ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลได้ที่นั่งมาเป็นอันดับหนึ่งจำนวน 151 ที่นั่ง ซึ่งหักปากกาเซียนที่ทำการวิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางการเลือกตั้งมาก่อนหน้านี้รวมถึงการทำแลนสไลด์ยกพื้นที่ในหลาย ๆ จังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออก

พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนความไว้วางใจจากประชาชนจากการเลือกตั้งสูงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง 7 เขตจากเขตเลือกตั้งทั้งหมด 10 เขตในจังหวัดชลบุรี ได้แก่ เขต 1 นายวรท ศิริรักษ์ เขต 2 นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ เขต 3 นายชวาล พลเมืองดี เขต 6 นายกฤษฏิ์ ชีวะธรรมานนท์ เขต 7 นายสหัสวัต คุ้มคง เขต 8 นายจรัส คุ้มไข่น้ำ และเขต 9 นายยอดชาย พึ่งพร ชัยชนะของพรรคก้าวไกลในจังหวัดชลบุรีอาจกลายเป็นภาพสะท้อนของความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่ลึกซึ้งไปจนถึงระดับจิตสำนึกทางการเมือง 

หนึ่ง ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดได้มีการขยายตัวจนผู้คนทั้งที่เป็นคนท้องถิ่นดั้งเดิมและคนที่เข้ามาแสวงโชครายใหม่จำนวนหนึ่งสามารถสร้างรายได้ ความมั่งคั่งจนก้าวข้ามกับดักความยากจนได้แล้วในระดับหนึ่ง หรือกล่าวได้ว่าเป็นชนชั้นกลางที่สามารถเลี้ยงตนเองทางเศรษฐกิจได้แล้วในระดับหนึ่ง

สอง การอพยพและเคลื่อนย้ายของผู้คนต่างถิ่นที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่เมืองของจังหวัดซึ่งมีความสัมพันธ์อยู่กับโครงสร้างทางสังคมส่วนอื่น ๆ เช่น ผู้ประกอบการที่สัมพันธ์อยู่กับลูกค้า ลูกจ้าง พนักงานเอกชนที่ผูกพันอยู่กับองค์กร แรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การจัดการของโรงงาน เป็นต้น

สาม การเมืองและความเข้าใจทางการเมืองที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่เป็นการเมืองในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่การเมืองที่กินได้แบบทักษิณ แต่เป็นการเมืองที่สร้างความมั่นคงของชีวิตและครอบครัวของตนเองเพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตในระยะยาว 

นโยบายของพรรคก้าวไกลที่ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างที่ไม่เท่าเทียมสู่การสร้างความเสมอภาค เช่น ทลายทุนผูกขาด การกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น การสร้างรัฐสวัสดิการ เป็นต้น ซึ่งนโยบายเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในยุคสมัยของความเปลี่ยนแปลงได้อย่างตรงใจ

ความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง 2566 ของบ้านใหญ่และบ้านใหม่ต่อ ส.ส.หน้าใหม่สังกัดพรรคก้าวไกล ชลบุรี ในเขต 1 ที่ห้ำหั่นกันแบบแพ้ไม่ได้ระหว่าง นางสาวสุภีพันธุ์ หอมหวน หรือ “ส.จ.แอ้” ตัวแทนบ้านใหญ่ในนามของพรรคเพื่อไทย กับนางสาวนภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์ ตัวแทนบ้านใหม่ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กลายเป็นภาพสะท้อนฉากทัศน์ทางการเมืองแบบใหม่ที่ประชาชนไม่ได้ต้องการอยู่ในเครือข่ายอุปถัมภ์ของนักการเมืองตลอดไป แต่เป็นความสัมพันธ์ทางการเมืองที่เท่าเทียมและมีส่วนร่วมของประชาชน

การพ่ายแพ้การเลือกตั้งของบ้านใหญ่และบ้านใหม่ในชลบุรีจึงเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของชลบุรีซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่เกิดขึ้นอย่างไพศาลและลึกซึ้ง