Skip to main content
sharethis

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเมตา เปิดเผยว่า เฟซบุ๊กถูกกดดันจากรัฐบาลโจ ไบเดน ให้เซ็นเซอร์เนื้อหาที่เกี่ยวกับโควิด-19 ในช่วงการระบาดของโควิด และเขาเสียใจที่ตัดสินใจทำตามคำสั่ง

ซัคเคอร์เบิร์กทำจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมาธิการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฏรเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2024 ว่า เขาเสียใจที่ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ “ในปี 2021 เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลไบเดนกดดันหลายครั้งให้ทีมของเราเซ็นเซอร์เนื้อหาบางอย่าง รวมทั้งเรื่องตลกขบขัน และการเสียดสีด้วย” แม้ว่าเมตาจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะนำเนื้อหาออกหรือไม่ แต่การกดดันของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ผิด “ผมเสียใจที่เราไม่ออกมาพูด”

จดหมายเปิดผนึกนี้ส่งถึงจิม จอร์แดน (Jim Jordan) ส.ส.พรรครีพับลิกันประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎรที่สอบสวนการกำกับเนื้อหาของแพลตฟอร์มออนไลน์ จอร์แดนยินดีกับจดหมายนี้และโพสต์ผ่าน X ว่า “นี่เป็นชัยชนะของเสรีภาพในการพูด”

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เฟซบุ๊กปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับโควิด โดยระบุว่า เนื้อหาที่ถูกลบออกจะขยายขอบเขตรวมถึงข้อมูลผิดเกี่ยวกับไวรัสและวัคซีน หลังจากได้ปรึกษาหารือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขซึ่งรวมถึงองค์การอนามัยโลก เพียงปีเดียว เฟซบุ๊กเอาเนื้อหาออกไปอย่างน้อย 20 ล้านโพสต์ โดยแจ้งว่ามีข้อมูลบิดเบือนที่เกี่ยวกับโควิดหรือเนื้อหาอื่นๆ ที่ขัดแย้งกับนโยบายของเว็บ นอกจากนี้เมตายังลดเนื้อหาที่เกี่ยวกับการเมืองในเฟซบุ๊กนับตั้งแต่ปี 2021 ด้วย

เขากล่าวว่า ตอนนี้ตนเองและเมตาพร้อมคัดค้าน หากเกิดเหตุแบบเดียวกันนี้

ทำเนียบขาวอธิบายว่า สนับสนุนการแสดงความรับผิดชอบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมกับกล่าวว่า จุดยืนของทำเนียบขาวนั้นชัดเจนและคงเส้นคงวา เราเชื่อว่าบริษัทไอทีและภาคเอกชนควรจะรับผิดชอบการกระทำต่อชาวอเมริกัน

นอกจากนี้ซัคเคอร์เบิร์กยังอ้างว่า บริษัทของตนเองลดเนื้อหาที่เกี่ยวกับลูกชายของไบเดน ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งของยูเครนก่อนการเลือกตั้ง 2020  หลังจากที่เอฟบีไอเตือนว่าให้ระวังปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารจากรัสเซีย แต่ตอนหลัง เขาพบว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารเลย และแพลตฟอร์มเปลี่ยนนโยบายไม่ให้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในสหรัฐอเมริกาถูกลดอีกต่อไป

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เมตาประกาศนโยบายด้วยว่า เพื่อให้การใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ของเมตาเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุกคน จะจำกัดอัลกอริที่มที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองชัดเจนสำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดตามบัญชีเหล่านั้น ซึ่งผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ สามารถเลือกว่าจะไม่ใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้

ย้อนกลับไปอีก 2020 เขาบริจาคเงิน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐผ่าน Chan Zuckerberg Initiative องค์กรการกุศลของตัวเอง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยรัฐจัดการกับการเลือกตั้งในช่วงโควิดระบาด แต่กลับมีข้อมูลบิดเบือนในโซเชียลมีเดียว่า เขาใช้ช่องว่างทางกฎหมายบริจาคเงินเพื่อช่วยให้ไบเดนชนะ สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวว่า เขาไม่ต้องการสนับสนุนใคร “เป้าหมายของผมคือเป็นกลาง และไม่แสดงบทบาทใดบทบาทหนึ่ง หรือเข้าไปมีบทบาทใดๆ”

ทั่วโลกถกเถียงกันมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการควบคุมเนื้อหาของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ บางแพลตฟอร์มเชื่อว่า พวกเขาไม่ควรเข้าไปบอกว่าผู้ใช้ว่า พูดอะไรได้หรือไม่ได้ แต่รัฐบาลต่างๆ ให้เหตุผลว่า นโยบายไม่แทรกแซงก่อให้เกิดพฤติกรรมอาชญากรรมได้ ทางการฝรั่งเศสเพิ่งจับกุมพาฟเวล ดูโรฟ ผู้ร่วมก่อตั้งแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม กล่าวหาว่า บริษัทไม่มีการควบคุมการก่ออาชญากรรมมากพอ ซึ่งรวมถึงการเป็นช่องทางเผยแพร่การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก

อ้างอิง

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net