Skip to main content
sharethis

'สุรเชษฐ์' เจรจา 'พีมูฟ' ขอให้ย้ายกลับไปชุมนุมหน้า UN รอผลประชุม ครม.ดันนโยบาย 9 ด้าน วันที่ 10 ต.ค. 66 กลัวผู้ชุมนุมถูกฟ้อง พ.ร.บ. ชุมนุมฯ ยันไม่มีการสลาย ด้านผู้ชุมนุมปักหลักหน้าทำเนียบต่อจนกว่าจะมีความชัดจน

 

4 ส.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move รายงานวันนี้ (4 ต.ค.) ว่า เมื่อ 16.10 น. หน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมายังบริเวณที่ชุมนุมขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ โดยได้พบปะและพูดคุยถึงสถานการณ์การชุมนุมของพีมูฟ โดยได้กล่าวว่า รับทราบข้อเสนอของพีมูฟทั้ง 9 ด้านที่ได้พูดคุยกับทางตัวแทนรัฐบาลในช่วงเช้าที่ผ่านมา เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ และที่ตนมายังที่ชุมนุมในวันนี้เนื่องจากได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร. เรื่องความมั่นคง และมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการชุมนุมของพีมูฟ เนื่องจากว่าการจัดชุมนุมในบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาลนี้ เป็นการชุมนุมในสถานที่ห้ามชุมนุมตามพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 เกรงว่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงอยากให้ทางผู้ชุมนุมย้ายสถานที่ชุมนุมไปยังบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) แล้วรอติดตามผลการดำเนินการในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ต.ค. 2566 ต่อไป และยืนยันว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุมล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"เดิมที่พี่น้องได้ขออนุญาตไว้ที่หน้า UN พอเราเลื่อนมาตรงนี้ อันนี้จะผิดเงื่อนไขการชุมนุมสาธารณะ ผมอยากให้ท่านย้ายกลับยัง UN เพราะว่าเราไม่อยากให้ท่านมาแล้วมีคดีอะไรทั้งสิ้น วันนี้ก็ยอมรับว่าเราต้องไม่ทำให้ผู้กำกับในท้องที่เกิดความอึดอัด สำหรับผมไม่ปัญหาอะไรเพราะไม่ได้รับผิดชอบเขตพื้นที่ ก็ขอพี่น้องว่าถ้าเชื่อผม ให้ย้ายกลับไป UN" สุรเชษฐ์ กล่าว 

สุรเชษฐ์ หักพาล (ที่มา: เฟซบุ๊ก ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move)

อย่างไรก็ตาม ทางผู้ชุมนุมได้ให้ความเห็นในเรื่องการย้ายสถานที่ชุมนุมไปยังบริเวณหน้า UN ว่า ไม่สามารถตัดสินใจได้ในทันที เนื่องจากต้องพูดคุยร่วมกันในเครือข่ายประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม ประกอบกับข้อเสนอเชิงนโยบายทั้ง 9 ด้านของพีมูฟ ที่รองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย ได้รับปากว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ยังไม่ได้เห็นผลการดำเนินการที่ชัดเจน จึงยังไม่สามารถย้ายสถานที่ชุมนุมได้

ทั้งนี้ พีมูฟ เดินทางมาชุมนุมปักหลักที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 2566 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ผลักดันนโยบายทั้ง 9 ด้านของพีมูฟ ประกอบด้วย 1. แก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ส่งผลกระทบต่อเสรีภาพของประชาชน 2. กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 3. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 4. กระจายที่ดินทำกินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม 5. ทบทวนนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ 6. ส่งเสริมให้ชุมชนมีการจัดการร่วมในภัยพิบัติ 7. คุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ และสิทธิความเป็นมนุษย์ 8. คุ้มครองสิทธิของคนไร้สถานะ และ 9. ส่งเสริมรัฐสวัสดิการ

เมื่อช่วงเช้า ตัวแทนพีมูฟ 13 คนได้เข้าไปประชุมหารือกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาทางผลักดันการแก้ไขตามแนวทางนโยบาย 9 ด้านของพีมูฟ โดยเบื้องต้น ภูมิธรรม เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษา และบูรณาการแต่ละหน่วยงาน เนื่องจากข้อเสนอของพีมูฟผูกพันกับหลายหน่วยงาน และจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ต.ค. 2566 

ขณะที่ด้านพีมูฟ ยังไม่มีท่าทีตอบรับ จนกว่าจะได้เห็นความชัดเจน และก่อนหน้านี้ พชร คำชำนาญ สมาชิกพีมูฟ ระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะเสนอตั้งคณะทำงาน เนื่องจากสมัยรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา การตั้งคณะทำงานเช่นนี้เหมือนเป็นการเตะถ่วงเวลา และการผลักดันนโยบายไม่เดินไปข้างหน้า

ช่วงเวลาหลังจากนี้ มีการแสดงดนตรีของวงสามัญชน นำโดย 'แก้วใส' ณัฐพงษ์ ภูแก้ว และ 'ไผ่' จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และมีวงเสวนาถึงจุดมุ่งหมายของการมาชุมนุมของพีมูฟ ครั้งนี้ และปัญหาของนโยบายคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net