'เวียดนาม' เสียหายหนักจาก 'ไต้ฝุ่นยางิ' ล่าสุดช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (8 ก.ย.) อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว แต่ยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง - ผู้นำจีนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระบวนการฟื้นฟูภัยพิบัติ หลังไต้ฝุ่นยางิ พัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ สร้างความเสียหายและไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง

ภาพถ่ายดาวเทียมไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ในทะเลจีนใต้ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2567 | ที่มาภาพ: NOAA

8 ก.ย. 2567 Thai PBS รายงานว่าไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของเอเชียในปี 2567 พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมสูงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้มีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและคลื่นสูงถึง 4 เมตร อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนในหลายเมือง

เจ้าหน้าที่เวียดนามสั่งอพยพประชาชนในเมืองชายฝั่งมากกว่า 50,000 คนไปยังที่ปลอดภัย พร้อมทั้งสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 450,000 คนรับมือกับผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น

ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาเวียดนาม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (8 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ซูเปอร์ไต้งฝุ่นยางิอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน แต่ยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังฝนตกหนัก ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มตามมา โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือของประเทศ

ล่าสุด มีรายงานว่าอิทธิพลของพายุลูกนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในกรุงฮานอยอย่างน้อย 3 คน ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 7 คน บาดเจ็บอีก 78 คน และมีชาวประมงสูญหายในทะเลอีกมากกว่า 10 คน ซึ่งคาดว่าสภาพอากาศในวันนี้จะดีขึ้นและเริ่มปฏิบัติภารกิจค้นหาได้

ขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ในกรุงฮานอย ซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดทางตอนเหนือของเวียดนาม กลับมาเปิดให้บริการแล้ว

ก่อนหน้านี้ พายุลูกนี้พัดถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนและยังคงสูญหายอีก 22 คน ก่อนก่อตัวเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นในอีกไม่กี่วันต่อมาและพัดถล่มจีนกับเวียดนาม

ผู้นำจีนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระบวนการฟื้นฟูภัยพิบัติ

สำนักข่าวไทย รายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รับรองความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ด้วยการระดมกำลังในการช่วยเหลือกู้ภัย ดูแลเรื่องการอพยพและย้ายที่อยู่ของผู้ประสบภัยอย่างดี ป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติรอง และทำทุกวิถีทางเพื่อลดการสูญเสียชีวิตให้มากที่สุด

ประธานาธิบดีสียังได้ขอให้เร่งซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายอย่างรวดเร็ว รวมถึงระบบขนส่ง ไฟฟ้า และการสื่อสาร และขอให้มีการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติในเชิงรุก เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด

ด้านนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามเส้นทางของไต้ฝุ่นอย่างใกล้ชิด และดำเนินการมาตรการหลากหลายอย่างในการป้องกันภัยพิบัติอย่างเต็มที่

ไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 11 ของปีนี้ ได้พัดกระหน่ำมณฑลไห่หนาน หรือไหหลำ และมณฑลกว่างตง หรือกวางตุ้งที่อยู่ติดกัน รวมทั้งเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 1.2 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 95 คน