Skip to main content
sharethis

ศาลประเทศเบลารุสตัดสินจำคุก 10 ปีนักสิทธิมนุษยชนรางวัลโนเบล อเลส เบียเลียตสกี โดยกล่าวหาว่าเขามีความผิดโทษฐานให้เงินสนับสนุนการประท้วงท่ามกลางสถานการณ์ที่ฝ่ายค้านถูกปราบปรามโดยเผด็จการ “ลูกาเชงโก” ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปร่วมประณามว่าเป็น "เรื่องลวงโลก" ขณะที่ยูเอ็นมองว่าเป็นการดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

ในประเทศเบลารุสที่มักจะถูกเรียกว่าเป็น "เผด็จการแห่งสุดท้ายของยุโรป" มีการตัดสินลงโทษ อเลส เบียเลียตสกี นักสิทธิมนุษยชนรางวัลโนเบล เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับเพื่อนนักกิจกรรมของเขาอีก 3 ราย

ทางการเบลารุสกล่าวหาว่าเบียเลียตสกีทำการลักลอบขนเงินและให้เงินสนับสนุน "กิจกรรมที่ฝ่าฝืนความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างร้ายแรง" ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวหมายถึงการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีอำนาจนิยม อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชงโก ในช่วงปี 2563 หลังจากที่ลูกาเชงโกคุกคามคู่แข่งในการเลือกตั้งและพยายามยึดกุมอำนาจอีกสมัย

เบลารุสชุมนุมต้านผู้นำอำนาจนิยม 'ลูกาเชงโก' อย่างต่อเนื่อง

เบียเลียตสกี ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี จากข้อหาดังกล่าว เขาเป็นผู้ที่ก่อตั้งกลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อศูนย์สิทธิมนุษยชนเวียสนา ที่มักจะมีปัญหากับกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลอำนาจนิยมในเบลารุส ส่วนจำเลยอีก 3 รายคือ วาเลนติน สเตฟาโนวิช ได้รับโทษจำคุก 9 ปี และ วลาดิเมียร์ แลบโควิช ได้รับโทษจำคุก 7 ปี และดิมิทรี โซลอฟยอฟ ผู้ที่ไม่ได้ปรากฏตัวในศาลถูกตัดสินให้จำคุก 8 ปี

เบียเลียตสกีได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อเดือน ต.ค. 2565 พร้อมกับองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติเมมโมเรียลที่มีสำนักงานในรัสเซียและศูนย์เพื่อสิทธิพลเมืองจากยูเครน ก่อนหน้าที่เขาจะได้รับรางวัลนี้เบียเลียตสกีเคยถูกเสนอชื่อเข้ารับรางวัลมาแล้ว 5 ครั้ง

นาทัลยา พินชุก ภรรยาของเบียเลียตสกีกล่าวว่า การตัดสินลงโทษเบียเลียตสกีและบุคคลเหล่านี้ถือเป็น "การตัดสินลงโทษที่โหดร้ายมากสำหรับทุกคน" และวิจารณ์เรื่องที่ระยะเวลาที่พวกเขาถูกลงโทษจำคุกนั้นยาวนานเกินไป

ขณะที่อลินา ภรรยาของวาเลนตินกล่าวว่าใครก็ตามที่สั่งลงโทษนักกิจกรรมเหล่านี้ สักวันหนึ่งจะถูกทำให้ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาทำลงไป เธอกล่าวตามคำพูดของวาเลนตินว่า "สักวันหนึ่งฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง"

เหตุการณ์ประท้วงที่อ้างถึงในคดีนี้เป็นการประท้วงในช่วงที่ลูกาเชงโก ผู้นำอำนาจนิยมที่ครองอำนาจมายาวนานเกือบ 30 ปีในเบลารุส ทำการคุกคามและคุมขังฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง บีบให้ผู้นำฝ่ายค้าน สเวียลานา ทิคานอฟสกายา ต้องหนีออกจากประเทศ ในขณะที่ฝ่ายลูกาเชงโกถูกกล่าวหาว่าเล่นตุกติก เป็นการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม จนการเลือกตั้งในครั้งนั้นไม่เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ

เบียเลียตสกีถูกจับกุมเมื่อปี 2564 เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาจากทางการเบลารุส โดยบอกว่าเป็นข้อกล่าวหาที่มีแรงจูงใจทางการเมือง

ทิคานอฟสกายาฝ่ายค้านผู้เคยถูกคุกคาม และตอนนี้อาศัยอยู่นอกประเทศเบลารุสกล่าวว่า เบียเลียตสกีและนักกิจกรรมอีก 3 รายถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม และวิจารณ์ว่าคำตัดสินของศาลเบลารุสว่า "น่ารังเกียจ" ทิคานอฟสกายาระบุในทวิตเตอร์ว่า "พวกเราต้องทำทุกอย่างเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมที่น่าอัปยศเช่นนี้และปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระ"

นอกจากอดีตฝ่ายค้านพลัดถิ่นแล้ว นานาชาติก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบต่อการตัดสินลงโทษเบียเลียตสกีเช่นกัน

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเบียเลียตสกีโดยทันที โดยบอกว่าคำตัดสินของศาลเป็น "เรื่องลวงโลก" และเป็น "การพยายามลิดรอนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในเบลารุส"

โจเซพ บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป กล่าวว่าการดำเนินคดีที่เกิดขึ้นนี้เป็นการพยายามปิดปากผู้วิจารณ์ลูกาเชงโก แต่จะไม่ประสบความสำเร็จเพราะ "เสียงเรียกร้องเสรีภาพของพวกเขานั้นยังคงดังก้องแม้จะออกมาจากหลังลูกกรงเหล็ก"

รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี แอนนาเลนา แบร์บ็อค กล่าวว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้เป็น "ปาหี่" และวิจารณ์ว่าการที่รัฐบาลเบลารุสโต้ตอบภาคประชาสังคมด้วยความรุนแรงและการคุมขังถือเป็น "เรื่องเสื่อมเสียรายวัน" ของลูกาเชงโก ผู้ที่สนับสนุนประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินในการทำสงครามยูเครน

เบริต รีส-แอนเดอร์เซน ประธานคณะกรรมการรางวัลโนเบลกล่าวว่าการตัดสินลงโทษเบียเลียตสกีผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพนั้นถือเป็น "โศกนาฏกรรม" ที่มีแรงจูงใจทางการเมือง มันเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเบลารุสไม่ใยดีต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและฝ่ายค้าน

ราวีนา ชัมดาซานี โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติแถลงว่าทางหน่วยงานของยูเอ็นรู้สึกแย่ต่อการดำเนินคดีในครั้งนี้และรู้สึกกังวลที่การดำเนินคดีต่อเบียเลียตสกี "ขาดกระบวนการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม และการขาดการเข้าถึงตุลาการที่เป็นอิสระในเบลารุส"


เรียบเรียงจาก


ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Ales_Bialiatski
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net