Skip to main content
sharethis

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก "เพนกวิน" 2 ปี ในคดี ม.112 เหตุโพสต์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์กลับหัว พร้อมข้อความ “ด้วยรักและฟักยู” เมื่อปี 2564 ศาลระบุ ภาพและข้อความดังกล่าวทำให้คนอ่านเข้าใจได้ว่าจำเลยหมิ่นพระเกียรติรัชกาลที่ 10 ให้ลงโทษบทหนักสุดตาม ม.112 จำคุก 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี

 

31 ก.ค. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงาน ศาลอาญาพิพากษาจำคุก "เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ 2 ปี กรณีโพสต์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์กลับหัวและโพสต์ด้วยรักและฟัคยู เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพของจำเลยจริง เมื่อพิจารณาจากภาพและข้อความแล้ว ผู้ที่อ่านทั่วไปจะเข้าใจได้ว่าจำเลยหมิ่นพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 และลดทอนคุณค่าของกษัตริย์ พิพากษาจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุด คือมาตรา 112 จำคุก 3 ปี เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลขอศูนย์ทนายความฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การอ่านคำพิพากษาครั้งนี้เป็นการอ่านลับหลังจำเลยเนื่องจากจำเลยไม่มาศาล โดยยังคงมีทนายความฝั่งจำเลยเข้าร่วมกระบวนการ

ก่อนหน้านี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีไว้ว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) รวม 4 นาย ได้เดินทางเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาในคดีตามมาตรา 112 ต่อพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยนับเป็นคดีข้อหานี้คดีที่ 21 ที่เขาถูกกล่าวหาแล้ว

คณะพนักงานสอบสวน นำโดย ร.ต.ท.หญิงกนกวรรณ สีสะอาด รองสารวัตรสอบสวน กก.1 บก.ปอท. ได้เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาต่อพริษฐ์ในคดีใหม่นี้ โดยมีทนายความเดินทางไปร่วมรับฟังด้วย

พฤติการณ์ข้อกล่าวหาระบุว่าเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 19.00 น. ผู้กล่าวหาซี่งตำรวจยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเป็นใคร ได้พบเห็นภาพและข้อความในเฟซบุ๊กชื่อ “พริษฐ์ ชิวารักษ์” ที่โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 เวลา 23.29 น. โดยมีข้อความว่า “ด้วยรักและฟัคยู #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดำ” พร้อมกับมีภาพนายพริษฐ์ถือภาพถ่ายที่ปรากฏพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 กลับศีรษะ และกำมือชูนิ้วกลางทาบลงบนพระบรมฉายาลักษณ์ ผู้กล่าวหาเห็นว่าข้อความและภาพดังกล่าว ผู้โพสต์แสดงความไม่เคารพและแสดงความอาฆาตมาดร้าย เจตนาดูหมิ่นต่อองค์พระมหากษัตริย์  จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อพริษฐ์ 2 ข้อหา ได้แก่ “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชาอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net