Skip to main content
sharethis

อัยการบรรยายฟ้องม.112 “เก็ท โมกหลวง” ปราศรัยเรียกร้องวัคซีน ยกเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี เป็นรัชทายาท และการปราศรัยเรียกร้องเรื่องวัคซีนและวิจารณ์การจัดหาวัคซีนเป็นการทำ ร.10 เสื่อมเสียพระเกียรติ

เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.2566) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานรายละเอียดคำบรรยายฟ้องของอัยการที่ใช้ยื่นฟ้อง โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท นักกิจกรรมจากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำต่อศาลอาญา รัชดาฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 กรณีที่โสภณเข้าร่วมกิจกรรม #แจกน้ำยาให้หมามันกิน และปราศรัยเรียกร้องวัคซีนโควิด-19 ในวันแรงงานสากล ที่จัดโดยกลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2565

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า ในคำฟ้องระบุว่าปัญญ ไพศาลรภัทร พนักงานอัยการโจทก์ จากสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้เรียงพิมพ์คำบรรยายฟ้องโสภณในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ พ.ศ. 2493 แต่มีลายเซนของอัยการที่เป็นผู้มีคำสั่งฟ้องอีก 1 ลายเซน

ส่วนในคำฟ้องของอัยการระบุถึงคำปราศรัย 4 ช่วง ของโสภณว่าเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกินและทำให้กษัตริย์ – เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีซึ่งอัยการเห็นว่าเป็นรัชทายาท เสื่อมศรัทธาต่อประชาชน รายละเอียดตามฟ้องมีดังนี้

1. จำเลยได้ปราศรัยถึงในช่วงสภาวะการขาดวัคซีนที่มีคุณภาพ โดยกล่าวถึงเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี และกลุ่มเพื่อนที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ก่อนหน้าประชาชน

อัยการได้บรรยายฟ้องต่อไปว่า คำปราศรัยดังกล่าวเป็นการกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี และพระสหายว่าลักเอาวัคซีนไฟเซอร์ไปฉีดให้ตนเอง เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเป็นการทำให้เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ซึ่งเป็นรัชทายาทของรัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อกษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ใดจะละเมิดมิได้

2. จำเลยได้ปราศรัยถึงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยกล่าวว่ากลุ่มราชวงศ์เป็นกลุ่มที่ได้วัคซีน จากการเข้าถือหุ้น แต่ประชาชนไม่ได้วัคซีน โดยในคำฟ้องช่วงหนึ่งโสภณได้พูดว่า “ผมถึงย้ำเสมอว่าขอให้ตระหนักถึงคุณค่าของทุกคนว่า ทุกคนคือแรงงาน ทุกคนมีศักดิ์ศรีที่จะได้วัคซีนและอื่นๆ แต่ศักดินา ระบอบกษัตริย์ นายทุน รัฐบาล ได้ขโมยสวัสดิการ ขโมยอำนาจจากเราไป”

อัยการได้กล่าวว่า การที่โสภณปราศรัยทำให้คนฟังเข้าใจว่ารัชกาลที่ 10 ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่ผลิตวัคซีนดังกล่าว ทำให้ราชวงศ์และข้าราชบริพาร ได้รับวัคซีน แต่ประชาชนกลับไม่ได้รับ ตลอดจนทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่ากษัตริย์ ขโมยอำนาจอธิปไตยจากประชาชน

3. จำเลยได้ปราศรัยกล่าวถึงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับบริจาค และเงินบริจาค ที่ได้มีการนำไปสร้างโรงพยาบาลและตึกในโรงพยาบาล ตลอดจนเงินซื้อวัคซีนและซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ก็เป็นเงินของประชาชน ไม่ใช่เงินของกษัตริย์ หรือมหาราชพระองค์ใด

การพูดดังกล่าว อัยการบรรยายฟ้องว่าเป็นการทำให้คนฟังเข้าใจว่าสถาบันกษัตริย์ได้ทำการช่วยเหลือประชาชนเพียงในนาม ไม่ได้ช่วยเหลือจริง งบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ ทางการแพทย์ก็มาจากเงินภาษีประชาชน โดยเป็นการน่าจะทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมพระเกียรติ

4. จำเลยได้ปราศรัยว่า ชีวิตหนึ่งที่เกิดมาได้ใช้คุ้มแล้วที่ไม่ยอมตกเป็นทาสให้ศักดินา และขอจงศรัทธาในศักดิ์ศรีของมนุษย์ของคุณ ถ้าหากทุกคนถูกลิดรอนสิทธิ์ ขอให้เรียกร้องสิทธิออกมา

อัยการกล่าวว่าคำปราศรัยดังกล่าว เป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังน่าจะเชื่อได้ว่าสถาบันกษัตริย์กดขี่ประชาชน ประชาชนเป็นทาส ประชาชนควรเรียกร้องสิทธิของตน โดยเป็นการจะทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมพระเกียรติ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

นอกจากนั้น อัยการยังคัดค้านการประกันตัวจำเลย โดยอ้างว่าเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง มีอัตราโทษสูง และหากปล่อยตัวไปอาจกระทำความผิดซ้ำอีก

ศูนย์ทนายความฯ ตั้งข้อน่าสังเกตว่า อัยการมีคำสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 โดยระบุในคำฟ้องว่า “ปัจจุบัน จำเลยถูกขังในคดีปราศรัย #ทัวร์มูล่าผัว ตามมาตรา 112 จึงขอให้เบิกตัวจำเลยในคดีดังกล่าวมาพิจารณาพิพากษาในคดีนี้ด้วย” ซึ่งข้อเท็จจริงได้ปรากฏว่า โสภณได้รับการประกันตัวในคดีกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2566

การสั่งฟ้องในคดีนี้ จำเลยและครอบครัวได้เปิดเผยว่า พนักงานอัยการได้โทรมาแจ้งให้โสภณไปประกันตัวเอง ภายหลังที่ยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาไปก่อนแล้ว คือให้ไปประกันตัว ในวันที่ 20 มี.ค. 2566 โดยแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อทนายจำเลย และตัวจำเลยได้ ทำให้โสภณต้องไปรายงานตัวที่ศาล หลังจากอัยการยื่นฟ้องต่อศาลไปแล้ว ทำให้การยื่นฟ้องของอัยการต่อศาลเมื่อ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาไม่มีโสภณอยู่ในกระบวนการด้วย

โสภณและทนายความจึงได้เดินทางไปศาลอาญาตามหมายเมื่อวันที่ 20 มี.ค.เพื่อยื่นคำร้องขอประกันตัว โดยมีประเด็นสำคัญในคำร้องระบุว่า ปัจจุบันจำเลยต้องเข้ารับการรักษาตัวจากอาการป่วยโรคประสาทรวน เนื่องจากการอดนอนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรอผลตรวจ อีกทั้งจำเลยยังมีอาการข้างเคียง โดยมีอาการมือสั่น และไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกตาได้ ซึ่งเป็นสภาวะที่สืบเนื่องมาจากโรคดังกล่าว

ต่อมาเวลา 16.37 น. ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวโสภณ ระบุคำสั่ง “อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณา โดยให้วางหลักทรัพย์ประกัน 90,000 บาท” โดยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ ศาลกำหนดนัดสอบถามคำให้การในคดีต่อไปวันที่ 2 พ.ค. 2566 เวลา 9.00 น.

ศูนย์ทนายความฯ รายงานว่าขณะนี้โสภณถูกกล่าวหาในคดีมาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี นอกจากคดีนี้ ยังมีคดีปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 ที่ถูกฟ้องที่ศาลอาญาธนบุรี และ คดีปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565 ที่ถูกฟ้องที่ศาลอาญา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net