ศาลสั่งออกหมายจับ 'จัสติน' คดี ม.112 หลังประสบอุบัติเหตุ มาศาลตามวันนัดไม่ได้

ศาลออกหมายจับ “จัสติน” ชูเกียรติ คดี ม.112 หลังมาศาลไม่ได้ เพราะประสบอุบัติเหตุมีอาการปวดหัวรุนแรง ศาลระบุ จำเลยต้องการประวิงคดี หลีกเลี่ยงไม่มาศาล ให้ออกหมายจับจำเลย และปรับผู้ประกันเต็มสัญญา

 

23 มี.ค. 2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญาตลิ่งชันนัดสืบพยานคดีของ “ชูเกียรติ แสงวงค์” นักกิจกรรมจากจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แต่งกายคอสเพลย์เป็น “จัสติน” ซึ่งถูกฟ้องในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สืบเนื่องจากปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรฝั่งธน บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT ท่าพระ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563

คดีนี้ ชูเกียรติได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 โดยคดีมีนายอานนท์ กลิ่นแก้ว จากกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา ก่อนที่ ดุสิต เพิ่มเจริญ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาตลิ่งชัน ได้มีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลในวันที่ 28 ธ.ค. 2564 

เวลา 10.30 น. ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ 2 ปาก โดยทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เนื่องจากชูเกียรติมีอาการป่วยและปวดหัวรุนแรง จากการประสบอุบัติศีรษะกระแทกพื้น โดยแพทย์ลงความเห็นว่าจำเลยจะต้องพักรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 21 – 25 มี.ค. 2566 ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีได้ ซึ่งศาลได้ระบุว่าจะให้สืบพยานลับหลังจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา 172 ทวิ (4)

“จัสติน” ชูเกียรติ

แต่ทนายจำเลยขอคัดค้าน โดยแถลงต่อศาลว่าคดีนี้มีอัตราโทษสูง ต้องปรึกษากับจำเลยในการต่อสู้คดีนี้ จึงต้องการให้มีการสืบพยานต่อหน้าจำเลย และในคดีนี้ก็มีเอกสารจำนวนมากที่เตรียมใช้ถามค้านพยานโจทก์ อีกทั้ง ทนายจำเลยได้เปิดเผยว่า ศาลได้ขอออกจากห้องพิจารณาเพื่อไปปรึกษากับอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชัน ก่อนจะกลับเข้ามาที่ห้องพิจารณาพร้อมกับเห็นว่าอาการเจ็บป่วยของจำเลยไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่มาเข้าร่วมการพิจารณาคดีในวันนี้ มีใจความสำคัญระบุว่า

“พิเคราะห์แล้ว คำร้องขอเลื่อนคดีและสำเนาใบรับรองแพทย์ จำเลยประสบอุบัติเหตุ ในวันที่ 13 มี.ค. 2566 โดยแพทย์ได้ลงความเห็นว่าควรพักฟื้นตั้งแต่วันที่ 13 – 21 มี.ค. 2566 และต่อมาจำเลยได้เข้าพบแพทย์อีกในวันที่ 21 มี.ค. 2566 โดยระบุว่าอาการปวดศีรษะยังไม่ทุเลาลง ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่าควรพักรักษาตั้งแต่วันที่ 21 – 25 มี.ค. 2566 ทั้งนี้ ไม่ปรากฏว่าอาการบาดเจ็บรุนแรง มีเพียงอาการปวดศีรษะ จำเลยได้พักรักษามาเป็นเวลานาน น่าเชื่อว่ารักษาอาการบาดเจ็บแล้ว และการที่แพทย์ระบุว่าอาการป่วยเพียงเวียนศีรษะ จำเลยไม่ได้เจ็บป่วยรุนแรงถึงขนาดมาศาลไม่ได้ จึงถือว่าจำเลยมีพฤติการณ์ประวิงคดี หลีกเลี่ยงไม่มาศาล ให้ออกหมายจับจำเลย และปรับผู้ประกันเต็มสัญญาประกัน”

 

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 มี.ค. 2566 ศาลไม่ได้เลื่อนนัดตามที่ทนายจำเลยขอ จึงให้จำเลยเดินทางมาศาลตามนัดเดิม เนื่องจากเชื่อว่าอาการเจ็บป่วยของจำเลยไม่ได้มีความรุนแรงถึงขนาดมาเข้าร่วมพิจารณาคดีไม่ได้ แต่จำเลยยังยืนยันว่าตนเองไม่สามารถเดินทางมาเข้าร่วมในวันดังกล่าวได้ พร้อมกับยื่นใบรับรองแพทย์มากับทนาย โดยมีเหตุผลระบุว่า ตนเองยังคงมีอาการป่วย หน้ามืด และมีอาการบ้านหมุน แพทย์ได้ฉีดยาให้จำเลยเป็นจำนวน 1 เข็ม ในเช้าวันนี้ก็ยังมีอาการมึนและปวดหัว ตลอดจนอาการง่วงนอนจากฤทธิ์ยา ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้

แต่ในวันนี้ (23 มี.ค. 2566) ศาลยังคงคำสั่งเช่นเดิม โดยระบุว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ได้ออกหมายจับจำเลยไปแล้ว และระบุว่าไม่แน่ใจว่าจะสามารถจับกุมจำเลยได้เมื่อใด จึงเห็นสมควรให้จำหน่ายคดีออกชั่วคราว จนกว่าจะนำตัวจำเลยมาขึ้นศาลได้ และให้ยกเลิกนัดสืบพยานเดิม และหากจำเลยไม่ปรากฏตัวภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกหมายจับ จะมีการพิจารณาคดีตามที่เห็นสมควรต่อไป 

ในคดีนี้ ชูเกียรติเคยได้รับการประกันตัว ภายหลังจากที่อัยการฟ้อง ด้วยหลักทรัพย์จำนวน 250,000 บาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์ 

ต่อมาเวลา 13.30 น. ชูเกียรติซึ่งยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า หากตนเองอาการดีขึ้นจะเดินทางไปศาลด้วยตัวเองกับทนายและนายประกัน ไม่หนีไปไหนแน่นอน

“เมื่อผมอาการดีขึ้นผมไหวผมจะเดินทางไปศาลด้วยตัวเองกับทนายและนายประกันของผม ประกาศตรงนี้และย้ำตรงนี้เลยนะครับ ถึงตำรวจทุกคนที่จะมาจับผม  ตอนนี้ผมขอพักฟื้นร่างกายตัวเองก่อน  เพราะผมมีนัดสืบอีกหลายคดีที่ใกล้สืบพยานจบแล้ว  ผมไม่หนีไปไหนแน่นอนผมหายดีผมจะติดต่อขอมอบ ด้วยตัวเอง” ชูเกียรติ กล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท