Skip to main content
sharethis

‘จุฑาพร’ เพื่อไทย ชี้ รบ.ดีใจ คนสมัครบัตรสวัสดิการรัฐเพิ่ม สะท้อนความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ ติงแจกเงินหวังผลทางการเมือง เสนอให้สร้างงาน สร้างทักษะ สร้างรายได้ให้ ปชช. ด้านโฆษกรัฐบาล โต้อย่าบิดเบือนจุดมุ่งหมายบัตร คนสมัครเยอะเพราะช่องทางเข้าถึงหลากหลาย ขออย่าขัดขวางนโยบายดีๆ

 

20 ก.ย. 2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กวันนี้ (20 ก.ย.) ทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นำโดย พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส.อุบลราชธานี อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง และ จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางรัก ร่วมกันแถลงข่าวประเด็นเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ในหัวข้อ ‘เร่งทำ เร่งแก้ ประชาชนกำลังจะแย่’

รบ.ดีใจ บัตรคนจนเพิ่ม ทั้งที่คือความล้มเหลว

จุฑาพร เกตุราทร กล่าวว่า การแจกบัตรคนจนเพิ่ม เป็นการประจานผลงานการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาลว่าไร้ศักยภาพ ทำเศรษฐกิจล้มเหลว คนไม่มีงานทำ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ทำให้จำนวนคนจนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กลับแสดงวิสัยทัศน์ว่า บัตรคนจนช่วยให้คนไทยหายจน แต่แท้จริงแล้ว เป็นการแจกเงินเพื่อหวังผลทางการเมือง ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือ การสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชน เพื่อให้หลุดพ้นจากความยากจน พรรคเพื่อไทยพร้อม และขออาสาเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ทำให้ประเทศไทยกลับมาน่าอยู่อีกครั้ง ถ้าเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ คนไทยจะหายจน และเปลี่ยนมาถือบัตรคนรวยแทน

จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บางรัก พรรคเพื่อไทย

ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น จากหน่วยละ 4.00 บาท เป็น 4.72 บาท

พิชัย นริพทะพันธุ์ มองไปถึงปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วนคือกรณีค่าไฟฟ้า ที่เพิ่มขึ้นจากหน่วยละ 4.00 บาท เป็น 4.72 บาท สาเหตุมาจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาลที่ต้นทุนเชื้อเพลิงพุ่งสูง เพราะต้องนำเข้าก๊าซ LNG ที่ราคาแพงเข้ามา นอกจากนี้ ยังมีการให้ใบอนุญาตเกินความต้องการไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ต้องจ่ายค่าความพร้อมสูง รวมถึงหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตอีกแสนกว่าล้านบาทที่ต้องหาเงินไปชดใช้ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็จะเห็น 3 ประการที่รัฐบาล โดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องมารีบแก้ไข ดังนี้

พิชัย นริพทะพันธุ์

1. เร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย กัมพูชา เพื่อสามารถนำก๊าซธรรมชาติขึ้นมาใช้ในราคาที่ถูกที่สุดเพราะว่าก๊าซในอ่าวไทยจะมีราคาแค่หน่วยละ 2-3 บาทเท่านั้น ขณะที่ก๊าซนำเข้าจะมีต้นทุนไปถึง 10 บาท

2. อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์ และจะเพิ่มสูงขึ้นและกดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนลง ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เงินทุนไหลออก ดังนั้น ก่อนที่ดอกจะขึ้น รัฐบาลต้องรีบแก้ไขปัญหาหนี้ให้ลดลงให้มากที่สุดเพื่อลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตที่จะเกิดขึ้น

3. รัฐต้องเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส เพื่อสร้างงาน สร้างธุรกิจใหม่ เพิ่มพัฒนาความสามารถด้านการแข่งขันของไทย

พรรคเพื่อไทย พร้อมแล้วที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น ด้วยสติปัญญาความสามารถ ขอเพียงแค่ความไว้วางใจที่พี่น้องมีให้

สินค้าเกษตร ต้นทุนเพิ่ม ราคาตก เกษตรกรอยู่ลำบาก

เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ กล่าวว่า ภาคเกษตรเป็นจุดแข็งจุดหนึ่งของประเทศไทย ไทยโชคดีที่เกษตรกรไทยมีความสามารถ แต่โชคร้ายที่รัฐบาลมองไม่เห็นศักยภาพนั้น ในการผลิต เราผลิตสินค้าเกษตรหลายอย่างได้มีคุณภาพในระดับสูง แต่เกษตรกรไทยยังคงทุกยากลำบากรายได้ไม่พอรายจ่าย แม้กระทั่งสินค้าเกษตรราคาสูง เช่น โคขุน ที่เคยเป็นสินค้าพรีเมียม แต่ด้วยการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาล วัวโคขุนที่เคยราคาสูงขายให้คนมีรายได้ ยังได้รับผลกระทบขายได้น้อยลงเพราะคนรวยเองรายได้ก็ลดลง ยังไม่นับปัญหา  ค่าครองชีพสูงลิ่ว ทั้งค่าไฟฟ้าแพง ค่าน้ำมันสูง รายได้ไม่พอรายจ่าย  กำลังซื้อในประเทศหดหาย  มะพร้าว ลำใย มังคุด ราคาต่ำเตี่ยเรี่ยดิน นี่จึงเป็นวิกฤตน้ำตาของเกษตรกรในทุกระดับแท้จริงกับรัฐบาลประยุทธ์ชุดนี้

เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ

รบ.เหมือนไก่จิกตีกันอยู่ในเข่งรอเชือด หนีปัญหาทิ้งประชาชน

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด กล่าวว่าสภาพรัฐบาลเหมือนไก่ที่จิกตีกันอยู่ในเข่งรอถูกเชือด สะกดคำว่าเสถียรภาพไม่เป็นกันแล้ว สถานการณ์ง่อนแง่นโคลงเคลง ไม่ใช่เพราะความไม่ชัวร์ในชะตากรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เพราะต่างพรรคต่างหนีตายเตรียมสละเรือ จากเรือเหล็กเป็นเรือกำลังจะจมลงก้นทะเล ประชาชนถูกลอยแพ ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ก็ลาออกไป

ปัดคนจนเยอะขึ้น “ทิพานัน” ติงเพื่อไทย จงใจบิดเบือนปมบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ในวันเดียวกัน เว็บไซต์ ‘ไทยรัฐ ออนไลน์’ รายงานว่า ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 รวมทั้งพูดถึงเสถียรภาพของรัฐบาลว่า ในเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พรรคเพื่อไทยให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนทั้งตัวเลขและจุดมุ่งหมาย โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้เป็นโครงการที่สะท้อนภาพความยากจนหรือจำนวนคนยากจนแบบที่พรรคเพื่อไทยพยายามสร้างวาทกรรม ขอให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น เพราะประชาชนจะเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยขัดขวางโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงการจัดสวัสดิการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่รัฐบาลกำลังดำเนินการจัดสรรให้

ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อแจกเงิน แต่เป็นโครงการที่มุ่งจัดสรรสวัสดิการให้กับประชาชนที่มีสิทธิพึงได้รับเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งระหว่างปี 2560-2561 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 18,769,468 คน ได้รับสิทธิ 14,609,415 คน และจำนวนผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันที่ 1 ส.ค. 2565 คือ 13,300,440 ราย

ดังนั้น การลงทะเบียนรอบใหม่ปี 2565 ที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ 20 ล้านคน ไม่ได้แสดงถึงจำนวนคนจนเพิ่มมากขึ้นเพราะรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดตามที่กล่าวหาแบบคนวิเคราะห์ข้อมูลไม่เป็น เนื่องจากยังต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนอีกครั้ง อีกทั้งการสำรวจรอบใหม่นี้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่อัปเดต ถูกต้อง ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้สามารถจัดสรรสวัสดิการได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้จริง จำนวนผู้ได้รับสิทธิเพิ่มในรอบนี้จึงเป็นได้จากหลายปัจจัย เช่น กลุ่มตกหล่นที่ควรได้รับสิทธิ แต่เข้าไม่ถึงการลงทะเบียน

สำหรับการรายงานตัวเลขผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ที่มีจำนวนมาก ไม่ได้เป็นเพราะรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาลต่างออกมาภูมิใจที่กับตัวเลขคนจนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นเรื่องที่แสดงถึงความสำเร็จการทำงานเชิงรุก ในการกระจายช่องทางการลงทะเบียนได้ดี อำนวยความสะดวกได้ง่ายๆ กระจายการสื่อสารได้กว้างขวาง ทำให้ประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ สามารถใช้สิทธิเข้าถึงสวัสดิการของรัฐที่พี่น้องประชาชนพึงได้รับ เป็นความจริงใจในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเสมอภาคให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน

ทิพานัน กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาจนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี ได้พัฒนาประเทศชาติในทิศทางที่ดีขึ้นทุกมิติ รัฐบาลมีเสถียรภาพ ทั้งนโยบายทจะยังทยอยออกมาเพื่อประชาชน โครงการมาตรการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะออกมาเรื่อยๆ รวมไปถึงประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะแข่งขันด้านการค้าการลงทุน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงทำงานตามปกติและเพื่อประเทศชาติ

“การที่รัฐบาลแจ้งข่าวการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกช่องทางประชาสัมพันธ์ เป็นเพราะต้องการให้ทุกคนเข้าถึง เข้าใจในข้อมูลข่าวสาร และมาใช้สิทธิที่ประชาชนพึงได้รับ ไม่ใช่การนำงบประมาณมาซื้อเสียงล่วงหน้า หรือทำประชานิยมแบบที่พรรคเพื่อไทยคุ้นเคย สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกระทำอยู่นี้เป็นการสื่อสารเพื่อบิดเบือนเจตนาเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดูคล้ายขัดขวางนโยบายดีๆ ที่ประชาชนควรได้รับ จนอาจทำให้สังคมสงสัยว่า พรรคเพื่อไทยจะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช่หรือไม่” ทิพานัน กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net