'เพื่อไทย' ถก ส.ประมง วาง 4 นโยบายแก้ไขปัญหา - ผู้ค้าปลากุเลาเค็มตากใบโวยเมนูเสิร์ฟผู้นำเอเปคไม่ใช่ของแท้

  • ‘หัวหน้าพรรคเพื่อไทย’ หารือ ‘สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย’ วาง 4 นโยบายแก้ไขปัญหาประมง เพื่อฟื้นอาชีพและอุตสาหกรรมประมงไทยอย่างต่อเนื่อง ทวงคืนอันดับโลกประมงไทย
  • ผู้ประกอบการปลากุเลาเค็มตากใบ นราฯ โวย เมนูเสิร์ฟผู้นำเอเปคไม่ใช่ปลากุเลาแท้จากตากใบ
  • 'สวท.สุไหงโก-ลก' รายงาน ซื้อจริงจาก 'ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ'

14 พ.ย.2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมด้วยวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะนโยบายเกษตรพรรคเพื่อไทย และคณะ พูดคุยหารือและรับมอบข้อเสนอจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยในการแก้ปัญหาประมงอย่างครบวงจร โดยมี มงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนชาวประมงทั่วประเทศเข้ามอบหนังสือดังกล่าว ชลน่าน กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นไปที่รับฟังปัญหาของสมาคมประมงฯ ที่สำนักงาน และทีมเพื่อไทยไปฟังปัญหาจากชาวประมง ทั้งในเขตจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และหลายจังหวัดในภาคใต้ก่อนหน้านี้แล้วส่วนหนึ่ง รวมถึงในวันนี้สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ก็ได้มาพูดคุยและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันอย่างจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาประมงของประเทศที่ค้างคามานานหลายปี 

ชลน่าน กล่าวต่อว่า แม้ปัจจุบัน สหภาพยุโรปจะได้ปลดใบเหลืองแก่ประมงไทยไปแล้ว แต่นโยบายมาตรการและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่บริหารจัดการภาคประมงก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือผ่อนคลายลงไป แม้พรรคเพื่อไทยจะเคยนำเสนอประเด็นนี้ไปยังรัฐบาลแต่รัฐบาลก็ยังไม่ได้ผลักดันมาตรการแก้ไขปัญหาใดๆ ที่เป็นรูปธรรมออกมาอย่างจริงจัง ความเดือดร้อนของพี่น้องประมงก็ยังคงอยู่ วันนี้จึงเป็นโอกาสดี ที่ได้พูดคุยและตกผลึกแนวนโยบายและมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้พรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมผลิตเป็นพิมพ์เขียวนโยบายแก้ไขปัญหาของพี่น้องประมงในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง

“ปัญหา IUU Fishing ของภาครัฐ ที่เร่งรัดแก้ไขดำเนินการอย่างเร่งรีบตั้งแต่ปี 2558 สร้างปมปัญหาต่อเนื่องให้พี่น้องประมง เพราะในวันที่แก้ไขปัญหานั้นพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยฟังคำทักท้วงและคำแนะนำของพี่น้องประมงและผู้มีส่วนได้เสีย ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศ เราจะพลิกฟื้นอาชีพประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ด้วยการรื้อกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ แก้ไขหลักเกณฑ์ให้บังคับใช้อย่างเหมาะสม ยุติธรรม และหากอุปสรรคถูกทำลายและการส่งเสริมถูกต้องเหมาะสมก็เชื่อว่า ประเทศไทยจะกลับมาทวงตำแหน่งประมงลำดับต้นๆ ของโลก สร้างรายได้ให้ชาวประมงอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง” ชลน่าน กล่าว

มงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่าจากการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ได้สรุปมาตรการนโยบาย และเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาประมงของไทยรวมได้เป็น 4 มาตรการ คือ 1. ปฏิรูปโครงสร้างการจัดการกิจการประมงของไทยให้ชัดเจนและเป็นระบบ ด้วยการตั้ง ทบวงการประมงแห่งชาติ เพื่อจัดทำแผนและนโยบายอุตสาหกรรมประมงในระดับชาติ 2. กำหนดนโยบายนำไปสู่การจัดการทรัพยากรและส่งแวดล้อมประมงอย่างยั่งยืน โดยเน้นไปที่การตั้งกองทุนพัฒนาส่งเสริมกิจการประมง เพื่อชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.ประมง สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  3. แก้กฎหมายประมง และจัดทำมาตรฐานการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่คนในอาชีพประมง 4. ดูแลคุณภาพชีวิตประมงทะเล ทำระบบประกันภัย ประกันสุขภาพลูกเรือประมง โดยทั้งหมดนี้จะมีสภาการประมงแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรดูแลชาวประมงทั้งระบบเพื่อความเป็นเอกภาพของชาวประมงทุกกลุ่ม

วิสุทธิ์ ไชยณรุณ กล่าวเพิ่มเติมว่าภายหลังการฟังและปรึกษาหารือร่วมกัน ข้อเสนอของกลุ่มประมง 22 จังหวัด มีเรื่องน่าสนใจหลายประการ เสียดายโอกาส 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียด้านเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาท จากประเทศผู้ส่งออกอาหารทะเลลำดับต้นของโลก ตอนนี้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเล มูลค่าเกือบ 5 แสนล้านบาทต่อปี พรรคเพื่อไทยทราบปัญหา รับฟังมือพี่น้องประมงและพี่น้องทุกอาชีพ ทำให้เรารู้ปัญหา รู้วิธีคิดและรู้วิธีแก้ไขปัญหา หากเป็น ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ เราจะสามารถแก้ปัญหาและทำได้ทันที

โวย เมนูเสิร์ฟผู้นำเอเปคไม่ใช่ปลากุเลาแท้จากตากใบ

Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้ รายงานด้วยว่า ผู้ประกอบการปลากุเลาเค็มตากใบ จังหวัดนราธิวาสหลายราย โวย เมื่อรู้ว่าปลากุเลาเค็มตากใบ ที่ถูกเลือกเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟในงานเลี้ยงกาลาร์ดินเนอร์แก่ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ กลับเป็นปลามาจากพื้นที่อื่น ที่ถูกนำไปจัดเลี้ย โดย ศิริพร อับดุลมาดิน ชาวมุสลิมที่ได้รับการถ่ายทอดการทำปลากุเลาเค็มจากชาวจีนโพ้นทะเลเเละมาศึกษาต่อจากคนไทยรุ่นเก่าซึ่งยึดอาชีพนี้มานานกว่า 30 ปี บอกว่า ความเเตกต่างของปลากุเลาเค็มตากใบ คือ การใช้ปลาในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเเตกต่างกับที่อื่น รวมถึงวิธีการทำที่พิถีพิถัน การนำปลาเค็มจากที่อื่นมารับประทาน ก็จะทำให้รสชาติเเตกต่างกัน

“ก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาเอาปลาจากที่อื่นมา เเทนปลากุเลาเค็มที่ตากใบ ปลาที่นี่ไม่มีใครเหมือน รสชาติก็เเตกต่าง เมื่อคนกินเเล้วเค้าก็รู้ เราทำทุกกระบวนการเอาใจใส่ ทำมาหลายรุ่น”

เช่นเดียวกับ พิชญา เพชรเเก้ว เจ้าของร้านป้าเบญปลากุเลาเจ้าเก่า กล่าวว่า ผลผลิตของชาวบ้านได้รับการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ถึง 9 เเห่ง เเต่กลับไม่มีใครถูกสั่งซื้อเพื่อนำขึ้นโต๊ะ จึงไม่อยากให้นำชื่อของปลากุเลาเค็มตากใบไปใช้

“ไม่ชอบที่เค้าเอาปลาที่อื่นมาคะ พวกเราที่ทำปลาเค็มก็คุยกันว่า ไม่มีเจ้าไหนที่ถูกสั่งไปขึ้นโต๊ะ คือ เราไม่ได้ติดใจว่า เค้าจะเอาปลาจากไหนมาเสริฟ เเต่ถ้าเอามาจากที่ไหนก็ควรจะไปใช้เรื่องราวของที่นั้น เเต่นี่เค้าเอาเรื่องราวปลากุเลาเค็มจากตากใบไปโปรโมท เเต่ไม่มีปลาจากที่นี้เลย พอรสชาติมันต่าง คนกินก็จะเข้าใจผิดว่า ปลากุเลาเค็มตากใบมันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ทั้งๆที่มันไม่ใช่”

ขณะที่ชาวบ้านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย จังหวัดปัตตานี ที่ถูกใช้ภาพในการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเซี่ยลของกลุ่ม ในการจำหน่ายปลากุเลาเค็ม ชี้ว่า ทางกลุ่มก็ไม่ได้ถูกสั่งซื้อปลากุเลาเค็มเช่นกัน แต่มีการนำภาพของกลุ่มที่มีลายน้ำของสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดปัตตานีชัดเจนไปใช้ จึงเกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิดว่าสั่งซื้อมาจากกลุ่มนี้

'สวท.สุไหงโก-ลก' รายงาน ซื้อจริงจาก 'ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ'

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 20.00 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'สวท.สุไหงโก-ลก' รายงานว่า พบแล้ว ปลากุเลาเค็มตากใบที่เตรียมจัดทำเมนูสุดพิเศษให้กับผู้นำเอเปค 2022 ได้สัมผัสรสชาติความอร่อยจากภูมิปัญญาท้องถิ่นชายแดนใต้ “ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ”

พรจรัส ปฐมศิริกุล เจ้าของร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ กล่าวว่า ตั้งแต่ได้ฟังข่าวจากวิทยุ และจากโทรทัศน์ว่า ปลากุเลาเค็มตากใบได้รับเลือกให้เป็นเมนูอาหารสำหรับผู้นำเอเปคก็รู้สึกดีใจมาก เพราะจะทำให้ปลากุเลาเค็มตากใบเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายกว่านั้นคือทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ ทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างล้นหลามทุกช่องทาง จากเดิมขายได้วันละ 1-2 ตัว หรือประมาณ 800 กรัม -1 กิโลกรัม หรือบางวันขายไม่ได้เลย กลายเป็นรับออเดอร์แทบไม่ทัน ตั้งแต่ 11.00-21.00น. ขายได้มากกว่า 10 กิโลกรัม และยังมีการสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่องจนมีมูลค่าการสั่งซื้อมากกว่า 50,000 บาท และที่ตื่นเต้นดีใจที่สุด คือเสียงโทรศัพท์สายหนึ่งที่แจ้งว่าโทรมาสั่งซื้อปลากุเลาเค็ม 1 ตัว น้ำหนักประมาณ 1กิโลกรัมจากบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อนำไปจัดทำเมนูอาหารสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค ความรู้สึกตอนนั้น คือดีใจมาก ขนลุกไปทั้งตัว เพราะไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่และเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของร้านป้าอ้วน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุน และสร้างชื่อให้กับปลากุเลาเค็มตากใบ จากอำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส ให้เป็นที่รู้จักระดับโลก กลุ่มผู้ประกอบการปลากุเลาทั้ง 9 กลุ่มของอำเภอตากใบ ที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพที่เป็นมาตรฐานพร้อมที่จะรับออเดอร์ เพื่อส่งต่อความอร่อยของปลากุเลาเค็มตากใบไปถึงทุกครัวเรือนทัวไทย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีการชี้แจงดังกล่าว ต่อมา 21.25 น. เพจ 'สวท.สุไหงโก-ลก' โดยใส่หมายเหตุ เพิ่มเติมว่า สั่งโดยตรงจากทางร้าน 1 ตัว หลังจากนั้นได้สั่งเพิ่มผ่านช่องทางออนไลน์

ต่อมา 22.26 น. เพจ 'สวท.สุไหงโก-ลก' เชฟชุมพล แจ้งไพร ยืนยัน วัตถุดิบทุกชนิดที่ทำอาหารเลี้ยงผู้นำเอเปคมาจากภายในประเทศทั้งหมด พร้อมแจงกรณีปลากุเลาตากใบ ซื้อมาจากร้านปลากุเลาเค็มตากใบป้าอ้วน ซึ่งเป็นสินค้า OTOP 5 ดาว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท