Skip to main content
sharethis

ผู้ต้องขังคดีการเมืองสะท้อนปัญหาการรับ-ส่ง ‘จดหมาย’ หลัง ผบ.คุกออกระเบียบใหม่ ถูกจำกัดมากขึ้น ผู้ต้องขังเริ่มอุทธรณ์ให้ทบทวนคำสั่งแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า

เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.2567) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเพิ่มเติมกรณีผู้ต้องขังคดีทางการเมืองประสบปัญหาระเบียบการรับ-ส่งจดหมายระหว่างผู้ต้องขังกับคนข้างนอกเรือนจำผ่านแอพ DomiMail ที่ก่อนหน้านี้ประชาไทเคยรายงานข่าวไว้เมื่อ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์ทนายความฯ รายงานโดยอ้างถึงคำบอกเล่าของผู้ต้องขังคดีการเมือง 3 คนที่ผ่านทนายความออกมาได้แก่ “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ, “บุ๊ค” ธนายุทธ และ“ก้อง” อุกฤษฏ์

สิรภพกล่าวถึงการจำกัดจำนวนจดหมายที่รับ-ส่งกัน และลดจำนวนบรรทัดที่เขาจะเขียนลงในจดหมายได้จากเดิมที่เขียนได้ทั้งกระดาษ 19 บรรทัด แต่ตอนนี้โดนลดให้เหลือ 15 บรรทัด เขาคาดว่าเจ้าหน้าที่พยายามแก้ปัญหาคนตรวจจดหมายไม่พอ โดยสร้างข้อจำกัดกับผู้ต้องขังมากขึ้น ทำให้ตอนนี้นอกจากเขาแล้วยังมีผู้ต้องขังคดีอื่นๆ ในเรือนจำเริ่มมาสนใจปัญหานี้และอยากร่วมร้องเรียนกับทางเรือนจำด้วยเพราะประสบปัญหาเหมือนกัน

สิรภพบอกด้วยว่าสภาพที่เป็นอยู่นี้สร้างความเครียดกับเขาที่ต้องใช้ชีวิตในเรือนจำตอนนี้ เพราะเขาใช้ช่องทางการเขียนจดหมายถึงคนรัก เพื่อนและครอบครัว ในการระบายเรื่องราวต่างๆ

“ผมคิดว่าเขาชอบออกกฎมาแก้ปัญหาการจัดการของเขาเอง เน้นให้ง่ายกับเจ้าหน้าที่ โดยที่ไม่ได้สนใจชีวิตของผู้ต้องขังเลย” “บุ๊ค” ธนายุทธ ณ อยุธยา ระบุในรายงานของศูนย์ทนายความฯ

ธนายุทธบอกว่าทางเรือนจำนำเอกสารกฎของระเบียบเกี่ยวกับการส่งจดหมายใหม่มาติดในเรือนจำและทยอยบังคับใช้ในแต่ละแดนมาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.2567 ในเอกสารยังลงลายมือชื่อของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไว้ด้วย และกฎระเบียบที่เพิ่มมาเหล่านี้ทำให้ผู้ต้องขังสื่อสารกับโลกภายนอกยากมากขึ้นด้วย ทั้งที่กฎเหล่านี้ไม่ได้มีความสมเหตุสมผลอย่างมาก

ธนายุทธยกตัวอย่างเรื่องการจำกัดให้ผู้ที่จะส่งจดหมายเข้ามาได้ต้องเป็นคนใน 10 รายชื่อที่เข้าเยี่ยมได้เท่านั้น หรือเรื่องปากกาที่ทางร้านค้าในเรือนจำงดขายปากกาชั่วคราวแต่ไม่สามารถสั่งจากข้างนอกได้ เพราะเจ้าหน้าที่อ้างว่าเอาปากการมาจุดไฟได้เป็นการใช้ผิดวิธีซึ่งทำให้เขาสงสัยว่าเอามาจุดได้อย่างไรแล้วตอนนี้ปากกาที่มีอยู่หมึกก็หมดไปทีละด้ามทำให้เขียนจดหมายส่งออกได้ยาก

นอกจากการจำกัดจำนวนบรรทัดแล้ว “ก้อง” อุกฤษฏ์ ระบุเพิ่มเติมว่า ทางเรือนจำยังห้ามระบายสี หรือวาดเป็นภาพด้วย และเขียนได้แค่ภาษาไทยหรืออังกฤษเท่านั้น ทั้งที่เรือนจำไม่ได้มีคนใช้แค่ 2 ภาษานี้เท่านั้นแต่ยังมีคนพม่า จีน หรือกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่สามารถเขียนใน 2 ภาษานี้ได้ 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net