Skip to main content
sharethis

'เบญจา แสงจันทร์' สส.พรรคก้าวไกล ร่วมพูดคุยกับกลุ่มพีมูฟ ฝากส่งข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล หวังเปิดพื้นที่ให้คนตัวเล็กตัวน้อยที่ได้รับผลกระทบได้มามีส่วนร่วมแก้ปัญหาร่วมกัน

เพจขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม P-move รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2566 เวลา 18.45 น. เบญจา แสงจันทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล สัดส่วนบัญชีรายชื่อ ได้พูดคุยกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องขอพบนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และให้รัฐบาลรับข้อเรียกร้องเชิงนโยบาย 10 ด้าน เห็นชอบผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งปรากฏว่าหลายวันที่ผ่านมานี้กลุ่มผู้ชุมนุมถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ย้ายสถานที่ปักหลักชุมนุม และมีการอ้างมาตรการตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน

เบญจากล่าวว่า การแจ้งการชุมนุมค่อนข้างมีปัญหาและซับซ้อน ในทางพฤตินัยควรเป็นการแจ้งเพื่อทราบ แต่รัฐมักใช้เป็นเงื่อนไขในการยุติการชุมนุม ซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมาจากรัฐบาล คสช. ที่ออก พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ซึ่งตนคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในรัฐบาลนี้การชุมนุมควรเป็นไปโดยง่าย และไม่จำกัดสิทธิพี่น้องมากเกินไปนัก แต่ปรากฏว่าเช้านี้พี่น้องสมัชชาคนจนมาชุมนุม แต่ก็เจอการสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่และไม่ได้รับการอำนวยความสะดวก 

“ฝากส่งข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าการชุมนุมของพี่น้องประชาชนเป็นการปลดแอกจากความไม่ชอบธรรมจากนโยบายรัฐบาลในการบริหารประเทศ การเปิดพื้นที่ให้พี่น้องชาวบ้าน คนตัวเล็กตัวน้อยที่ได้รับผลกระทบได้มามีส่วนร่วมแก้ปัญหาร่วมกันกับรัฐบาลจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นการเปิดการมีส่วนร่วมเพื่อให้ประชาชนแก้ปัญหาตัวเองได้” เบญจากล่าว

นอกจากนั้นเบญจายังกล่าวถึงข้อเรียกร้อง 10 ประเด็นของพีมูฟ ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นข้อเรียกร้องที่ส่งถึงรัฐบาลด้วย อยากเห็นรัฐบาลทบทวนท่าทีในการแก้ปัญหา ทุกวันนี้ยังมีตัวแทนจรัฐบาลเข้าถึงพี่น้องประชาชนได้น้อยมาก ซึ่ง 10 ข้อร้องเรียนนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ และหลายพรรคการเมืองก็มีข้อเสนอทางนโยบายที่ตรงกับประชาชนและเป็นประโยชน์ เช่น แก้รัฐธรรมนูญ กระจายอำนาจ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการกระจายการถือครองที่ดิน ซึ่งรัฐญบาลต้องตอบสนองข้อเรียกร้องนี้อย่างไม่ล่าช้า

“สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือหลักการในการเพิ่มอำนาจให้พวกเราประชาชนที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของเรา ซึ่งทำได้โดยการแก้รัฐธรรมนูญ ทุกพรรคการเมืองพูดแบบเดียวกันหมดว่ารัฐธรรมนูญจาก คสช. ไม่ชอบธรรม และยังไปลดทอนสิทธิ ลดทอนอำนาจของเราในการเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา ฉะนั้นข้อเรียกร้องว่าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจึงเป็นประเด็นสำคัญมากที่พวกเราจะเข้ามามีพื้นที่มากขึ้น ดิฉันคาดหวังว่ารัฐบาลพลเรือนจะเปิดพื้นที่และเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากกว่านี้ ให้มาร่วมชุมนุมโดยสงบ ไม่ใช้วิธีการรุนแรงกับพวกเรา” สส. พรรคก้าวไกลย้ำ 

ในฐานะตัวแทนของพรรคก้าวไกล เบญจาย้ำว่าอยากมารับฟังปัญหาของทุกคน ถึงแม้พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านแต่ก็ยืนยันว่าเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่สร้างสรรค์ ฝากบอกพี่น้องประชาชนว่าข้อเรียกร้องจากทั่วประเทศ รวมถึงข้อเรียกร้องของพีมูฟ นอกจากฝ่ายรัฐบาลต้องรับไปดำเนินการแก้ไขแล้ว การพูดเรื่องนี้ในฐานะฝ่ายค้านก็มีความจำเป็นอย่างมาก พรรคก้าวไกลจะฟังเสียงของพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกเสียง การทำงานทั้งในสภา ในทำเนียบรัฐบาล ต้องรับฟังเสียงของพวกเรา ในการผลักดันวาระต่างๆ สามารถผลักดันได้เลยผ่านนโยบายและการออกแบบโดยรัฐบาลชุดนี้ โดยในฐานะฝ่ายค้าน จะผลักดันกฎหมายที่มีวาระก้าวหน้าใน 4 ปีหลังจากนี้ให้มากที่สุด ให้กฎหมายเหล่านี้เอื้อประโยชน์ให้คนตัวเล็กตัวน้อยอย่างแท้จริง

ย้ำว่าการทำงานในฝ่ายค้านเชิงรุกไม่ใช่แค่วิจารณ์รัฐบาล เราจะทำงานอย่างสร้างสรรค์ ติดตาม ตรวจสอบ นโยบายรัฐบาลอย่างเข้มข้น วิพากษ์นโยบายของรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง รวมถึงมีข้อเสนอถึงรัฐบาลด้วย วันนี้จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะรับฟังเสียงของประชาชนทุกคนที่จะเป็นข้อเสนอถึงรัฐบาลชุดนี้ ยังมีกลไกกรรมาธิการอีก 35 คณะ ที่ทำงานอย่างเข้มแข็งและเป็นระบบ เพื่อให้ข้อเรียกร้องเข้าสู่กลไกสภา และส่งข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้แก้ปัญหาเร่งด่วน ซึ่งปัญหาของประเทศไทยในวันนี้มันมีมากกว่า 10 ข้อของพีมูฟอย่างมาก คงต้องผลักดันวาระกฎหมายที่ก้าวหน้า ที่เราเรียกว่าชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศ

“เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใน 4 ปีหลังจากนี้ ดิฉันอยากเห็นสภาที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ยึดโยงกับประชาชน เรามี สส. เขตทั้ง 28 จังหวัดทั่วประเทศ เรามี สส เขตที่ทำงานเรื่องนี้กับประชาชนอย่างจริงจังเพื่อผลักดันวาระต่างๆ ของพี่น้อง การทำงานร่วมกันแบบเชิงรุกแบบนี้จะเห็นบรรยากาศที่ดี หวังว่าจะเป็นบรรยากาศที่ดีในการทำงานกับรัฐบาลชุดนี้ด้วย เราจะทำงานอย่างเต็มที่ตลอด 4 ปีที่ถึงนี้ สร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง เคารพสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพวกเราในฐานะประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของอำนาจในประเทศนี้ร่วมกัน” เบญจาย้ำ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net