Skip to main content
sharethis

แฟนคลับเพื่อไทย รวมตัวยื่น 5 ข้อเสนอ เรียกร้องพรรคเพื่อไทยถอนตัวร่วมรัฐบาล หลังพรรคถูกกดดัน แนะควรใช้เวที 8 พรรคเจรจา - 'โด่ง อรรถชัย' แนะเพื่อไทยเดินหน้าตั้งรัฐบาล ใช้ฟรีโหวตปมประธานสภา - 'ชลน่าน' ปัด 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' ต่อรองเก้าอี้ รมว.พลังงานแลกประธานสภา


ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

28 พ.ค. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่ากลุ่มแฟนคลับพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง นำโดยนายนิยม นพรัตน์ ได้นัดหมายรวมพลคนเสื้อแดงกิน “มินต์ช็อก” พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และเมื่อถึงเวลาพรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ โดยทางกลุ่มแฟนคลับพรรคเพื่อไทย ได้อ่านแถลงการณ์ว่า ทางกลุ่มสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็มีบางกลุ่ม บางฝ่ายบิดเบือน จึงทำให้สมาชิกแฟนคลับพรรคเพื่อไทย รู้สึกไม่สบายใจ เพื่อลดความขัดแย้ง ทางแฟนคลับจึงมีข้อเสนอ 5 ข้อ ประกอบด้วย

1. ทบทวนตัวเอง ออกจากการร่วมรัฐบาล

2. ให้เกียรติพรรคอันดับหนึ่งรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล

3. ให้โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคที่ได้อันดับหนึ่ง

4. โหวตสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

5. หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคอันดับสอง รวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ขอให้พรรคโปรดรับฟังข้อเสนอ แต่หากพรรคตัดสินใจอย่างไร ทางกลุ่มก็พร้อมรับฟังและเคียงข้างสนับสนุนต่อไป

นายอนุสรณ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ขอขอบคุณต่อข้อห่วงใยและข้อเสนอแนะ พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมือง หัวใจคือประชาชน ซึ่งการมายื่นหนังสือถือเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และจะนำหนังสือนี้เสนอต่อผู้บริหารพรรคตามขั้นตอน ถือว่าเป็นการเปิดพื้นที่เสรี เป็นธรรม ใช้ดุลพินิจเจรจา โดยไม่กังวลทัวร์ลงพรรค แต่พรรคเพื่อไทยกลัวทัวร์ที่ไม่มีคุณภาพ มาตรฐาน และจริยธรรม เพราะการแสดงความเห็นต้องสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนหรือด้อยค่าพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้หากมีการแสดงความคิดเห็นและมีกระบวนการบิดเบือน ดิสเครดิตให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย พรรคจะฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิ

ด้านนายนิยม ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนถึงการมายื่นหนังสือในวันนี้ ห่วงจะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคหรือไม่ ว่า พรรคถูกทำให้กลายเป็นคนร้ายต่อสังคม ทั้งที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลต้องให้เกียรติ ไม่ใช่มาขี่คอพรรคเพื่อไทย ไม่เป็นธรรมกับพรรคที่ตนเชียร์ ควรคุยกันในโต๊ะเจรจา ไม่ใช่ออกมาพูด ที่เราให้ถอนตัว เพราะอยากให้ทุกพรรคทบทวนว่าหากขาดพรรคใดไปแล้วจะเดินไปอย่างไร ไม่ใช่โยนพรรคเพื่อไทย แต่เราต้องไปด้วยกันอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่งนายอนุสรณ์ ได้เสริมว่า การยื่นหนังสือในวันนี้ถือเป็นสิทธิของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย และเป็นข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นคนละประเด็นในการร่วมรัฐบาล

'โด่ง อรรถชัย' แนะเพื่อไทยเดินหน้าตั้งรัฐบาล ใช้ฟรีโหวตปมประธานสภา

โด่ง อรรถชัย อนันตเมฆ อดีตดารานักแสดงชื่อดัง และกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟสบุ๊ค เชียร์ให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยเชื่อว่าแฟนคลับเพื่อไทยจะเข้าใจสถานการณ์ เพราะถ้าไม่ทำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาแน่ และยังบอกด้วยว่าไม่ต้องกลัวเรื่องเสียฐานเสียง เพราะเพื่อไทยเสียไปแล้ว อย่างไรแฟนคลับก้าวไกลก็ไม่เลือกเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อตั้งรัฐบาลได้แล้ว ทำผลงานให้ดี แก้ไขเศรษฐกิจ แก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปประเทศตามนโยบาย ในอีก 4 ปีข้างหน้านอกจากจะรักษาฐานเสียงเดิมไว้ได้แล้ว เชื่อว่าอาจจะได้ฐานเสียงที่เคยเสียให้กับก้าวไกลกลับมาด้วย ทั้งนี้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ทำความเข้าใจ..ฟรีโหวต...
ตามระเบียบการประชุมสภา 62 เขียนการได้มาของประธานสภา ไว้ว่า 
ให้ ส.ส เสนอชื่อ ประธานสภา 
ขึ้นมา กี่คนไม่ได้ระบุ..
แต่บอกว่า ถ้าเสนอมามากกว่า 1 คน..
ก็ให้ ประธานสภามาจากการโหวตของ ส.ส. ในสภา ด้วยวิธี
" ลงคะแนนลับ " 
หรือ เรียกว่า ฟรีโหวต 
ที่เรียกฟรีโหวตเพราะการลงคะแนนลับ
ให้อิสระ ส.ส. 
สามารถลงคะแนนได้ โดยไม่ต้องกังวล การชี้นำของพรรค...?? 
นี่คือเจตนารมณ์...
ของการเลือกประธานสภา..
หลายคนกังวลว่า..
หากโหวตประธนสภา..
ฝ่ายผดก มี 187 ประกอบด้วย 
ภท 70 พปชร 41 รสทช 36 ปชป 25 ชทพน 10 พรรคเล็กๆ อีก..จำนวนนึ่ง 
จะชนะ..
เพราะ พท. 141 กก. 151 แยกกัน.โหวต...แบ่งคะแนน
ก็อย่าคิดไปก่อน..
เพราะ 
๑ เมื่อไม่มี มติพรรคการเมืองควบคุม ส.ส. จะแบ่งเป็นมุ้ง มากกว่า รวมตัวกันทั้งพรรค..
นัยยะคือ...ส.ส ควรฟังเสียง ประชาชนในพื้นที่มากกว่า  หัวหน้าพรรค 
๒ ส.ส. ในสภา ไม่ได้แบ่งแค่ 2 ฝ่าย 
แต่ เป็น 3 
1 ฝ่าย 3 ป.ชัดเจน 
2 ฝ่าย ปชต ชัดเจน
3 ฝ่ายกลาง ๆ 
ดังนั้น เมื่อไม่มีมติพรรค ส.ส..สามารถโหวตได้ตามเสรี...
อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ...
ส่วนถ้ามันจะออก มาว่า..
พปชร ภท หรือ พรรคอื่นๆ จะได้เป็น ประธานสภา...
ก็ต้องทำใจ.
ถ้า ส.ส ฝ่ายปชต ไม่รุ้จักคิดว่าจะโหวตยังไง...ก็ให้ ฝ่ายอื่น...เค้าเป็นไป..
เพราะนี่คือ การเคารพเสียงประชาชนโดยแท้จริง...

'ชลน่าน' ปัด 'เพื่อไทย-'ก้าวไกล' ต่องรองเก้าอี้ รมว.พลังงานแลกประธานสภา

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มแฟนคลับพรรคเพื่อไทยที่มายื่นหนังสือ 5 ข้อเรียกร้อง ว่า หลังรับหนังสือข้อเรียกร้องแล้ว ซึ่งเท่าที่ติดตามข่าว ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคไม่ได้เป็นข้อผูกมัด ก็จะต้องพิจารณาให้เหมาะสม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการถอนตัวเข้าร่วมรัฐบาลก็ต้องมาพิจารณาให้เหมาะสมว่ามีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้องนี้หรือไม่ 

“จะต้องมีคำตอบให้กับกลุ่มผู้เรียกร้องได้ว่าในสถานการณ์ขณะนี้สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือ รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย อาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้างที่จะต้องปรับจูนเข้าหากันเพื่อเป้าหมายใหญ่ ซึ่งทางพรรคก็รับฟังความเห็นของทุกฝ่าย โดยเฉพาะคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็จะต้องให้ความสำคัญ แต่ก็จะต้องมีการมาหารือกันภายในพรรคอีกครั้ง”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระแสข่าวเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีว่าจะมีการนำกระทรวงพลังงาน แลกกับตำแหน่งประธานสภาฯ นพ.ชลน่าน ว่า โผครม.เป็นการวิเคราะห์กัน แต่ยืนยันว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ยังไม่มีการเจรจากันแบบนั่งโต๊ะพูดคุยกันเรื่องนี้เลย และในพรรคก็ยังไม่ได้พูดคุยกันด้วย เพราะพรรคมีคณะเจรจาอยู่ จึงได้มอบหมายภารกิจไป และอะไรที่จะเป็นข้อตัดสินใจในนามพรรคก็จะมาปรึกษาหารือกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุย

ส่วนการหารือกันในวันอังคารที่ 30 พ.ค.ที่พรรคก้าวไกลนัดหมายนั้น ยังไม่ทราบว่าว่าจะพูดคุยกันเรื่องใดบ้าง เพราะพรรคแกนนำนัดหมายวันและเวลา แต่ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดการหารือ และคิดว่าคงจะเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ
 
เมื่อถามว่า จะได้ข้อสรุปหรือไม่ว่าจะตกลงกันได้เรื่องเก้าอี้ประธานสภา นพ.ชลน่าน มองว่า ขึ้นอยู่กับบรรยากาศการพูดคุย และหวังว่าน่าจะตกลงกันได้และคุยกันได้ เพราะเราต้องยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เป็นความคาดหวังของประชาชน รวมกันกว่า 25 ล้านเสียง และพยายามทำในสิ่งที่ประชาชนมอบหมาย และคาดหวังให้บรรลุวัตถุประสงค์ หากการพูดคุยอะไรเพื่อไปสู่เป้าหมายหลัก ก็จะต้องหันหน้ามาคุยกัน และไม่ควรจะมาเป็นเงื่อนไขว่าจะไปด้วยกันไม่ได้

“ในมุมของผมหากไม่เกี่ยวกับพรรคนั้น เราควรจะตั้งเป้าว่า เงื่อนไขที่จะไปด้วยกันไม่ได้ต้องไม่มี ไม่คุย ต้องหาเงื่อนไขที่เราสามารถทำงานร่วมกันได้ ถ้าตั้งเป้าแบบนี้ทุกฝ่ายทุกคนก็จะช่วยกันหาทางออก มันไม่มีใครได้เปรียบเสียบเปรียบหรอก มันต้องมีทั้งฝ่ายหนึ่งได้ฝ่ายหนึ่งก็ต้องเสีย มันไม่มี ได้ได้ เสียเสีย หรอก แล้วทุกคนจะมีความสุข”

เมื่อถามว่า ตัวของนพ.ชลน่านจะนั่งเก้าอี้ประธานสภาฯเองหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า  ก็คงต้องพูดคุยกันต่างฝ่ายก็เสนอความจำเป็น ความต้องการของตัวเอง และเอาเหตุผลความจำเป็นมาคุยกันบนพื้นฐานที่ต้องทำงานร่วมกัน แยกกันไม่ได้ ถ้าทำงานร่วมกันแยกกันไม่ได้มิติการพูดคุยกันก็จะง่ายขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net