว  จ.ส.อ.ยงยุทธ มังกรกิม อายุ 58 ปี ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 นาย  ในกรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ เมื่อวันที่14 ก.ย.ที่ผ่านมา เข้าฝากขังที่ศาลทหาร ในความผิดฐาน​ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ​ และ ยิงปืนในที่สาธารณะ

ทั้งนี้มีรายงานว่า ท้ายคำร้องฝากขังศาลทหาร  พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง โดยทางศาลทหารได้อนุมัติให้ฝากขังผลัดที่หนึ่งเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2565 ถึง 27 ก.ย.2565 ที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 จังหวัดนครปฐม

(ที่มา : สำนักข่าวไทย)