รายละเอียดแถลงการณ์สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

เรื่อง หยุดข่มขู่คุกคามจากการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน และเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 นายเฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น ได้ร้องเรียนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กรณีการถูกข่มขู่ คุกคาม จากการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน จนก่อให้สร้างความหวาดกลัวต่อบุคคลในครอบครัว

สืบเนื่องจากวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 คนร้ายไม่ทราบจำนวนนำกล่องพัสดุส่งมายัง “บริษัททันหุ้น” จ่าหน้าถึงนายเฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น เมื่อเปิดกล่องพัสดุภายในกล่องพบมีรูปบุตรชายของนายเฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา พร้อมด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิด/ขนาด และระบุข้อความข่มขู่ว่า "กูให้มึง 7 วัน" และได้แจ้งความไว้ที่ สน.มักกะสัน โดยการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อนายเฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา และครอบครัว ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันและยังได้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุตรทั้ง 2 คนทั้ง โรงเรียน ครูอาจารย์ หมู่บ้าน และคนใกล้ชิดที่แสดงความเป็นห่วง พร้อมกับการเพิ่มความเข้มงวดในการดูแล

ต่อมา ในคืนวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 01.30 น. คนร้ายได้ปาวัตถุคล้ายระเบิด 3 ลูกด้วยกันเข้ามาภายในบ้านพักของนายบุญมี อ่อมน้อม บรรณาธิการบริหารทันหุ้น อันเป็นเหตุการณ์คุกคามอีกครั้ง และมีการแจ้งความไว้ที่​ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ดังนั้น ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ส่งผลให้การทำงานของบุคลากรของหนังสือพิมพ์ทันหุ้นหลายคน เกิดความวิตกในด้านความปลอดภัยต่อตนเอง และบุคคลในครอบครัวเป็นอย่างมาก

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว มีความเห็นว่า การกระทำทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นพฤติกรรมนอกกฎหมายมุ่งข่มขู่ และคุกคามโดยตรงต่อ นายเฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น และนายบุญมี อ่อมน้อม บรรณาธิการบริหารทันหุ้น ซึ่งได้ทำหน้าที่ของสื่อมวลชนตามสิทธิเสรีภาพ ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อนำข้อมูล ข้อเท็จจริง และความจริงเสนอต่อสาธารณชน

นอกจากนี้ ทั้ง 2 เหตุการณ์มีลักษณะที่สุ่มเสี่ยงเป็นการลิดรอนเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชน ด้วยการข่มขู่คุกคามโดยวิธีนอกกฎหมายอย่างร้ายแรง สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จึงขอประณามการกระทำดังกล่าว พร้อมทั้งมีข้อเสนอดังนี้

1. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการปกป้องคุ้มครองประชาชน และการใช้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน เพราะการคุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชนเท่ากับเป็นการคุกคามเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงของประชาชน และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ
2. ขอเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน และประชาชน เมื่อคดีมีความคืบหน้าขอให้แถลงผลความคืบหน้าในคดีให้สาธารณชนทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อความปลอดภัยแก่ประชาชน
3. หากผู้ใดที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน กรณีเห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย หรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนผ่านสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ​ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารโดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอย่างมั่นคงต่อไป

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
25 กรกฎาคม 2566

ที่มา: จุลสารราชดำเนิน